• สรุปข่าวราคาทองคำ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 25 มิถุนายน 2564

    25 มิถุนายน 2564 | Gold News


ทองคำปิดร่วง จากมุมมองที่ผสมผสานของเฟดที่ส่งผลต่อนักลงทุนในตลาดมากขึ้น

·         ราคาทองคำตลาดโลกปิด -0.1ที่ระดับ 1,776.65 เหรียญ
โดยแกว่งตัวจากที่ปรับขึ้นช่วงต้น ตามการเคลื่อนไหวของดอลลาร์

 

·         สัญญาทองคำส่งมอบเดือนส.ค. ปิด -0.4ที่ 1,776.70 เหรียญ

 

·         ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลงท่ามกลางปริมาณการซื้อขายปานกลาง อันเป็นผลจาก
- ถ้อยแถลงสมาชิกเฟดที่ผสมผสานกันในการส่งสัญญาณ “การถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ”

- กองทุน SPDR เมื่อวานนี้ทำการเทขายทองคำออก 3.78 ตัน โดยปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 1,042.87 ตัน




กองทุน SPDR ขายทองคำต่อเนื่อง 2 วันทำการ รวมขายไป 6.69 ตัน

ส่งผลให้ภาพรวมเดือนมิ.ย. กลับมาเป็นสถานะขายสุทธิที่ 0.34 ตัน

ขณะที่ตั้งแต่ม.ค. ถึง ปัจจุบัน SPDR มีสถานะขายสุทธิ 127.87 ตัน


- ข้อมูลจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯออกมาดีกว่าเดิม

- ข้อมูลภาพรวมจีดีพีรายปีในไตรมาสที่ 2/2021 (FinalGDP) ของสหรัฐฯ ขยายตัวได้ 6.4%

 

·         หลังจากที่ นายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด ส่งสสัญญาณว่า “จะไม่ขึ้นดอกเบี้ยเร็วเกินไป” และ “เงินเฟ้อ” ไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่เป็นตัวกำหนดการตัดสินใจ

สมาชิกเฟดบางรายก็ได้ออกมาแถลงการณ์เมื่อวันพุธ โดยกล่าวว่า เงินเฟ้ออาจไม่ปรับขึ้นนานเกินไป

และมีสมาชิกเฟดเพียง 1 ราย คาดหวังเห็นเงินเฟ้อขึ้นดอกเบี้ยได้ในช่วงปลายปี 2022

 ·         นักกลยุทธ์การตลาดอาวุโสจาก RJO Futures แสดงความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้เรื่องการขึ้นดอกเบี้ยและการจะถอน QE ของเฟด ที่กำลังเป็นปัจจัยกดดันตลาดทองคำเวลานี้ และน่าจะดำเนินต่อไปอยู่ จนกว่าตลาดจะเห็นความชัดเจนของการดำเนินนโยบายการเงิน

ขณะที่การปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะเป็นปัจจัยที่สร้างความผันผวนให้แก่ราคาทองคำ

·         นักกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์จาก TD Securities กล่าวว่า ปริมาณการเข้าซื้อทองคำของกลุ่มผู้บริโภครายใหญ่อย่างจีน-อินเดีย ยังคง “อ่อนแอ” ในระยะสั้นๆ จึงเป็น หนึ่งเหตุผลที่กดดันตลาดทองคำ


·         ซิลเวอร์ขยับขึ้น +0.4ที่ 25.97 เหรียญ

·         แพลทินัมปิด +0.9ที่ 1,093.59 เหรียญ

·         พลาเดียมปิด +1.2 ที่ 2,644.94 เหรียญ


·         นักวิเคราะห์จาก UBS มอง การผลิตในกลุ่มรถยนต์กำลังเผชิญกับการขาดแคลนชิป แม้เศรษฐกิจจะเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง จึงอาจผลักดันให้ราคาแพลทินัมปรับขึ้นได้ช่วง 1 ปีจากนี้ และคาดอาจเห็นราคาปรับขึ้นไปแตะ 1,250 เหรียญได้ในช่วงเดือนธ.ค.


·         สัญญาทองแดงร่วงลง -0.6ที่ 9,429 เหรียญ/ตัน จากความกังวล “เงินเฟ้อสหรัฐฯ” และเฟดมีการส่งสัญญาณที่ผสมผสานกัน  

ภาพรวมทองแดงร่วงลงแล้วกว่า 12จากสูงสุดประวัติการณ์ที่ทำไว้ในช่วงเดือนพ.ค. ที่ระดับ 10,747.50 เหรียญ/ตัน

 

·         ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปาห์สหรัฐฯปรับตัวลงแตะ 411,000 ราย (ปรับลงราว 7,000 ราย)

ภาพรวมข้อมูลดังกล่าวลดลงจากช่วงเดือนม.ค. ของปีนี้ที่มีรายงานการขอรับสวัสดิการเฉลี่ยต่อสัปดาห์ที่ 900,000 ราย

 

·         Reuters ชี้ การปรับลงอย่างรวดเร็วของผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ เป็นผลจากการยุติการอัดฉีดสวัสดิการช่วยเหลือคนว่างงานของรัฐบาลสหรัฐฯสัปดาห์ละ 300 เหรียญ






·         นายเจมส์ บุลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ เตือน อาจเห็น “ความเสี่ยงเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น” กลับมาอีกครั้งได้ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มเฟื้นตัวต่อลดลง ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก

ดังนั้น จึงอาจผลักดันให้ราคาเงินเฟ้อกลับมาต่ำกว่าเป้าหมาย 2ของเฟดได้ และนี่จะกลายเป็น “ความเสี่ยงครั้งใหม่” ที่เจ้าหน้าที่เฟดต้องคำนึงถึงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

 

·         นายโธมัส บาร์กิน ประธานเฟดสาขาริชมอนด์ มองว่า การจ้างงานยังไม่เข้าสู่ภาวะเต็มที่ – เงินเฟ้อที่ปรับขึ้นเป็นเพียงภาวะชั่วคราว

 

·         การสดทอบ Street Test ของเฟดสำหรับภาคธนาคารต่างๆในประเทศ ช่วยปูทางสู่การซื้อหุ้นกู้คืน รวมทั้งการจ่ายเงินปันผล รวมทั้งผลทดสอบธนาคารรายใหญ่ 23 แห่งสามารถผ่านวิกฤตได้ด้วยดีในปี 2021

 

·         Credit Suisse คาดทิศทางการเติบโตทางเศรษฐกิจโลกจะแตะ 5.9ในปี 2021 และตลาดหุ้นจะเป็นสินทรัพย์ที่สดใสที่สุด

 

·         เดโมแครตแยกแผนโครงสร้างพื้นฐานเป็น “2 ขั้นตอน” ท่ามกลางความไม่พอใจของรีพับลิกัน

ภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่ นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯประกาศ “บรรลุข้อตกลง” ครั้งใหม่เรื่องแผนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ทางพรรครีพับลิกันก็ได้ออกมาแย้งแผนที่จะปฏฺบัติตามร่างกฏหมาย 1.2 ล้านล้านเหรียญ พร้อมมาตรการอื่นๆที่จะเกิดขึ้นตามมาของเดโมแครตที่กล่าวถึง “โครงสร้างพื้นฐานของมนุษย์”

  

·         ข้อตกลงด้านโครงสร้างพื้นฐานของสหรัฐฯ จะประกอบด้วยงบ 6 พันล้านเหรียญจากการขายน้ำมันสำรองฉุกเฉิน


·         “เจเน็ต เยลเลน” รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ จะเข้าร่วมประชุมกับ G20 ในเรื่อง “การเงิน” และ “สภาพภูมิอากาศ” ที่ประเทศอิตาลี ระหว่างวันที่ 9-10 ก.ค.

นอกจากนี้ เธอยังอาจจะกล่าวถึงแนวทางขั้นพื้นฐานของสหรัฐฯในเรื่อง “ภาษี” และการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ รวมไปถึง การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจากวิกฤตการระบาดของไวรัส Covid-19

 

·         สหรัฐฯ เผย การแบนสินค้าด้านโซลาร์เซลล์ของบริษัทจีน จะไม่ส่งผลให้เกิดการชะลอในด้านความคืบหน้าของพลังงานสะอาด

 

·         ส.ส.สหรัฐฯ เห็นพ้องกำหนดวันพิจารณาร่างกฎหมายเกี่ยวกับจีนในสัปดาห์หน้า

คณะกรรมาธิการสามัญของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯที่รับผิดชอบทางด้านกิจการต่างประเทศ (The U.S. House of Representatives Foreign Affairs Committee) กำหนดให้ “วันพุธหน้า” เป็นวันพิจารณาข้อกฎหมายที่ครอบคลุมการเพิ่มขีดความสามารถด้านเพื่อแก้ไขปัญหาด้านการแข่งขันกับจีน และเรื่องปัญหาสิทธิมนุษยชน ซึ่งจะเป็นการเสริมความพยายามอย่างต่อเนื่องของสภาคองเกรส โดยที่จะเริ่มประชุมกันในช่วงเวลาราว ตี 2 (ตามเวลาไทย) ในคืนวันที่ 30 มิ.ย.

 

·         รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจของเยอรมนี ระบุว่า “อียู – สหรัฐฯ” จะสามารถแก้ไขข้อพิพาทด้านภาษีสินค้าโลหะมีค่าต่างๆได้ภายในช่วงสิ้นปีนี้

 

·         เมื่อวานนี้ รัสเซีย “เตือน” อังกฤษให้ระวังการระเบิดเรือเดินสมุทรในครั้งหน้า  ในทะเลดำ (Black Sea) หากมีการดำเนินการยั่วยุใดๆจากกองทัพเรืออังกฤษ บริเวณนอกชายฝั่งไครเมียที่อยู่ติดกับประเทศรัสเซีย

นอกจากนี้ รัสเซียได้มีการเรียกเอกอัครราชทูตอังกฤษในกรุงมอสโก เพื่อตำหนิทางการทูตหลังจากที่เรือรบอังกฤษฝ่าฝืนการการดำเนินการในน่านน้ำของรัสเซีย ขณะที่อังกฤษและประเทศส่วนใหญ่ทั่วโลกมองว่าน่านน้ำดังกล่าวเป็นของยูเครน

 

 

·         สถานการณ์ไวรัสโคโรนาล่าสุด:

ยอดติดเชื้อสะสมทั่วโลกทะลุ 180.74 ล้านราย
ยอดเสียชีวิตสะสมทั่วโลก 3.915 ล้านราย



·         อังกฤษยังขาดยังระบบตรวจสอบและติดตามเป้าหมายผู้ติดเชื้อ Covid-19

 

·         สิงคโปร์ขยายโครงการฉีดวัคซีนให้เด็กที่มีอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไปในวันที่ 2 ก.ค.นี้

 

·         รายงานข้อมูลทั่วโลกล่าสุด พบ ไทยขยับอันดับติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นล่าสุดในแถบเอเชียมาอยู่ลำดับที่ 9 โดยวานนี้มียอดติดเชื้อใหม่เพิ่ม 4,108 ราย รวมสะสม 232,647 ราย  เสียชีวิตเพิ่ม 31 ราย รวมสะสม 1,775 ราย

 




·         สถานการณ์ในไทยวิกฤตหนัก หมอรามาฯเผยเตียงICUล้น ต้องเลือกคน'ใครอยู่หรือไป' ขณะที่เตียงโควิดวิกฤตหนัก เนื่องด้วยผู้ป่วย 1 ราย ต้องใช้เวลารักษาอย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ บางคนใช้เวลา 2 เดือน บางคนเอาท่อช่วยหายใจออกไม่ได้ต้องเจาะคอ จึงไม่สามารถเพิ่มศักยภาพได้การรักษาได้ เนื่องจาก พยาบาล แพทย์ มีไม่เพียงพอ และบางรายก็ติดเชื้อ ทำให้ไม่สามารถเปิดโรงพยาบาลสนามเพิ่มได้อีก

ทางด้านโรงพยาบาลศิริราช หวั่นโควิดลาม ปิดหน่วยตรวจโรคแพทย์เวร 23-30 มิ.ย. รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉิน เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 มีความรุนแรงมากขึ้น โดยมีการตรวจพบผู้ป่วยติดเชื้อในหน่วยตรวจโรคแพทย์เวรเพิ่มขึ้น ประกอบกับมีผู้ป่วยเข้ารับบริการที่หน่วยตรวจโรคแพทย์เวรเป็นจำนวนมาก ก่อให้เกิดความแออัด ยากแก่การรักษาระยะห่าง

 

·         เงินบาททรงตัว นักบริหารการเงินคาดเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ โดยมีแนวรับ 31.75 บาท/ดอลาร์ และแนวต้าน 32.00 บาท/ดอลลาร์


ทั้งนี้ นักบริหารเงิน ระบุว่า เมื่อวานนี้เงินบาทค่อนข้างผันผวน จากปัจจัยดอลลาร์แข็งค่า เนื่องจากนักลงทุนยังสับสนต่อนโยบายของเฟด ขณะเดียวกันยังมีปัจจัย จากสถานการณ์ Covid-19 ในประเทศที่ยังมียอดผู้ติดเชื้อสูง


ปัจจัยขับเคลื่อนตลาด
- นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุว่า เงินเฟ้อสหรัฐฯมีแนวโน้มลดลงใกล้ 2
% ในปีนี้หรือต้นปีหน้า
- นางเยลเลน เรียกร้องสภาคองเกรสสหรัฐฯผ่านร่างกรอบหนี้สาธารณะฉบับใหม่ภายในสิ้นเดือนก.ค.นี้
- สายพันธุ์
 Delta ในสหรัฐฯเพิ่มสูงขึ้นราว 20ของผู้ติดเชื้อใหม่ในสหรัฐฯ
- ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (
PMI) ยูโรโซนเพิ่มขึ้นสูงสุดรอบ 15 ปี
- ธปท.คงดอกเบี้ย และหั่นคาดการณ์จีดีพีไทยเหลือ 1.8
ปีนี้ จาก 3.0%


ปัจจัยที่ต้องติดตาม
- ตัวเลขการส่งออกไทย
- รายงานเศรษฐกิจของอีซีบี
- ผลการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี)

 

·         อ้างอิงจากกรุงเทพธุรกิจ

- ธปท. หวั่นโควิดระลอก3 ยื้ดเยื้อ ทุบ 'จีดีพี'ปี 64 ต่ำ 1.8% - ท่องเที่ยวส่อทรุดยาว - แรงงานไร้สัญญานฟื้น

ทั้งนี้ ธปท. มองว่าการเติบโตเศรษฐกิจมีความเสี่ยงด้านต่ำอย่างมีนัยสำคัญ จากการกลายพันธุ์ของไวรัสโคโรนา สายพันธ์ใหม่ หรือ โควิด-19 ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยมีทิศทางชะลอตัว ประกอบกับการลดลงของนักท่องเที่ยวต่างชาติ และอุปสงค์ในประเทศที่ได้รับผลกระทบจากโควิดระลอก 3 ทำให้ธปท.มีการปรับจีดีพีลดลง

อย่างไรก็ตาม หากดูด้านความเสี่ยง ที่มีผลต่อประมาณการในระยะข้างหน้า คือการระบาดของโควิด-19 ทั้งในและต่างประเทศ ที่มีผลเป็นนัยสำคัญต่อประมาณการเศรษฐกิจ ที่กนง.ต้องจับตาใกล้ชิดมากขึ้น

อ่านต่อhttps://www.bangkokbiznews.com/news/detail/945105

 

- แบงก์ กรุงเทพ แนะจับตา ‘หนี้เสีย’ ทั้งระบบพุ่งแตะ 4% ไตรมาส 2 ปีนี้

- 'รัฐสภาอภิปรายเดือด ไล่ 'ส.ว.-ส.ส.ฝ่ายค้านออกจากตำแหน่ง – ไปอยู่ข้างถนน

 

·         อ้างอิงจากไทยรัฐ
เพื่อไทย เตือน "บิ๊กตู่" รับมือ “เศรษฐกิจชะงักงัน” จี้ ปล่อยกู้ SMEs 0%

 

·         อ้างอิงจากประชาชาติ

ม็อบ 24 มิถุนา จุดไม่ติด กลุ่มไทยไม่ทนสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย ยุติชุมนุม นัดล้มประยุทธ์ใหม่ วันเสาร์ ที่ 26 มิ.ย.นี้

 

·         อ้างอิงจาก BBC News

ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ : จาก 13 ร่าง รัฐสภาโหวตผ่านร่างเดียว เรื่องแก้ระบบเลือกตั้ง ส.ส.

ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม รวม 13 ฉบับ ผ่านการรับรองด้วยเสียงข้างมากของสมาชิกรัฐสภาตามข้อบังคับในรัฐธรรมนูญ ในวาระแรก เพียงฉบับเดียว หลังอภิปรายกันมา วัน และการขานชื่อเพื่อลงมติและรวบรวมคะแนนเป็นเวลากว่า ชั่วโมง

 

·         อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- รมว.พาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยเดือน พ.ค.64

การส่งออกมีมูลค่า 23,057 ล้านเหรียญ ขยายตัว 41.59% ซึ่งถือเป็นการขยายตัวสูงสุดในรอบ 11 ปี

การนำเข้ามีมูลค่า 22,261 ล้านเหรียญ ขยายตัว 63.54% ส่งผลให้เดือนพ.ค.เกินดุลการค้า 795 ล้านเหรียญ

- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์การส่งออกไทยปีนี้ ขยายตัวที่ 9.0% ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ซึ่งประมาณการที่ 9.0% ได้สะท้อนการคาดการณ์ว่ามูลค่าการส่งออกในช่วงที่เหลือของปี จะขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง โดยมองว่าการส่งออกสินค้าประเภทอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์ยางพารา และผักผลไม้ น่าจะยังคงเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งจากอุปสงค์ที่ฟื้นตัว

- สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เผยยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปเดือน พ.ค.64 อยู่ที่ 79,479 คัน เพิ่มขึ้น 165.87% จากเดือน พ.ค.63 โดยเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงเนื่องจากเมื่อปีที่แล้วฐานต่ำ และเพิ่มขึ้น 50.30% จากเดือน เม.ย.64 หลังประเทศคู่ค้าเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว สามารถขายรถยนต์ในประเทศได้ดีขึ้


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com