• สรุปข่าวราคาทองคำ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 30 มิถุนายน 2564

    30 มิถุนายน 2564 | Gold News


ทองลงทำต่ำสุด 11 สัปดาห์ จากดอลลาร์แข็ง เฟดย้ำท่าทีคุมเข้มทางการเงิน


·         ราคาทองคำปรับตัวลดลงทำระดับต่ำสุดนับตั้งแต่กลางเดือนเม.ย. เนื่องการจากแข็งค่าของเงินดอลลาร์ที่เป็นปัจจัยกดดันตลาด ก่อนการประกาศข้อมูลภาคแรงงานสหรัฐฯในสัปดาห์นี้ ซึ่งคาดว่าจะออกมาอย่างแข็งแกร่งและอาจช่วยหนุนการคุมเข้มทางนโยบายของเฟด

·         ราคาทองคำตลาดโลกปิด -0.93% ที่ระดับ 1,761.66 เหรียญ หลังจากร่วงลงไปบริเวณ 1,749.20 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 15 เม.ย.

·         ขณะที่สัญญาทองคำส่งมอบเดือนส่งมอบเดือนส.ค.  ร่วงลง 1% ที่บริเวณ 1,763.60 เหรียญ

·         กองทุน SPDR เมื่อวานนี้ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติม โดยปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 1,045.78 ตัน

·         ขณะที่ดัชนีดอลลาร์ปิดแข็งค่า 0.2% ยืนเหนือ 92 จุดอีกครั้งก็เป็นปัจจัยที่กดดันตลาดทองคำ

·         นักยุทธศาสตร์การตลาดอาวุโสของ RJO Futures กล่าวว่า นอกจากการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์ เหล่านักลงทุนบางส่วนมีแนวโน้มคาดการณ์ข้อมูลตำแหน่งงานที่ดีกว่าที่คาดไว้

·         ดังนั้น การเรียกร้องให้ปรับขึ้นดอกเบี้ยมีแนวโน้มสูงขึ้น หากตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯออกมาดีเกินคาด

·         โพลล์สำรวจจาก Reuters เผยว่า ข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรของกระทรวงแรงงานสหรัฐฯในวันศุกร์นี้ คาดว่าจะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 690,000 ตำแหน่ง โดยสูงกว่าในเดือนพ.ค.ที่เพิ่มขึ้นเพียง 559,000 ตำแหน่ง

·         นายโธมัส บาร์กิน” ประธานเฟดาสาขาริชมอนด์ เล็งเห็นว่า สหรัฐฯมีความ คืบหน้าอย่างยั่งยืนมากขึ้น” ต่อเป้าหมายเงินเฟ้อ จึงเห็นควรเริ่มลดการเข้าซื้อสินทรัพย์

·         นักวิเคราะห์จาก TD Securities กล่าวว่า สัญญาณที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยได้เร็วกว่าที่คาด และโอกาสลด QE เป็นปัจจัยที่จะกดดันราคาทองได้มากขึ้น และมีโอกาสเห็นทองลงไปถึง 1,730 เหรียญ

·         แต่ข้อมูลเศรษฐกิจที่ออกมาน่าผิดหวังอาจมาช่วยหนุนทองคำได้ ท่ามกลางตลาดที่สะท้อนภาวะตลาดที่ยังเผชิญความเสี่ยงต่อเนื่อง จากแนวโน้มเฟดอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกเดือนธ.ค. ปี 2022

·         ราคาซิลเวอร์ -0.13% ที่ระดับ 25.75 เหรียญ หลังจากแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 1 5เม.ย. ที่ระดับ 25.51 เหรียญ

·         ราคาแพลตินัม -1.8% ที่ระดับ 1,070.30 เหรียญ

·         ราคาพลาเดียม -0.5% ที่ระดับ 2,673.72 เหรียญ

 

·         CNBC ชี้ สหรัฐฯกำลังตามหลังจีนและยุโรป เรื่องการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า

 

·         บริษัทรายใหญ่ทั่วโลกแทบทุกภาคส่วน กำลังวิตกกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับการขาดแคลนน้ำ-ราคาน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นอันเป็นผลจากวิกฤตสภาพภูมิอากาศที่ก่อให้เกิด ความเสี่ยงที่หลากหลาย

ทั้งนี้ บรรดานักวิเคราะห์ กล่าวเตือนภาคบริษัทต่างๆอีกด้วยว่า ปัญหาดังกล่าวอาจส่งผลจำกัดทางการเงิน ตลอดจนความเสี่ยงด้านการขาดแคลนน้ำจะกลายเป็นอุปสรรคมากขึ้น ท่ามกลางราคาน้ำทั่วโลกที่กำลังเพิ่มสูงขึ้น

Barclays  เผยรายงาน ราคาน้ำเฉลี่ยในสหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้น 60% ใน 30 เมืองใหญ่ของประเทศสหรัฐฯ ระหว่างปี 2010 และ 2019  ดังนั้น ปัญหาสภาพแวดล้อม จึงกลายมาเป็น เรื่องสำคัญอย่างยิ่ง สำหรับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้บริโภคทั่วโลกในทุกๆด้าน ตั้งแต่ อาหาร และเครื่องดื่ม ตลอดจนการเกษตรและยาสูบ เป็นต้น

ขณะที่เครื่องมือบ่งชี้ California Water Futures เล็งเห็นราคาน้ำพุ่งสูงกว่า 300% ในช่วงไม่กี่ปีนั่นเอง

 

·         S&P Global ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจของหลายประเทศในภูมิภาคเอเชีย รวมถึงอินเดีย ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย

ขณะเดียวกัน ก็ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจจีน แอฟริกาใต้ และประเทศละตินอเมริกาส่วนใหญ่

โดยปัจจัยเสี่ยงสูงสุดที่เศรษฐกิจในตลาดเกิดใหม่ต้องเผชิญ คือ แผนระดมฉีดวัคซีนที่เป็นไปอย่างล่าช้ากว่าที่คาด

 

·         บรรดานักเศรษฐศาสตร์ ชี้ เงินกู้ใหม่อินเดีย จะช่วยจำกัดผลกระทบจาก Covid-19 ที่สร้างความเสียหายของเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ดี กลุ่มนักเศรษฐศาสตร์ก็ยังไม่แน่ใจว่ามาตรการเงินกู้รอบใหม่ในวงเงิน 6.3 ล้านล้านรูปี (8.49 หมื่นล้านเหรียญ) ดังจะเป็นเพียงผลชั่วคราวในระยะสั้นๆหรือไม่ แต่คาดว่าจะส่งผลต่อจีดีพีของประเทศราว 2.8% โดยอาจมีผลเพียงเล็กน้อย

 

·         นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.90 - 32.10 บาท/ดอลลาร์ ท่ามกลางเงินบาทค่อนข้างผันผวน โดยระหว่างวันเคลื่อนไหวในกรอบ 31.92 - 32.05 บาท/ดอลลาร์ และยังมีแนวโน้มอ่อนค่าต่อเนื่อง จากสถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิดในประเทศ รวมถึงยอดการฉีดวัคซีนต่อวันที่เริ่มชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับช่วงแรกๆ

ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศ จับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร เดือนมิ.ย.ของสหรัฐ ที่จะมีการรายงานในคืนวันศุกร์นี้

 

·         รองนายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ มองทิศทาง เกาหลีใต้ตั้งเป้าหลัง Covid-19 การอุปโภคบริโภคในประเทศจะกลับมา พร้อมหวังเห็นภูมิคุ้มกันหมู่เกิดขึ้นตามมาช่วงเดือนพ.ย. นี้

 

·         นิวซีแลนด์จะกลับมาเปิดการเดินทางระหว่างประเทศภายใต้โครงการจับคู่ "Travel Bubble" กับประเทศออสเตรเลีย


·         ไบเดน ยืนยัน เขาจะ "ไม่ยอม" ให้อิหร่านมีอาวุธนิวเคลียร์




·         โควิดในไทยวานนี้ พบมีผู้ป่วยรายใหม่ 4,662 ราย ทำให้มียอดรวมผู้ป่วยสะสม จำนวน 254,515 ราย

ขณะที่ยอดเสียชีวิตเพิ่ม 36 ราย รวมยอดผู้เสียชีวิตสะสม 1,970 ราย

ล่าสุดวันนี้ น่าเป็นห่วงต่อเนื่อง หลังพบมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 53 ราย ทำให้ยอดตายสะสมทะลุ 2 พันแล้ว โดยมียอดผู้เสียชีวิตรวม 2,023 ราย ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มอีก 4,786 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสมแล้วจนถึงวันนี้ 259,301 ราย 

จึ้งยิ่งตอกย้ำถึงสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 โดยรวมของประเทศไทยนั้นยังคงวิกฤติ และต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด

 

·         อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

ธปท. เผยเงินบาทที่อ่อนค่าแตะระดับ 32 บาท/ดอลลาร์ มีปัจจัยหลักมาจากต่างประเทศ เพราะไม่ใช่เงินบาทสกุลเดียวที่อ่อนค่า แต่ค่าเงินของหลายประเทศในภูมิภาคก็อ่อนค่าเช่นกัน เพียงแต่เงินบาทอ่อนค่ามากกว่าสกุลเงินอื่น จากสถานการณ์ระบาดของโควิดในประเทศ ที่ผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตรายวันยังสูง รวมถึงยังไม่สามารถเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวได้

เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน นัดหมายมวลชนรวมตัวที่ทำเนียบรัฐบาลในวันที่ ก.ค. เพื่อยื่นข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลในการฉีดวัคซีนต้านโควิดให้ประชาชนครบทุกคนภายในเดือนต.ค.การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบผ่านรัฐสวัสดิการ และการปรับลดงบประมาณสถาบัน โดยข้อเรียกร้องสำคัญ คือ นายกรัฐมนตรีต้องลาออก

 

·         อ้างอิงจากไทยรัฐ

นายกฯ พอใจ ไทยอันดับ 1 อาเซียน การพัฒนายั่งยืน ต่อเนื่อง 3 ปี ในรายงานประเทศที่มีการพัฒนายั่งยืนของสหประชาชาติ (UN SDGs) โดยเป็นอันดับ 3 ในเอเชีย และอันดับ 43 ของโลก

- "ไทยไม่ทน" ชุมนุม ก.ค. หลังบุกทำเนียบฯ อ่านประกาศทุกข์ร้อนประชาชน

 

·         อ้างอิงจากมติชน

- ‘ไทยสร้างไทย’ จี้นายกฯไปเดินตลาด ถามชาวบ้านว่าต้องการอะไร ระหว่างเรือดำน้ำกับวัคซีนคุณภาพดี

 

·         อ้างอิงจากข่าวสด

ญี่ปุ่น มอบวัคซีนแอสตร้าฯ ให้ไทยฟรี 1.05 ล้านโดส สั่งห้ามให้บุคคลอื่น


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com