MTS Help Center

·         FXStreet คาดราคาเผชิญแรงกดดันแถว 1,780 เหรียญ แม้ตลาดจะมีสภาวะ Risk-On

ราคาทองคำไม่สามารถรีบาวน์กลับได้มากนักหลังไปทำต่ำสุดวานนี้ โดยราคายังเคลื่อนไหวแถว 1,778 เหรียญ แม้ว่าหลังทราบถ้อยแถลงประธษนเฟดตลาดจะมีสภาวะ Risk-On ที่หนุนให้เกิดการเข้าซื้อทองคำเพิ่มมากขึ้นก็ตาม

ภาพรวมตลาดดูจะรอคอยข้อมูลดัชนี PMI ของสหรัฐฯ ในเดือนที่แล้ว ประกอบกับจับตาความไม่แน่นอนของแผนโครงสร้างพื้นฐานของนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ระบาดของ Delta Covid-19

ถ้อยแถลงของนายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟดดูจะสอดคล้องกับที่หลายๆฝ่ายคาดการณ์ไว้ โดยยังกล่าวย้ำถึงเหตุผลที่ยังคงนโยบายผ่อนคลายทางการเงินไว้ ขณะที่สมาชิกเฟดสองรายดูจะค้านการปรับนโยบายการเงินในเวลานี้ได้แก่ ประธานเฟดสาขาเคฟแลนด์ และสาขานิวยอร์ก

นักวิเคราะห์จาก FXStreet มองว่าภาพรวมราคาทองคำเคลื่อนไหวในลักษณะสะสมพลังหลังจากที่ราคาร่วงหลุดจาก 1,900 เหรียญลงมา ขณะที่ดัชนีดอลลาร์เคลื่อนไหวเหนือแนวรับสำคัญเมื่อ 15 เม.ย. บริเวณ 91.60 จุด และดอลลาร์เคลื่อนไหวในกรอบ 92.138 – 91.645 จุด โดยที่วานนี้ไม่สามารถขยับขึ้นได้ต่อจากถ้อยแถลงของประธานเฟด

ทั้งนี้ ประธานเฟดตระหนักดีถึงความยากลำบากที่จะบอกได้ว่าผลกระทบชั่วคราวจากเงินเฟ้อจะยืนยาวเท่าไหร่ แต่คิดว่าน่าจะจบลงในปีนี้ได้

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ 10 ปีอ่อนตัวลงเล็กน้อยมาที่ 1.463%

อย่างไรก็ดี สมาชิกเฟดหลายรายก็ดูจะลดท่าทีการสนับสนุนแนวทาง Hawkish เมื่อวานนี้

- นางลอเรตต้า เมสเตอร์ ประธานเฟดสาขาเคฟแลนด์   ระบุว่า “ยังไม่ใช่เวลา” ที่จะยุติการผ่อนคลายทาการเงิน

โดยเธอยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านเสถียรภาพทางการเงิน จึงแนะเฟดหนุนการใช้นโยบายผ่อนคลายต่อไป พร้อมด้วยการคงดอกเบี้ยระดับต่ำประวัติการณ์และการเข้าซื้อพันธบัตร

- นายจอห์น วิลเลียม ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก กล่าวว่า ต้องรอจนกว่าจะจ้างงานได้อย่างเต็มที่ ขณะที่เงินเฟ้อมีแนวโน้มจะกลับสู่เป้าหมาย 2% ในปีหน้า

- นางแมรี ดาร์ลี ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก ชี้ เงื่อนไขของการยุติแนวทางผ่อนคลายทางการเงินอาจเกิดขึ้นในช่วงปลายปีนี้ หรือต้นปีหน้า

นักวิเคราะห์จาก TD Securities มองว่า การตัดสินใจของเฟดเกี่ยวกับท่าที Hawkish มีขึ้นเพื่อจำกัดการปรับขึ้นของเงินเฟ้อ รวมทั้งการคาดการณ์ถึงโอกาสขึ้นดอกเบี้ย 2 ครั้งในปี 2023 และการจะเปลี่ยนแปลงแนวทางดำเนินการใดๆ ดูจะท้าทายต่อความน่าเชื่อถือถึงเสถียรภาพและเป้าหมายเงินเฟ้อ แต่การส่งสัญญาณอย่างมีนัยยะก็ดูจะส่งผลให้คนลดการเข้าซื้อทองคำ

 

Gold technical analysis

นักวิเคราะห์จาก FXStreet วิเคราะห์ว่า ทิศทางขาขึ้นของราคาทองคำจะต้องปิดให้ได้เหนือเส้นค่าเฉลี่ย Fibonacci retracement 38.2% ของภาพรายวันบริเวณ 1,814 เหรียญ

อย่างไรก็ดี หากราคายังปิดสูงกว่าระดับดังกล่าวไม่ได้ก็มีโอกาสจะเคลื่อนไหวขาลง และการจะปรับขึ้นของทองคำดูจะก้าวออกจากภาวะ W-Formation Pattern ไปแล้ว ดังนั้นเราอาจเห็นการปรับขึ้นของราคาครั้งใหม่ได้จากทิศทางของข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ

 

·         กองทุน SPDR เมื่อวานนี้ ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติมโดยปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 1,049.56 ตัน

·         Bitcoin ทรุดต่ำกว่า $30,000 จากความกังวลการปราบปราม Crypto – ส่งผลให้ตลาดเริ่มกังวลต่อภาวะขาขึ้น

·         รายงานปรุชม  BOJ เล็งเห็นโอกาสเศรษฐกิจฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วในเดือนเม.ย.

 

·         ข้อมูลกิจกรรมการผลิตญี่ปุ่นมิ.ย. ชะลอตัวลงมากสุดรอบ 4 เดือน ล่าสุดแตะ 51.5 จุด จาก 53.0 ในเดือนก่อนหน้าจากผลผลิตที่ปรับตัวลดลง
 

·         สถานการณ์ Covid-19:

ติดเชื้อสะสมทั่วโลกเพิ่มขึ้น 362,713 ราย รวมสะสมทะยานแตะ 179.90 ล้านราย
เสียชีวิตสะสมทั่วโลกแตะ 3.89 ล้านราย

·         “แอนโธนี ฟาวซี” หัวหน้าที่ปรึกษาทางการแพทย์สหรัฐฯ ชี้ สายพันธุ์ ‘DELTA’ เป็นภัยคุกคามต่อประเทศสหรํฐฯที่ใหญ่ที่สุดในการพยายามควบคุมการระบาดของไวรัส 

 

โดยจะเห็นได้ว่ามีรายงานพบผู้ติดเชื้อใหม่ที่เป็นสายพันธุ์จากอินเดียตัวนี้เพ่มขึ้นแล้วราว 20% ของผู้ติดเชื้อใหม่ทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากอัตราเฉลี่ย 10% ในสัปดาห์ก่อน

 

·         นักเศรษฐศาสตร์จาก Moody Investors ชี้ เอเชียจำเป็นต้องควบคุม Covid ให้ได้ก่อนที่เฟดจะตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ย

 

·         ในวันนี้ศูนย์ข้อมูล COVID-19 เผยไทยติดเชื้อ COVID-19 เพิ่ม 3,174 คน หายป่วยเพิ่ม 1,941 คน เสียชีวิต 51 คน

 

 

·         เช้านี้เงินบาทแข็งค่าตามดอลลาร์อ่อนค่าลง จากบรรยากาศการลงทุนที่กล้าเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้นหลังคลายความกังวลเฟดไม่เร่งรีบใช้นโยบายการเงินที่ตึงตัวมากขึ้น ส่งผลให้นักบริหารการเงิน คาดวันนี้เงินบาทที่ระดับ 31.65-31.75 บาท/ดอลลาร์

โดยเมื่อวานนี้ เงินบาทอ่อนค่าพร้อมกับภูมิภาคไปตามทิศทางตลาดโลก เนื่องจากยังมีแรงซื้อค่าเงินดอลลาร์เข้ามาอย่างหนาแน่นจากความกังวลที่เฟด ส่งสัญญาณเรื่องปรับดอกเบี้ยเร็วขึ้นในสัปดาห์ก่อน

สำหรับแนวโน้มค่าเงินบาท  ปัจจัยที่จะกดดันบาทอ่อนค่าต่อ มีดังนี้
- ความกังวลสถานการณ์การระบาดของ Covid-19 หลังยอดผู้ติดเชื้อรายวันปรับตัวสูงขึ้นและยังไม่มีทีท่าจะลดลง

- การแจกจ่ายวัคซีนดูจะล่าช้า

- แผนการแจกจ่ายวัคซีนอาจไม่สามารถรับมือกับการระบาดของสายพันธุ์เดลต้าได้

ทั้งหมดนี้ อาจทำให้ นักลงทุนต่างชาติยังสามารถทยอยขายสินทรัพย์เสี่ยงไทย

·         มุมมองประชุมกนง. วันนี้

บรรดาผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ คาดการณ์ไปในทางเดียวกันว่าจะเห็น กนง.คงดอกเบี้ยนโยบายไว้ 0.5% - พร้อมเร่งแก้ปัญาหนี้ครัวเรือน หรืออาจออกมาตรการเฉพาะจุดเพื่อลดภาระหนี้ครัวเรือน ในการประชุมวันนี้  หวังพยุงเศรษฐกิจ จับตาทบทวนจีดีพีหากฉีดวัคซีน-เปิดเมืองเร็วตามเป้าหมายที่วางไว้  ชี้เงินบาทอ่อนส่งออกไม่ได้รับผลบวก เหตุติดขัดปัญหาเชิงโครงสร้าง

ขณะที่บางรายมองว่า มุมมองเศรษฐกิจไทยจากการประชุมครั้งนี้ของ กนง.จะเป็นบวกกับการลงทุนในประเทศมากขึ้น

 

·         อ้างอิงจากสำนักข่าว มติชนออนไลน์

- กรุงศรีประเมิน กนง. คงดอกเบี้ย 0.5% ผลจากเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวช้า

 

·         อ้างอิงจากสำนักข่าวกรุงเทพธุรกิจ

- ศูนย์กสิกรไทย ประเมินว่า ประชุมกนง.จะพิจารณาคงดอกเบี้ยที่ 0.50% เพื่อนสนับสนุสการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ท่ามกลางแรงกดดันจากเงินเฟ้อที่ยังคงมีจำกัด

 

·         อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- ครม.รับทราบรายงานภาวะเศรษฐกิจไทยประจำไตรมาส 1/64 และประมาณการเศรษฐกิจปี 64 โดยคาดว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายตัวราว 3% ขณะที่เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของสหรัฐ และการส่งออกของเอเชียที่ฟื้นตัวดีขึ้น

สถาบันการจัดการนานาชาติ (International Institute for Management Development) หรือ IMD ซึ่งได้ประกาศไปเมื่อวันที่ 17 มิ.ย.64 โดยไทยนั้นมีอันดับที่ดีขึ้นขยับมา 1 อันดับ จากปี 63 มาอยู่ในอันดับที่ 28 จาก 64 เขตเศรษฐกิจทั่วโลกในปีนี้

การเปิดพื้นที่นำร่องรับนักท่องเที่ยวต่างชาติใน จ.ภูเก็ต เริ่มวันที่ 1 ก.ค.64
รวมถึงการเปิดพื้นที่เกาะสมุย เกาะ พะงัน และเกาะเต่า จ.สุราษฏร์ธานี เริ่ม 15 ก.ค.นี้ ตามที่ศบค.เสนอ