MTS Help Center

หุ้นเอเชียปรับตัวลดลงหลังจากที่เฟดสร้าง Surprise ตลาดด้วยท่าที "คุมเข้มทางการเงิน" จึงกดดันสินทรัพย์เสี่ยง ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 30 ปี ปรับตัวลดลงต่ำกว่า 2%

หุ้นกลุ่มธนาคารต่างๆ, บริษัทพลังงาน และบริษัทอื่นๆ มีแนวโน้มจะอ่อนไหวตามทิศทางความผันผวนทางเศรษฐกิจ หลังประชุมเฟดเมื่อวันพุธที่ผ่านมา หลังจากที่เฟดมองโอกาสขึ้นดอกเบี้ยมากถึง 2 ครั้งในปี 2023

ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมญี่ปุ่นปรับตัวลงราว 1.36%

· ดัชนี Nikkei ปรับลงตามหุ้นสหรัฐฯ - หลังสมาชิกเฟดส่งสัญญาณหนุนขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาด

ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเผชิญแรงเทขายครั้งใหญ่ และหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรม 33 แห่งใหญ่ใน Tokyo Stock Exchange ปรับตัวลดลง

ดัชนี Nikkei ปิด -3.29% เป็นการปิดร่วงลงครั้งใหญ่สุดตั้งแต่ 26 ก.พ. บริเวณ 28,010.93 จุด หลังจากที่ปรัยตัวลดลงไปทำต่ำสุดรอบ 1 เดือน

ดัชนี Topix ปิด -2.42% ที่ 1,899.45 จุด เป็นการปรับตัวลงรายวันที่ใหญ่ที่สุดรอบ 4 เดือน

· หุ้นจีน - ฮ่องกงร่วงหลังเฟด Surprise ตลาด

ดัชนี CSI300 ปิด -0.6% ที่ 5,073.36 จุด

ดัชนี Shanghai Composite ปิด -0.2% ที่ 3,517.17 จุด

ดัชนี HSI ปิด -1.4% ที่ 28,413.42 จุด

ดัชนี Hong Kong China Enterprises ปิด -1.1% ที่ 10,533.91 จุด

· หุ้นอินเดียร่วงจากหุ้นกลุ่มธนาคาร และ PNB ด้านการเงินที่อยู่อาศัยปรับลง

ดัชนี NSE Nifty 50 ปิด -0.43% ที่ 15,615.85 จุด

ดัชนี S&P BSE Sensex ปิด -0.39% ที่ 52,137.95 จุด

· ตลาดหุ้นยุโรปเคลื่อนไหวค่อนข้างเบาบาง ตามความผันผวนของตลาดทั่วโลก หลังจากเฟดสงสัญญาณคุมเข้มทางนโยบายเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

โดยดัชนี Stpxx600 เคลื่อนไหวทรงตัว ก่อนจะปรับตัวลดลง 0.8% ด้านหุ้นกลุ่มทรัพยากร ลดลง 0.6% ขณะที่หุ้นกลุ่มเคมีภัณฑ์ เพิ่มขึ้น 0.8%

ขณะที่หุ้นในเครือซูเปอร์มาร์เก็ตในอังกฤษ Morrisons พุ่งขึ้นมากกว่า 31% หลังจากปฏิเสธข้อเสนอซื้อกิจการ 5.52 พันล้านปอนด์ (7.62 พันล้านเหรียญ) จากบริษัท Clayton และ Dubilier & Rice โดยอ้างว่า “ประเมินมูลค่าบริษัทต่ำเกินไป”

· JPMorgan ระบุว่า สินทรัพย์กลุ่มวัฎจักร (Cyclical) ในตลาดต่างๆ จะได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัวทั่วโลกในเวลานี้

· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์