MTS Help Center

ราคาทองคำชะลอตัว ท่ามกลางการซื้อขายปานกลาง และปิดสัปดาห์ได้อย่างเลวร้ายที่สุดในรอบ 1 ปี จากดอลลาร์แข็งค่า ขานรับเฟดมีท่าทีคุมเข้มทางการเงิน ก่อนที่ภาพรวมตลาดจะกลับมาปิดบวกจากการช้อนซื้อเมื่อราคาอยู่ระดับต่ำในบางช่วง

นอกจากนี้ ราคาทองคำยังได้รับผลกระทบจากถ้อยแถลงของนายเจมส์ บุลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ที่ระบุว่า เงินเฟ้อแข็งแกร่งกว่าที่คาด และการคุมเข้มทางการเงินที่รวดเร็วจะเป็นเครื่องมือในการรับมือให้กลับสู่สภาวะปกติได้

ขณะที่ดัชนีดอลลาร์แข็งค่าปิดสัปดาห์ที่ดีที่สุดในรอบเกือบ 9 เดือน จึงเป็นปัจจัยกดดันทองคำ โดยดัชนีดอลลาร์ปิด +0.43% ที่ระดับ 92.28 จุด (สูงสุดตั้งแต่กลางเดือนเม.ย.) และปิดสัปดาห์ +2% เป็นสัปดาห์ที่ดีที่สุดในรอบ 14 เดือน

· ราคาทองคำตลาดโลกปิด +0.17% ที่ 1,770.36 เหรียญ

· สัญญาทองคำส่งมอบเดือน ส.ค. ปิด +0.3% ที่ 1,769.90 เหรียญ

· พลาเดียมปิด -1.94% ที่ 2,462.18 เหรียญ

· ซิลเวอร์ปิด -0.23% ที่ 25.86 เหรียญ

· แพลทินัมปิด -1.94% ที่ 1,037.53 เหรียญ

· ผู้อำนวยการฝ่ายการซื้อขายจาก High Ridge Futures กล่าวว่า ตลาดค่อนข้างเป็นกังวลเกี่ยวกับท่าทีของเฟด และยังคงจับตาอย่างมากถึงความเป็นไปได้ที่จะลดการเข้าซื้อพันธบัตร รวมถึงการปรับขึ้นดอกเบี้ยในบางช่วง

· นักวิเคราะห์จาก Goldman Sachs และ Commerzbank มองไปในทิศทางเดียวกันว่า ทองคำอาจกำลังมีการฟื้นตัว และ Commerzbank ยังคงคาดราคาทองปีนี้ไว้ที่ 2,000 เหรียญ เช่นเดิม

· นักวิเคราะห์อาวุโสจาก Kitco ระบุว่า ระยะสั้นอาจเผชิญแรงเทขายมากขึ้น แต่ก็จะเห็นถึงแรงช้อนซื้อตามมาในจังหวะที่ราคาปรับตัวลง ซึ่งเป็นการเข้าซื้อจากความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ ที่ยังช่วยให้ทองคำเป็น “ขาขึ้น”

· กองทุน SPDR เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทำการเข้าซื้อทองคำเพิ่ม 11.07 ตัน โดยปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 1,053.06 ตัน

ส่งผลให้ภาพรวมเดือนมิ.ย. กลับมาเป็นสถานะซื้อสุทธิที่ 9.85 ตัน

ขณะที่ตั้งแต่ม.ค. ถึง ปัจจุบัน SPDR มีสถานะขายสุทธิ 117.68 ตัน

· "นายนีล คาร์ชคาริ" ประธานเฟดมินนีแอโพลิส ค้านการขึ้นดอกเบี้ยปี 2023

โดยแนะให้คงดอกเบี้ยระดับต่ำใกล้ศูนย์อย่างน้อยถึงสิ้นปี 2023 เพื่อให้ตลาดแรงงานกลับมาแกร่งได้เท่าช่วงก่อนไวรัสระบาด สะท้อนถึงการเป็นเสียงส่วนน้อยที่สนับสนุนการใช้นโยบายแบบ Hawkish

นอกจากนี้ เขายังเชื่อว่า เงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นจะเป็นปัจจัยต่อภาวะการกลับมาเปิดทำการทางเศรษฐกิจ รวมไปถึงการลดข้อจำกัดทางด้านอุปทานได้

· Obamacare ยังเดินหน้าต่อ หลังศาลสูงสุดสหรัฐฯ ปฏิเสธรับคำร้องล่าสุดจากรีพับลิกันในวันพฤหัสบดีที่แล้ว

· “คริสติน ลาการ์ด” ประธานอีซีบี ชี้ อีซีบี มีความคืบหน้าด้านการปรับกลยุทธ์ฉบับใหม่ที่ดี หลังการประชุมสัปดห์ที่ผ่านมา

เพื่อกำหนดถึงแนวทางการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศ และการปรับนโยบายให้เหมาะสมกับเงินเฟ้อ

ทั้งนี้ สมาชิกจำนวน 25 รายของสภาฝ่ายปกครองของอีซีบี ได้มีการปรับทบทวนการดำเนินนโญบายครั้งแรกในรอบเกือบ 2 ทศวรรษ (20 ปี) ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อหาข้อสรุปการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังของปีนี้

อย่างไรก็ดี นางลาการ์ด ไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลลัพธ์ของการพูดคุยกันในครั้งนี้ เพียงแต่กล่าวครอบคลุมถึงมุมมองสมาชิกอีซีบีเกี่ยวกับเรื่องเงินเฟ้อและกรอบเวลาการเติบโตทางเศรษฐกิจ ที่จะมีความเกี่ยวข้องกันระหว่างการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศและการดำเนินนโยบายทางการเงิน รวมทั้งการปรับการสื่อสารของธนาคารกลางให้มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น

· ไอร์แลนด์ต้องการประนีประนอมต่อแผนภาษีระดับโลกของนายไบเดนที่ 15%

ทั้งนี้ ประเทศไอร์แลนด์เสนอระดับต่ำกว่าที่ 12.5% ขณะที่ล่าสุดแผนภาษีดังกล่าว ได้รับการยอมรับในกลุ่ม 7 ประเทศพัฒนาแล้ว (G7) เพื่อต้องการแก้ไขระบบภาษีให่มีความเท่าเทียมกัน แต่ก็ยังมีความท้าทายอยู่

กลุ่ม G7 อยู่ภายใต้ช่วงหารือกับกลุ่ม OECD และอาจหารือต่อร่วมกับกลุ่ม G20

สรุปได้ว่า แผนภาษีอาจกลายมาเป็นส่วนสำคัญในช่วงไวรัสระบาดที่อาจทำให้หลายๆประเทศพยายามลดความแตกต่าง รวมถึงเรื่องการหารายได้เพิ่มขึ้นเพื่อกลับมาชำระหนี้จำนวนมหาศาลในช่วงวิกฤต Covid-19

· บรรดานักการทูต เผย เจรจานิวเคลียร์อิหร่าน ณ กรุงเวียนนา มีความคืบหน้ามากขึ้น

· ยุโรป – สหรัฐฯ เตือน การเจรจาข้อตกลงอิหร่านจะไม่เปิดกว้างถึงจุดสิ้นสุด

· นักวิเคราะห์จาก Moody’s Analytics เตือน ระวังความผันผวนจากสภาวะเงินเฟ้อ ที่อาจส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นปีนี้ หลังจากตลาดปรับฐาน 10-20%

· CORONAVIRUS UPDATES:

ยอดติดเชื้อสะสมทั่วโลกเพิ่มขึ้นเกือบ 180 ล้านราย โดยล่าสุดมียอดรวมติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 179.23 ตัน ขณะที่ยอดเสียชีวิตสะสมทั่วโลกแม้จะมีอัตราชะลอตัวลงแต่ก็ใกล้ทะลุ 4 ล้านราย ล่าสุดสะสมรวม 3.88 ล้านราย

· บราซิลเผชิญยอดเสียชีวิตทะลุครึ่งล้าน ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่เตือนสถานการณ์อาจยิ่งเลวร้ายต่อจากฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึง ท่ามกลางการเสียชีวิตเฉลี่ยต่อวันพุ่งสูงถึง 2,000 ราย และมีเพียง 11% ของชาวบราซิลที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว

· อินเดียเรียกร้องหลายๆจังหวัดในประเทศระมัดระวังต่อ “การผ่อนคลาย Lockdown” หลังรายงานล่าสุดพบผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นในวันเดียว 60,753 ราย และเสียชีวิตเพิ่ม 1,647 รายภายใน 24 ชั่วโมง

· WHO ชี้ Delta Covid-19 ที่พบที่แรกในอินเดียจะกลายมาเป็นต้นแบบการกลายพันธุ์ทั่วโลก

· สหรัฐฯขยายมาตรการคุมเข้มเรื่องการเดินทางจากประเทศติดพรมแดนอย่าง แคนาดา และเม็กซิโกไปจนถึง 21 ก.ค. นี้

· นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ให้คำมั่นจะทำการเพิ่มการฉีดวัคซีนให้แก่ทุกรัฐ หลังจากที่ประสบปัญหาการฉีดวัคซีนล่าช้า

· สถานการณ์การระบาดในไทย:

วันศุกร์พบยอดผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่ม 3,058 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 22 ราย
วันเสาร์ที่ผ่านมาพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 3,667 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 32 ราย
วันอาทิตย์ที่ผ่านมาพบผู้ติดเชื้อใหม่ 3,682 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 20 ราย

รวม 3 วัน พบผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่ม 10,407 ราย และผู้เสียชีวิตใหม่าเพิ่ม 3 วัน รวม 74 ราย

ส่งผลให้ไทยมีผู้ติดเชื้อสะสมรวมที่ 218,131 ราย และเสียชีวิตสะสมรวม 1,629 ราย

· นักบริหารการเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวเงินบาทในสัปดาห์นี้ไว้ที่ระหว่าง 31.20-31.70 บาท/ดอลลาร์ โดยมีปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามในประเทศ ได้แก่

- ตัวเลขการส่งออกของไทยเดือน พ.ค.

- ผลการประชุมนโยบายการเงินและประมาณการเศรษฐกิจไทยของ กนง.

- สถานการณ์และแผนการกระจายวัคซีนต้านโควิด-19 ในประเทศ

ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่

- ยอดขายบ้านมือสอง

- ยอดขายบ้านใหม่

- ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน

- รายได้/รายจ่ายส่วนบุคคล

- ดัชนีราคา PCE/Core PCE Price Index เดือน พ.ค.

- ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิ.ย.

- ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/64 (ครั้งที่ 3)

นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษ, ดัชนี PMI เดือน มิ.ย. (เบื้องต้น) ของยูโรโซน อังกฤษ และสหรัฐฯ และการกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ LPR ของธนาคารกลางจีนด้วย

· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- ศบค.เห็นชอบแผนจัดหาวัคซีนโควิด-19 จำนวน 150 ล้านโดสของประเทศไทย โดยได้เพิ่มกรอบการจัดหาวัคซีนจาก 100 ล้านโดส ภายในปี 64 เป็น 150 ล้านโดส ภายในปี 65 ซึ่งวัคซีนที่จัดหาเพิ่มเติมนี้ เพื่อรองรับกรณีที่ต้องเพิ่มความครอบคลุมการได้รับวัคซีน, การเพิ่มกลุ่มเป้าหมาย, การให้วัคซีนเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันโรค หรือกรณีอื่นใดที่ต้องมีการใช้วัคซีนเพิ่ม

- กระทรวงการคลัง เผยขณะนี้มีประชาชนลงทะเบียนรับสิทธิโครงการ "คนละครึ่ง" ระยะที่ 3 แล้ว 27.34 ล้านคน ยังเหลือสิทธิให้ลงทะเบียนเพิ่มได้อีก 3.65 ล้านคน ทุกวันตั้งแต่เวลา 06.00 - 22.00 น.

· อ้างอิงจากสำนักข่าวกรุงเทพธุรกิจ

ผลสำรวจซีอีโอทั่วโลกประจำปี ครั้งที่ 24 (24th Annual Global CEO Survey) ของ PwC พบว่าซีอีโอทั่วโลกมีความเชื่อมั่นเชิงบวกต่อการฟื้นตัวของรายได้และเศรษฐกิจโลกในปีนี้ขณะที่โรคระบาดและวิกฤติสุขภาพเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญอันดับที่หนึ่ง ที่ผู้บริหารต่างแสดงความกังวล และหันมาให้ความสำคัญกับกลยุทธ์ในการบริหารความเสี่ยงจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน

ขณะที่เศรษฐกิจไทยปีนี้จะฟื้นตัวได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการและกระจายวัคซีนให้ครอบคลุมประชากร ซีอีโอไทยควรจะโฟกัสการบริหารกระแสเงินสดเพื่อรักษาสภาพคล่องให้ได้นานที่สุดและผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไป

· อ้างอิงจากสำนักข่าวมติชนออนไลน์