ทองคำปิดร่วงกว่า 1% หลังเฟดเผยคาดการณ์ขึ้นดอกเบี้ยปี 2023
· ราคาทองคำตลาดโลกปิด -1.1% บริเวณ 1,839.06 เหรียญ
หลังจากที่ช่วงต้นตลาดทำต่ำสุดตั้งแต่ 14 พ.ค. ที่ระดับ 1,833.65 เหรียญ
· สัญญาทองคำส่งมอบเดือนส.ค. ตลาด Comex ปิดปรับขึ้นเล็กน้อย +0.3% ที่ 1,861.40 เหรียญ
· เช้านี้ ทองคำตลาดโลกทรุดตัวลงต่อทดสอบ 1,800 เหรียญอีกครั้ง โดยเช้านี้ทำต่ำสุดบริเวณ 1,803 เหรียญ หรือเข้าใกล้ต่ำสุดช่วง 17 ม.ค. ที่ทำไว้แถว 1,802 เหรียญ
· ราคาทองคำถูกกดดันจากการที่เฟดส่งสัญญาณชี้นำเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกช่วงหลังไวรัสระบาดในปี 2023 โดยคาดการณ์ใหม่ชี้ 11 จาก 18 สมาชิกเฟด เล็งเห็นโอกาสขึ้นดอกเบี้ยได้ 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25% ในปี 2023 แม้ว่าในการแถลงผลประชุมเฟดล่าสุดจะสะท้อนถึงการที่เฟดคงดอกเบี้ยระดับต่ำ และการใช้นโยบายผ่อนคลายต่อไปเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
· เฟดยังคงดอกเบี้ยระดับต่ำ 0 – 0.25% พร้อมการเข้าซื้อพันธบัตรรายเดือน 1.2 แสนล้านเหรียญต่อ แม้จะมีสัญญาณการเริ่มหารือการลด QE และโอกาสขึ้นดอกเบี้ยก็ตาม
· ทองคำถูกกดดันจากถ้อยแถลงของนาย “เจอโรม โพเวลล์” ประธานเฟด เกี่ยวกับการเดินหน้าซื้อพันธบัตร 1.2 แสนล้านเหรียญ/เดือน ในปัจจุบัน โดยจะเข้าซื้อต่อไปจนกว่าจะบรรลุเป้าหมายความก้าวหน้าอย่างยั่งยืนเรื่อง “การจ้างงานเต็มที่” และ “เป้าหมายเงินเฟ้อ 2%”
· นักวิเคราะห์ฝ่ายการตลาดอาวุโสจาก OANDA ระบุว่า เฟดมีสัญญาณที่จะทำการถอนนโยบายผ่อนคลายทั้งหมด จึงส่งผลให้เกิดสภาวะ Knee-Jerk ในทองคำ และการที่เฟดมีท่าทีคุมเข้มทางการเงินมากขึ้น ก็ดูจะส่งผลให้ทองคำร่วงลงต่อหลุด 1,830 เหรียญลงมา
แต่เฟดก็ยังไม่ได้เริ่มวัฎจักรคุมเข้มในตอนนี้ แม้จะเริ่มส่งสัญญาณมากขึ้น จึงกดดันดอลลาร์ระยะสั้น
· นายโพเวลล์ สร้าง “ความชัดเจน” ต่อตลาดก่อนจะดำเนินการเปลี่ยนแปลงนโยบายใดๆ โดยระบุว่า เฟดจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้าก่อนการประกาศตัดสินเปลี่ยนแปลงใด สำหรับการเข้าซื้อสินทรัพย์
· การที่ดอลลาร์กลับมาแข็งค่า พร้อมกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯที่ปรับตัวสูงขึ้นทดสอบ 1.6% อีกครั้ง ถือเป็นปัจจัยที่กดดันทองคำ
· กองทุนทองคำ SPDR เข้าซื้อทองคำเพิ่ม 1.17 ตัน ปัจจุบันถือครองทองคำเพิ่มมาที่ 1,045.78 ตัน
ส่งผลให้ภาพรวมเดือนมิ.ย. มีการถือครองทองคำเพิ่มขึ้น 2.57 ตัน เป็นการเข้าซื้อต่อเนื่องเดือนที่ 2 ของปีนี้
ขณะที่ตั้งแต่ม.ค. ถึง ปัจจุบัน SPDR มีสถานะขายสุทธิ 124.96 ตัน
· ซิลเวอร์ปิด +0.3% ที่ระดับ 27.71 เหรียญ
· พลาเดียมปิด +1.6% ที่ระดับ 2,805.86 เหรียญ
· แพลทินัมปิด -1.6% ที่ระดับ 1,134.50 เหรียญ
· ดอลลาร์แข็งค่าหลังเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยปี 2023
ค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่เฟดเผยคาดการณ์ชี้นำการขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกหลังช่วงไวรัสระบาดในปี 2023 โดยกล่าวย้ำถึงสถานการณ์ด้านสาธารณสุขที่ฟื้นตัว และการลดท่าทีของเฟดเกี่ยวกับมุมมองวิกฤตไวรัสกดดันการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
ดัชนีดอลลาร์ปิด +0.41% ที่ 90.901 จุด (แข็งค่ามากสุดตั้งแต่ 7 พ.ค.)
หัวหน้านักกลยุทธ์ค่าเงินจาก Scotiabank มองว่า ดอลลาร์ยังเคลื่อนไหวผันผวนในกรอบแคบ และการที่เฟดไม่ได้เปลี่ยนแปลงแนวโน้มการดำเนินนโยบายหลักๆ แม้จะเผชิญข้อมูลที่น่าผิดหวังต่อตลาด และยังมองการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อเป็นเพียงชั่วคราว ก็ดูจะชัดเจนว่าเฟดต้องการเห็นความยั่งยืนของเป้าหมายเงินเฟ้อและการจ้างงานก่อน จึงจะเดินหน้าลดการเข้าซื้อสินทรัพย์ จึงไม่ได้ทำให้ดอลลาร์เคลื่อนไหวแรงนัก
· อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ 10 ปี ปรับขึ้นจากเฟดเริ่มกล่าวถึงเรื่อง “ขึ้นดอกเบี้ย” ในปี 2023 จากเดิมที่มองไว้ในปี 2024 จากทิศทางเศรษฐกิจฟื้นตัว
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปรับขึ้นแตะ 1.594% สูงสุดตั้งแต่ 4 มิ.ย. ก่อนจะปิดแถว 1.57%
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 5 ปีแกว่งขึ้นรายวันครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่เดือนก.พ. ทำสูงสุดที่ 0.913% เป็นระดับสูงสุดตั้งแต่ 6 เม.ย.
· Bitcoin อ่อนตัว ปิด -2.72% ที่ 39,078.38 เหรียญ
· ทำเนียบขาว ชี้ ก่อนเฟดขึ้นดอกเบี้ยอาจไม่ทำให้ต้นทุนการกู้ยืมต่ำกว่าคาดการณ์ ทั้งคาดการณ์ดอกเบี้ยระยะยาว และแผนกองทุนเพื่อการลงทุนต่างๆ
ทั้งนี้ ทำเนียบขาวพึงพอใจกับคาดการณ์เศรษฐกิจของเฟดที่มองเศรษฐกิจสหรัฐฯจะโตได้ 7% จากสถานการณ์ด้านสาธารณสุขฟื้นตัวหนุนเศรษบกิจเติบโตได้อย่างรวดเร็ว อันเป็นส่วนหนึ่งจากการที่นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ผลักดันโครงการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนได้อย่างเป็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ดี ทำเนียบวขาว เปิดเผยว่า ทีมบริหารไบเดน อาจมีการปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจของรัฐบาลในเดือนหน้า เพื่อตอกย้ำถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และเชื่อว่าระดับหนี้แท้จริงจการอัตราการบริการจะยังคงเป็นลบ และจะค่อยๆปรับขึ้นเป็นบวกได้ในช่วง 10 ปีข้างหน้า
· ธนาคารกลางเกาหลีใต้ และเฟด เห็นพ้องขยายเวลาการ Swap ค่าเงินออกไปเป็นเวลา 3 เดือน จนถึง 31 ธ.ค. มูลค่า 6 หมื่นล้านเหรียญ ตั้งแต่ที่ทำข้อตกลงร่วมกันตั้งแต่มี.ค.ปีที่แล้ว เพื่อยับยั้งการระบาดของไวรัสที่จะสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจโลก และเป็นการช่วยพยุงเสถียรภาพของตลาดค่าเงินในประเทศ
· เดโมแครต - รีพับลิกัน กลับสู่การเจรจากรอบเวลา โครงสร้างพื้นฐาน
ตัวแทนสมาชิกวุฒิสภาจากพรรครีพับลิกันและเดโมแครตฝ่ายละ 10 คน จะเข้าหารือกันต่อเพื่อหาทางสนับสนุนกรอบเวลาดำเนินงานด้านการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน
ทางทำเนียบขาว ระบุว่า ในสัปดาห์นี้ทั้งสองฝ่ายน่าจะยังหารือกันต่อ และอาจกินเวลานานถึงสัปดาห์หน้าได้
· “ไบเดน” ยังคงกดดันรัสเซียให้ปล่อยตัวนักโทษจากชาวอเมริกา
· Reuters ชี้ การประชุมสุดยอดผู้นำไบเดน-ปูติน ยังมีความต่างกันอย่างมากในเรื่องความมั่นคงทางไซเบอร์ และการควบคุมอาวุธ
· CORONAVIRUS UPDATES:
ยอดติดเชื้อสะสมทั่วโลกเพิ่มขึ้นที่ 177.78 ล้านราย ขณะที่ยอดเสียชีวิตสะสมทั่วโลกแม้จะมีอัตราชะลอตัวลงแต่ก็ใกล้ทะลุ 4 ล้านราย ล่าสุดสะสมรวม 3.84 ล้านราย
ยอด 'โควิด-19' ในไทยวานนี้ ยอดเสียชีวิตกลับมาพุ่ง!
โดยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 2,331 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยสะสม 175,732 ราย
ขณะที่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 40 ราย และทำให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 1,525 ราย
· CureVac ล้มเหลวในการทดสอบประสิทธิภาพวัคซีน Covid-19 ล่าสุดพบประสิทธิภาพเพียง 47%
· นักบริหารการเงินประเมินการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ระหว่าง 31.00-31.50 บาท/ดอลลาร์
· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
- บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด ส่งมอบวัคซีนป้องกันโควิด-19 ล็อตใหม่อีก 1.6 ล้านโดสในสัปดาห์นี้โดยเข้ามาวันนี้ 6 แสนโดส และภายวันศุกร์นี้อีก 1 ล้านโดส
- รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ขณะนี้เริ่มมีนักท่องเที่ยวต่างชาติทยอยจองที่พักเพื่อเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต ช่วงปลายปีนี้แล้ว โดยคาดว่าในช่วงไตรมาส 3/64 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวน 1.3 แสนคน พร้อมเล็งขยายพื้นที่เพิ่มเติมอีกในช่วงเดือนต.ค.-ธ.ค. 64 ประกอบด้วย กรุงเทพฯ ชลบุรี เชียงใหม่ เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ กระบี่ พังงา สุราษฎร์ธานี และบุรีรัมย์
- นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสประจำประเทศไทย กลุ่มธนาคารโลก หรือ เวิลด์แบงก์ ระบุว่า อยู่ระหว่างการทบทวนประมาณการตัวเลขจีดีพีของไทย โดยคาดว่าจะประกาศอย่างเป็นทางการช่วงเดือน ก.ค.นี้ ซึ่งมีโอกาสถูกปรับลดลงจากเดิมที่คาดว่าจะเติบโตได้ถึง 3% ในปีนี้
· อ้างอิงจากสำนักข่าวมติชนออนไลน์
- หัวหน้าทีมนักเศรษฐศาสตร์ แบงก์กรุงเทพ ห่วงหนี้ครัวเรือนไทย 90% ตามรอยโควิด ระเบิดเวลาศก.-สังคมไทยในอนาคต
· อ้างอิงจากสำนักข่าว MGR Online
- กองทุนบัวหลวงคาดเศรษฐกิจไทยปีนี้เติบโต 2.0% ปัจจัยบวกจากภาครัฐใช้เม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ และการระดมฉีดวัคซีนหนุนการลงทุนรับ Theme การกลับมาเปิดประเทศ ส่วนเศรษฐกิจโลกปีนี้ คาดว่า จะขยายตัว 5.8% ด้วยอานิสงส์จากการเติบโตของสหรัฐฯ เป็นหลัก