• สรุปข่าวราคาทองคำ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 16 มิถุนายน 2564

    16 มิถุนายน 2564 | Gold News

ทองคำปรับลง ขณะที่ดอลลาร์แข็งค่า ท่ามกลางตลาดรอคอยประชุมเฟด


· ราคาทองคำปรับลดลงในวันนี้ ขณะที่ดอลลาร์แข็งค่า ท่ามกลางตลาดยังคงจับตาผลการประชุมเฟดที่ได้เน้นย้ำถึงวิธีการเข้าลดวงเงินเข้าซื้อ QE


· ราคาทองคำตลาดโลกปรับลดลง 0.2% ที่ระดับ 1,855.12 เหรียญ


· สัญญาซื้อขายราคาทองคำ ทรงตัวที่ระดับ 1,856.20 เหรียญ


· ดอลลาร์ทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 1 เดือน เมื่อเทียบค่าเงินสกุลอื่น


· ข้อมูลค้าปลีกสหรัฐฯของเดือนพ.ค.ปรับลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ ขณะที่ดัชนีราคาผู้ผลิตปรับขึ้นแตะ 6.6% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี นับเป็นการปรับขึ้นครั้งใหญ่ตั้งแต่เดือนพ.ย.2010


· ทั้งนี้ ประเด็นแรกของถ้อยแถลงบรรดาสมาชิกเฟด ถูกคาดว่า จะกล่าวถึงวิธีการและเวลาที่จะหยุดโครงการเข้าซื้อพันธบัตรในจำนวนมากภายในปีนี้ ในช่วงท้ายประชุมคืนนี้


· ที่ปรึกษาของ Metals Focus มองว่า ความต้องการทองคำจากผู้ค้าอัญมณี และบรรดาธนาคารกลางอาจจะฟื้นตัวในปีนี้ แต่ยังคงต่ำกว่าในช่วงก่อนการแพร่ระบาด ขณะที่กองทุน SPDR ลดการถือครองทองคำลงอย่างรวดเร็


· MoneyControl ชี้ ทองคำทรงตัว-ตลาดรอแถลงผลประชุมเฟด

รายงานจากสถาบัน Prithvifinmart Commodity Research ระบุว่า ดอลลาร์ทรงตัวก่อนทราบผลประชุมเฟดเช่นกัน ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปี ปรับขึ้นอีกครั้งทะยานเหนือ 1.5%


ภาพรวมจึงคาดว่าราคาทองคำน่าจะเกิดความผันผวนได้ในวันนี้ โดยราคาทองคำอาจ Break แนวรับสำคัญ 1,850 เหรียญ ที่อาจสะท้อนถึงการอ่อนตัวในวาระการประชุมเฟดได้ ก่อนจะปิดในกรอบ และทองคำจะมีกรอบแนวรับที่ 1,850 และ 1,834 เหรียญตามลำดับ ขณะที่แนวต้านด้านบนจะอยู่บริเวณ 1,868 และ 1,884 เหรียญ


ทองคำน่าจะเคลื่อนไหวจากคาดการณ์ที่เฟดอาจย้ำถึงการ "คุมเข้ม" ทางการเงิน และท่าทีต่อไปในการดำเนินนโยบายของเฟด


กองทุนทองคำ ETFs เคลื่อนไหวในทิศทางขาลง ขณะที่ ความต้องการทองคำและซิลเวอร์ในอินเดียเริ่มอ่อนตัวลงในเช้าวันนี้


ทองคำและซิลเวอร์วันนี้มีสัญญาณถูกแรงเทขาย ควบคู่กับสัญญาณทางเทคนิครายสัปดาห์ โดยเทรดเดอร์แนะนำให้รอเปิด Short เมื่อราคาเข้าใกล้ระดับแนวต้าน และภาพรวมบรรดาเทรดเดอร์ก็จะรอดูระดับสำคัญทางเทคนิคที่อาจกดดันราคาให้หลุดต่ำกว่าได้


· ทองและซิลเวอร์จะ Breakout ได้จากประชุมเฟดหรือไม่?




นักวิเคราะห์จาก FXLeaders กล่าวว่า กลุ่มนักลงทุนและเทรดเดอร์มีแนวโน้มจะเฝ้าระวังเรื่อง "ดอกเบี้ย" และ "การอัดฉีดเงิน" ของเฟด โดยพวกเขาหวังว่าจะเห็นท่าทีของเฟดมากขึ้นเกี่ยวกับตลาดแรงาน รวมไปถึงการปรับขึ้นของเงินเฟ้อที่ทั้งหมดนี้จะมีผลต่อตลาดซื้อขาย "ทองคำ" และ "ซิลเวอร์"


โอกาสเกิดขึ้น 2 ทางสำคัญ

- ทองคำกับระดับ 1,900 เหรียญ

- ซิลเวอร์กับระดับ 28 เหรียญ


โดยหากทองคำและซิลเวอร์สามารถผ่านขึ้นเหนือระดับสำคัญดังกล่าวได้ จะทำให้ภาพรวมตลาดเป็น "ขาขึ้น"


ทั้งนี้ หากเราสามารถไปถึงระดับสำคัญของตลาดทองคำและซิลเวอร์ได้ ก็จะทำให้สภาวะซื้อขายในตลาดคล่องตัวมากขึ้น โดยปราศจากการถือ Short จกาธนาคารกลางต่างๆ แต่ ณ เวลานี้ ก็คงต้องรอดูว่าจะเห็นเฟดตัดสินใจอย่างไร


อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์จาก FXLeadrs ยังแนะนำให้จับตาไปยัง "ถ้อยแถลงของนายโพเวลล์" อย่างใกล้ชิด และแนวโน้มที่กำลังจะเกิด เพราะยังหวังว่าจะเห็นภาวะขาขึ้นอย่างมากในตลาดทองคำและซิลเวอร์ในโอกาสต่อไป


· ซิลเวอร์ ปรับลดลง 0.1% ที่ระดับ 27.62 เหรียญ

· พลาเดียมปรับขึ้น 0.1% ที่ระดับ 2,765.96 เหรียญ

· แพลตตินั่ม ปรับลดลง 0.2% ที่ระดับ 1,151.54 เหรียญ


· สิ่งที่ตลาดคาดหวังจะได้ยินจากเฟดคืนนี้!




การประชุมเฟดในวาระนี้ "ไม่คาด" ว่าเฟดจะดำเนินการใดๆ แต่ "มีแนวโน้ม" จะส่งสัญญาณถึงสิ่งที่พวกเขากำลังคิด


นักเศรษศาสตร์บางคน คาดว่า เฟดอาจกล่าวถึง

- การลดโครงการเข้าซื้อพันธบัตร (QE)

- การส่งสัญญาณชี้นำถึงการ "เริ่มต้น" หารือ แต่ไม่ได้ระบุว่าจะลด QE อย่างเต็มรูปแบบเมื่อใด

- เฟดจะมีการเปิดเผย *คาดการณ์เศรษฐกิจชุดใหม่" ประจำไตรมาสที่ 2/2021 นี้ด้วย


สิ่งที่ตลาดคาดหวัง:


การหารือเรื่องลด QE

- นักเศรษฐศาสตร์บางส่วนคาดว่า เฟดอาจ "เริ่มต้น" เปิดเจรจาเรื่องการลด QE ในสัปดาห์นี้

- รายละเอียดการลดวงเงินการเข้าซื้อพันธบัตรรายเดือน เดือนละ 1.2 แสนล้านเหรียญ "น่าจะยังไม่ถูกเปิดเผย" จนกว่าจะถึงช่วงปลายปีนี้

- นักเศรษฐศาสตร์หลายๆคน คาดว่า *เจ้าหน้าที่เฟดน่าจะเริ่มหารือช่วง "ปลายเดือนส.ค." ณ การประชุมธนาคารกลางที่เมือง Jackson Hole รัฐไวโอมิง ที่เป็นกาประชุมประจำปีของภาคธนาคาร* โดยเฟดอาจมทีการกล่าวถึงการลดการเข้าซื้อพันธบัตรในปีนี้ หรือ "ปีหน้า" ได้


การเริ่มต้นหารือเรื่องลดนโยบายผ่อนคลาย

นายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด อาจเป็นคนเพิ่มโอกาสการหารือเรื่องลด QE หลังจบประชุมได้ และค่อนข้างมั่นใจว่า เขาจะถูกถามจากสื่อในประเด็นดังกล่าวอย่างแน่นอน


ความร้อนแรงของเงินเฟ้อ

- เฟดถูกคาดว่าจะยังหนุนมุมมองการปรับขึ้นต่อของเงินเฟ้อในปีนี้ หลังข้อมูลเดือนพ.ค. ปรับขึ้นได้อย่างร้อนแรง

- ดัชนี CPI เดือนพ.ค. ทะยานแรงแตะ 5%

- บรรดานักเศรษฐศาสตร์ให้ความสำคัญกับ คาดการณ์ปี 2023

- นักเศรษฐศาตร์จาก JPMorgan คาดว่า สมาชิกเฟดหลายคนจะมีการเปลี่ยนท่าทีและการสนับสนุนการขึ้นดอกเบี้ยปี 2023 นับตั้งแต่ที่เงินเฟ้อมีแนวโน้มขึ้นต่อในอนาคต ที่จะเป็นตัวทำให้เฟดเปลี่ยนแนวทางการดำเนินนโยบาย


คาดการณ์เกี่ยวกับเงินเฟ้ออาจสะท้อนผ่าน "Dot Plot" ของเฟด ที่วัดมุมมองดอกเบี้ยจากเฟด ว่าจะเปลี่ยนมุมมองการขึ้นดอกเบี้ยในปี 2023 หรือไม่


บรรดานักกลยุทธ์จาก Bank of America "ไม่คิดว่า" จะเห็นสมาชิกเฟดพร้อมใจกันขึ้นดอกเบี้ยปี 2023 แต่ประเด็นนี้ก็ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ตลาดรอคอย


อัตราดอกเบี้ยของเฟด

ภาพรวมนักวิเคราะห์คาดหวังจะเห็นเฟดขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป ท่ามกลางแรงกดดันเงินเฟ้อระยะสั้นที่จะส่งผลกระทบต่อตลาดในช่วงสั้นๆ


· ค้าปลีกจีนแย่กว่าคาดอีกครั้ง โดยเดือนพ.ค. ขยายตัวได้เพียง 12.4% จากที่คาดว่าจะออกมาโตได้ 13.6% และเดือนเม.ย.ขึ้นสูง 17.7%

ภาพรวมยอดค้าปลีกยังคงพลาดเป้า แม้ว่ารัฐบาลจะพยายามสนับสนุนค่าใช้จ่ายและการที่ตลาดหลักๆเข้าสู่ช่วงวันหยุดในเดือนนี้

ค่าใช้จ่ายของกลุ่มผุ้บริโภคในจีนก็ดูจะซบเซาและกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจีน จากยอดระบาดของ Covid-19 ที่เพิ่มมากขึ้น

ข้อมูลภาคอุตสาหกรรมการผลิตในจีนปรับขึ้น 8.8% เมื่อเทียบปีที่แล้วในเดือนพ.ค. น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะโตได้ 9%


· บรรดาภาคธุรกิจและผู้บริโภคกำลังวิกฤตการขนส่งทางเรือกำลังสร้างความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ Covid-19 ที่กำลังระบาดทางตอนใต้ของจีนอีกครั้ง ที่ส่งผลให้บริการท่าเรือหยุดชะงัก รวมทั้งการส่งมอบล่าช้า ขณะที่ต้นทุนสินค้าเพิ่มสูงขึ้น


· ประเทศจีนได้ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโคโรนารายวันเพิ่มขึ้น 3 เท่าในเดือนมิ.ย. ส่งผลให้ประชากร 44% ฉีดวัคซีนอย่างน้อย 1 โดส แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเตือนถึง การเปิดชายแดนอีกครั้งอย่างรวดเร็ว โดยอ้างถึงการเปิดตัวที่ไม่สม่ำเสมอและอัตราการฉีดวัคซีนในอัตราต่ำ


· รายงานยอด Covid-19 ในจีนวันนี้ "ไม่พบยอดติดเชื้อใหม่" ครั้งแรกจากการระบาดรอบล่าสุด โดยเฉพาะในเมืองกวางโจว ทางตอนใต้ของจีน ที่พบยอดติดเชื้อเป็นศูนย์ จากที่พบการระบาดระรอกแรกเมื่อ 21 พ.ค.


· อัตราเงินเฟ้อของอังกฤษประจำเดือนพ.ค.พุ่งขึ้นเหนือเป้าหมายของบีโออีที่ระดับ 2.0% โดยปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับ 2.1% และมีแนวโน้มว่าจะสูงขึ้นอีก ขณะที่ประเทศกลับมาเปิดเศรษฐกิจอีกครั้งหลังจากมาตรการ Lockdown เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา

ทั้งนี้ การปรับขึ้นของเงินเฟ้อสูงกว่าเดือนเม.ย. ที่ขยายตัวได้ 1.5% โดยการกลับมาปิดทำการทางเศรษฐกิจดูจะเป็นผลให้เงินเฟ้อขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เสื้อผ้า, พลังงานรถมอเตอร์ไซต์, เกมส์ และการสั่งอาหารกลับบ้าน


· สถาบัน Ifo ของเยอรมนีปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจจากภาวะคอขวดด้านอุปทาน

เศรษฐกิจเยอรมนีมีแนวโน้มจะอ่อนตัวกว่าที่คาดแตะ 3.3% ปีนี้ หลังเผชิญภาวะคอขวดในกลุ่มอุปทานที่ส่งผลกระทบต่อภาคการผลิตและผลผลิตของภาคอุตสาหกรรม

แต่ปี 2022 คาดจีดีพีอาจโตได้ 4.3% จากแถว 3.2% ที่เคยคาดไว้ในช่วงก่อนหน้า


· รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสิงคโปร์ ชี้ สิงคโปร์อาจกลายมาเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคเรืื่อง "การลงทุนสีเขียว" จากแผนเพิ่มการลงทุนก่อสร้างเศรษฐกิจสีเขียวรูปแบบใหม่


· รัฐมนตรีกระทรวงการคลัวสิงคโปร์ ยังระบุถึง การเดินทางในเอเชียด้วยสายการบิน"จะยังไม่สามารถ" กลับไปได้เท่าช่วงก่อนไวรัสระบาดในเร็วๆนี้


· คาดเจรจาไบเดน-ปูตินวันนี้ คืบหน้าต่ำ จากข้อขัดแย้งที่ยังมีอยู่เป็นวงกว้าง


· ตึงเครียดทวีความรุนแรงมากขึ้น หลังอิสราเอลโจมตีทางอากาศใส่กลุ่มฮามาสบริเวณเขตฉนวนกาซา ในเช้าวัันนี้ เพื่อตอบโต้ลูกโป่งเพลิงที่ลอยข้ามดินแดนจากกลุ่มฮามาสไปอิสราเอล


ที่มา : Kitco, The Week, CNBC, Reuters, Money Control


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com