ทองทรงตัวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือน หลังเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาด
· ราคาทองคำเคลื่อนไหวทรงตัวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบมากกว่า 1 เดือน โดยถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์และการปรับตัวสูงขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล หลังจากที่
เฟดส่งสัญญาณอาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาด
· ราคาทองคำตลาดโลกทรงตัวแถวบริเวณ 1,1813.80 เหรียญ หลังปรับขึ้น 0.7% ในช่วงก่อนหน้านี้จากแรงเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว
· สัญญาทองคำส่งมอบเดือนส.ค. ปรับลดลง 2.6% ที่ระดับ 1,812.20 เหรียญ
· นักวิเคราะห์อาวุโสฝ่ายการตลาดประจำ OANDA กล่าวว่า ราคาทองคำถูกกดดันจากการส่งสัญญาณคุมเข้มนโยบาบจากเฟดเมื่อคืนนี้ โดยราคามีการฟื้นตัวเล็กน้อยในตลาดเอเชีย แต่เป็นการเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว และการปิดสถานะ Short (Short Covering) ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว มากกว่าผลสะท้อนต่อความเชื่อมั่นในตลาดทองคำ
· โดยการฟื้นตัวของทองคำเป็นไปด้วยท่าทีระมัดระวัง จากตลาดที่รอดูวิธีการเปลี่ยนแปลงนโยบายของเฟด ที่ดูจะส่งผลให้นักลงทุนออกจากตลาด ซึ่งหากทองคำปิดต่ำกว่า 1,797.50 เหรียญ อาจจะส่งสัญญาณถึงทิศทางขาลง
· ขณะที่เมื่อวานนี้ราคาทองคำปรับร่วงลงกว่า 2.5% แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 6 พ.ค. หลังจากถ้อยแถลงของสมาชิกเฟดช่วยหนุนค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่าทำระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน ด้านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯปรับพุ่งสูงขึ้น
· ผู้จัดการอาวุโสสินค้าโภคภัณฑ์ที่ Phillip Futures กล่าวว่า ปัจจัยหนุนทองรีบาวน์ แม้เฟดดูจะไปหนุนดอลลาร์แข็งค่าและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯปรับขึ้น มาจาก
- ภาวะ Bargain-Hunting (กลุ่มนักล่าของถูก)
- ความต้องการ Safe-Haven
- การเข้าซื้อเมื่อราคาต่ำกว่า 1,804 เหรียญ
· FXStreet: ทิศทางทองทางเทคนิค
หลังเฟดประกาศนโยบายก็ดูจะส่งผลกระทบให้ทองคำเป็นขาลง และหากทองคำจะยุติภาวะนี้ได้ต้องฝ่า 1,900 เหรียญ แต่หากไม่ผ่าน การปรับลงรอบนี้อาจมีเป้าหมาย 1,600 เหรียญ หรือต่ำกว่า
· ราคาซิลเวอร์ทรงตัวบริเวณ 26.97 เหรียญ
· ราคาพลาเดียม -1% ที่ระดับ 2,770.72 เหรียญ
· ราคาแพลตินัม ทรงตัวบริเวณ 1,122 เหรียญ
· รัฐมนตรีกระทรวงการคลังฝรั่งเศส ยืนยันถึงการไม่มีแผนจะเพิ่มดอกเบี้ยในตอนนี้
· ธนาคารกลางออสเตรเลีย "ยกเลิก" การดำเนินการด้านพันธบัตรจากปัญหาด้านเทคนิค ที่สะท้อนถึงธนาคารพาณิชย์หลายแห่งประสบภาวะชะงักงันจากระบบอินเทอร์เน็ต
· เศรษฐกิจนิวซีแลนด์ปรับขึ้น จากราคาบ้านที่ฟื้นตัวหลังเผชิญ COVID - 19
· เอเชียมีท่าที "ยินดี" อย่างระมัดระวังต่อคำตอบของ G7 สำหรับประเด็น Belt and Road
· ราคาบ้านใหม่ในจีนปรับขึ้นอย่างมีเสถียรภาพในเดือนพ.ค. ที่ 0.6% แต่เมื่อเทียบรายปีปรับขึ้นที่ 4.9% ท่ามกลางมาตรการชะลอความร้อนแรงของรัฐบาลจีน เพื่อระงับการพุ่งขึ้นชั่วคราว
· Global Times รายงานว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบาดในจีน แย้งว่า ควรสอบสวนต้นกำเนิด Covid-19 เป็นสหรัฐฯมากกว่าตรวจสอบจีน เพราะจะพบการระบาดที่สหรัฐฯได้เช่นกันตั้งแต่เดือนธ.ค. ปี 2019
· ผลการสำรวจจาก Reuters ระบุว่า ยอดคำสั่งซื้อส่งออกของไต้หวันในเดือนพ.ค.มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 40.15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 15 โดยได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งสำหรับผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีในช่วงมาตรการ Lockdowns เนื่องจากนโยบายการ Work From Home และเรียนออนไลน์ของผู้คนหลายล้านคน
· ข้อมูลของสหประชาชาติ เปิดเผยว่า เกาหลีเหนือได้มอบเงินจำนวน 3 แสนเหรียญแก่โครงการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมที่นำโดยสหประชาชาติให้กับเมียนมาร์ ซึ่งเป็นการบริจาคครั้งแรกให้กับประเทศอื่นๆ นับตั้งแต่ปี 2005
· แหล่งข่าว เผย อินเดียระงับข้อเสนอภาษีนำเข้าด้านน้ำมันพืช
· ธนาคารกลางอินโดนีเซียคงดอกเบี้ยต่ำเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่อง 4 วาระการประชุม ที่ระดับ 3.50% และพยายามคงนโยบายผ่อนคลายต่อจากยอดติดเชื้อ Covid-19 ที่เพิ่มขึ้น เพื่อเสริมเสถียรภาพในตลาดแรงงานจากความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจโลก
ที่มาจาก CNBC, Reuters