· ตลาดหุ้นเริ่มผันผวนในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ โดยตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลง ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการระบาดครั้งใหม่ของไวรัสโคโรนาและมาตรการ Lockdown ขณะที่ตลาดพันธบัตรปรับตัวสูงขึ้น รวมทั้งค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นก่อนหน้าการประกาศข้อมูลภาคแรงงานสหรัฐฯ
โดยค่าเงินดอลลาร์ขยับขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือนที่ 1.1839 ดอลลาร์/ยูโร และทำระดับสูงสุดในรอบ 15 เดือนที่ 111.18 เยน/ดอลลาร์
ทางหุ้นจีนปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย โดยได้รับแรงหนุนจากการครบรอบ 100 ปีของพรรคคอมมิวนิสต์ แต่คำปราศรัยจากนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ไม่ได้ช่วยบรรเทาความตึงเครียดทางการเมืองและทำให้ค่าเงินหยวนอ่อนค่าลงเล็กน้อย
ดัชนีฟิวเจอร์สตลาดหุ้นยุโรปดีดตัวเล็กน้อย หลังจากการเทขายในช่วงสิ้นเดือน
ดัชนี Euro Stoxx 50 เพิ่มขึ้น 0.4%
FTSE Futures เพิ่มขึ้น 0.1%
S&P 500 ฟิวเจอร์สพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์และเพิ่มขึ้นประมาณ 0.15%
สำหรับวันนี้ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดทำการเนื่องในวันหยุด
ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่นลดลง 0.4% โดยภาพรวมในช่วงครึ่งปีปรกดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่นพุ่งขึ้น 5.8% เมื่อเทียบกับหุ้นโลกที่เพิ่มขึ้น 11.4% และดัชนี S&P 500 ที่เพิ่มขึ้น 14.4% ซึ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ติดต่อกันเป็นครั้งที่ 5 เมื่อเดือนที่แล้ว
· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลดลง เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา ซึ่งอาจนำไปสู่การขยายมาตรการข้อจำกัด ส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
ดัชนี Nikkei -0.41% มาอยู่ที่ 28,674.52 จุด
ดัชนี Topix -0.34% ที่ระดับ 1,936.88 จุด
ทั้งนี้ สื่อท้องถิ่น ระบุว่า ญี่ปุ่นกำลังพิจารณาขยายเวลาอีก 2 สัปดาห์เป็นหนึ่งเดือน สำหรับมาตรการป้องกันไวรัสโคโรนาในโตเกียวและพื้นที่อื่นๆ ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในเมืองหลวงของประเทศเพิ่มขึ้นทำระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา
· Didi Global Inc จะถูกเพิ่มในดัชนีหุ้นทั่วโลกของ FTSE Russell ในวันที่ 8 ก.ค.นี้ หลังจากการเปิดตัวในตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อวันพุธที่ผ่านมา
โดยหุ้น Didi จะรวมอยู่ใน FTSE All-World Index, FTSE Global Large Cap Index และ FTSE Emerging Index FTSE Russell
ทั้งนี้ การประกาศดังกล่าวมีขึ้นเมื่อ Didi โดยได้รับการสนับสนุนจาก SoftBank Group Corp ของญี่ปุ่น เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากการเปิดตัวในสหรัฐฯ มีมูลค่าอยู่ที่ 6.849 หมื่นล้านเหรียญ ซึ่งถือเป็นบริษัทจีนที่ใหญ่ที่สุดที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ ตั้งแต่ปี 2014
อีกทั้ง Didi ยังได้รับการสนับสนุนจากบริษัทเทคโนโลยีอย่าง Alibaba, Tencent และ Uber
· ดัชนีฟิวเจอร์สตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากดัชนี S&P500 ทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ท่ามกลางเหล่านักลงทุนที่เตรียมพร้อมสำหรับครึ่งหลังของปี
ดัชนี Dow futures +91 จุด
ดัชนี S&P 500 futures และ Nasdaq 100 futures เคลื่อนไหวในแดนบวก
· ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวสูงขึ้น โดยดัชนี Stoxx600 เพิ่มขึ้น 1% ด้านหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวและการพักผ่อน พุ่งขึ้น 1.8% ท่ามกลางตลาดหุ้นภูมิภาคส่วนใหญ่ที่เคลื่อนไหวในแดนบวก
- ตลาดหุ้นไทยปิดเช้าบวก 3.42 จุด แกว่งไซด์เวย์ไร้ปัจจัยหนุน-จับตาภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,591.21 จุด เพิ่มขึ้น 3.42 จุด (+0.22%) มูลค่าการซื้อขายราว 43,075 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยทำระดับสูงสุด 1,593.26 จุด และระดับต่ำสุด 1,584.69 จุด
- ศบค.พบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ 5,533 ราย ในปท.3,788-ตรวจเชิงรุก1,733-ตปท.12,ตาย 57
ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 5,533 ราย
- "ธปท." กุมขมับมาตรการคุมเข้มโรคระบาด 6 จังหวัดฉุดเศรษฐกิจปี 2564 โตระส่ำ ขอเช็กตัวเลขจีดีพีใหม่อีกรอบ ยังได้อานิสงส์ส่งออกโตพรวด 44.4%-เบิกจ่ายรัฐประคอง ด้านคลังเปิดผลงานรัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายกระฉูด 1.48 แสน ล.ชูโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ระยะที่ 1 ครองแชมป์
- "นอนแบงก์" เผย ต้นก.ค.เตรียมหารือธปท.เรื่องมาตรการช่วยลูกหนี้ หลังรัฐบาลหวังให้ลดดอกเบี้ยอีก 1-2% "ธุรกิจจำนำทะเบียน" เสนอต้องทำแบบมีเงื่อนไข "เฉพาะลูกค้าใหม่-ระยะเวลาชัดเจน" หวัง แบงก์ชาติไฟเขียวเพิ่มเพดานดอกเบี้ยปล่อยสินเชื่อโฉนดที่ดิน "ศรีสวัสดิ์" ย้ำเป็นผู้นำกดดอกเบี้ยไปแล้ว "เมืองไทยแคปปิตอล" พร้อมให้ความร่วมมือ "อิออน"แนะการแก้ปัญหา ควรหามาตรการให้คนมีรายได้
- บอร์ดบีโอไอไฟ เขียวเมกะโปรเจ็กต์เฉียด 5 หมื่นล้านบาท หนุนกลุ่มสาธารณูปโภคผลิตไฟฟ้า พร้อมเพิ่มสิทธิประโยชน์ดึงทุนนวัตกรรม/เทคโนโลยีขั้นสูง
- อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า ภาพรวมการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลในเดือน พ.ค.64เทียบกับเดือนเม.ย.64 พบว่ามีการจดทะเบียนลดลง7% เนื่องจากผู้ประกอบการยังคงติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และชะลอการตัดสินใจจัดตั้งออกไปก่อนเช่น ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร ธุรกิจบัญชีและการตรวจสอบบัญชี และ ธุรกิจออกแบบ
- ผู้บริหาร ส.อ.ท. ส่วนใหญ่มองการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติควรเปิดเมื่อสถานการณ์มีความพร้อมสามารถควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ได้ และมีจำนวนผู้ติดเชื้อลดลงอย่างมีนัยสำคัญ คิดเป็น 56.7% รองลงมาเห็นด้วยกับเป้าหมายเปิดประเทศ ภายใน 120 วัน คิดเป็น 31.3% และมองว่ายังไม่ควรเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในระยะ 3-4 เดือนนี้ คิดเป็น 9.5% ส่วนความเห็นที่ต้องการให้เร่งเปิดประเทศให้เร็วกว่าเป้าหมายมีเพียง 2.5%และตกแต่งภายใน