• สรุปข่าวราคาทองคำ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 7 กรกฎาคม 2564

    7 กรกฎาคม 2564 | Gold News
ทองทรงตัวแถว 1,800 เหรียญ รับ U.S. 10 Yield อ่อนตัว

เมื่อวานนี้ราคาทองคำสามารถยืนเหนือระดับสำคัญ 1,800 เหรียญได้ โดยไปทำสูงสุดตั้งแต่ 17 มิ.ย. บริเวณ 1,814.78 เหรียญ  เพราะได้รับอานิสงส์หลักจาก “การปรับตัวลดลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ” ขณะเดียวกันนักลงทุนก็รอรายงานประชุมเฟดเดือนมิ.ย. เกี่ยวกับโอกาสการขึ้นดอกเบี้ย เกี่ยวกับโอกาสการขึ้นดอกเบี้ยและนโยบายทางการเงิน

·         ราคาทองคำตลาดโลกยังคงปิดแดนบวกแม้จะเผชิญแรงเทขายทำให้อ่อนตัวลงมาต่ำกว่า 1,800 เหรียญ โดยปิด +0.2% ที่ 1,794.37 เหรียญ

·         สัญญาทองคำส่งมอบเดือนส.ค. ปิด +0.6ที่ 1,794.2 เหรียญ

 

·         กองทุนทองคำ SPDR ขายทองคำออกต่อเนื่อง 3 วันทำการ ล่าสุดขายออก 0.35 ตัน ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 1,042.23 ตัน

 

ภาพรวมเดือนก.ค. ขายออกแล้ว 3.55 ตัน กลับมาขายออกอีกครั้งหลังซื้อต่อเนื่อง 2 เดือนติด ส่งผลให้ภาพรวมรายปีตั้งแต่ม.ค. - ปัจจุบัน SPDR อยู่ในสถานะขายสุทธิ 128.51 ตัน

 

·         นักวิเคราะห์จาก ThinkMarkets กล่าวว่า ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาจากข้อมูลต่างๆ  อาจส่งผลให้ธนาคารคิดผิดเกี่ยวกับโอกาสการขึ้นดดอกเบี้ย ดังนั้น นักลงทุนจึงคิดว่าจะเห็นเฟดคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายอย่างมากต่อไป จึงกดดันให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอ่อนตัว และหนุนให้ราคาทองคำมีเสถียรภาพมากขึ้นหลังจากที่ร่วงลงหนักในเดือนมิ.ย.

 

·         นักลงทุนให้ความสนใจกับรายงานประชุมเฟดคืนนี้เวลาประมาณ ตี 1 (ตามเวลาประเทศไทย)

 

·         ทองคำยังคงมีแรงหนุนตั้งแต่วันศุกร์ หลังจากที่ข้อมูลอัตราว่างงานสหรัฐฯออกมาแย่

 

·         นักวิเคราะห์จาก TD Securities เชื่อว่า ทองคำอาจเผชิญแรงกดดันจากเงินเฟ้อที่อาจถูกพิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นสภาวะเพียง “ชั่วคราว” เท่านั้น จึงทำให้ตลาดประเมินว่าเฟดจะมีแนวทางดำเนินนโยบายแบบ Hawkish มากขึ้น แต่ภาพรวมทองคำก็ดูจะทรงตัวได้ดีในทิศทางขาขึ้น และอาจกลับมาหา 1,900 เหรียญได้อีกครั้ง

 

·         ซิลเวอร์ปิด -1.3ที่ 26.10 เหรียญ
หลังไปทำระดับสูงสุดตั้งแต่ 17 มิ.ย. บริเวณ 26.76 เหรียญ

·         แพลทินัมปิด -1.1% ที่ 1,085.53 เหรียญ

·         พลาเดียมปิด -0.6ที่ระดับ 2,797.74 เหรียญ


·         ISM เผยดัชนี PMI ภาคบริการเดือนมิ.ย.ออกมาแย่กว่าคาดแตะ 60.1 จุด  

ถึงแม้ข้อมูลดังกล่าวจะมีอัตราการขยายตัวในภาคบริการที่แข็งแกร่ง แต่ก็ยังแย่จากที่ทำ All-Time Highไว้ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลจากความท้าทายในการขาดแคลนส่วนประกอบต่าๆ, ปัญหาเงินเฟ้อ, โลจิสติกส์ และขาดกำลังการจ้างงานที่เป็นส่วนสำคัญในเงื่อนไขทางภาคธุรกิจ

 


·         องค์กรภาคธุรกิจต่างๆในสหรัฐฯ สนับสนุนแผนโครงสร้างพื้นฐานของนายไบเดน 1.2 ล้านล้านเหรียญที่มาจากการเห็นพ้องกันทั้งสองฝ่าย แต่ค้านการขึ้นภาษีภาคบริษัท ท่ามกลางพรรคเดโมแครตที่เตรียมแผนจะลงมติโดยไม่ผ่านการเห็นชอบของรีพับลิกัน

 

·         เยลเลน” จะทำการเดินหน้าเรียกร้องให้G20 ปรับเพิ่มอัตราภาษีบริษัทข้ามชาติสูงกว่า 15% หลังได้รับการสนับสนุนจาก 130 ประเทศทั่วโลก

แต่การตัดสินใจเรื่องดอกเบี้ยยังไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้ จนกว่าจะมีการเจรจาต่อในเฟสต่อๆไป ซึ่งการประชุมผู้นำกระทรวงการคลัง G20 จะเกิดขึ้นในช่วงวันศุกร์ และเสาร์นี้ ณ กรุงเวนิส ประเทศอิตาลี (9-10 ก.ค)

 

·         สหรัฐฯเรียกร้องให้จีน และภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการพักชำระหนี้ในการประชุม G20 ครั้งนี้ เพื่อเป็นการช่วยเหลือกลุ่มประเทศรายได้น้อยทีเผชิญกับวิกฤตการระบาดของไวรัส Covid-19

 

·         ระดับหนี้ทั่วโลกเพิ่มขึ้นหนักจากภาคบริษัทต่างๆที่เริ่มใช้เงินสดบางส่วนที่สำรองไว้ออกมาใช้จ่ายเพื่อประคองสถานการณ์ช่วง Covid-19 จึงส่งผลให้หนี้บริษัททั่วโลกเพิ่มขึ้นมากถึง 6 แสนล้านเหรียญในปีนี้

 

·         CORONAVIRUS UPDATES:



ทั่วโลกยังคงพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น โดยส่วนใหญ่เริ่มเป็นการระบาดจาก Delta Covid-19 โดยวานนี้มีผู้ติดเชื้อใหม่ทั่วโลกเพิ่มขึ้น 423,969 ราย ทำให้ยอดรวมสะสมล่าสุดทะยานมาเหนือ 185.35 ล้านราย ด้านยอดเสียชีวิตทั่วโลกสะสมมากกว่า 4 ล้านรายเป็นที่เรียบร้อย

 

·         “ไบเดน” หวังตัวแปร Delta Covid-19 จะกลายเป็นศูนย์ จากการที่ประชาชนสหรัฐฯฉีดวัคซีนครบโดสเกือบ 160 ล้านคนแล้ว

นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกมาเรียกร้องให้ประชาชนที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนเข้าร่วมโครงการ เนื่องจากการระบาดของสายพันธุ์ Delta อยู่ในระดับสุง และสหรัฐฯใกล้ที่จะฉีดวัคซีนครบ 2 โดสแก่ประชาชนในประเทศเป็นจำนวน 160 ล้านคนภายในช่วงสิ้นสัปดาห์นี้

 

·         “ซิดนีย์” ขยายเวลา Lockdown ออกไปอีก 1 สัปดาห์

 

·         เมื่อวานนี้ ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นติดอันดับ 16 ของโลก และรั้งอันดับ 7 ของฝั่งเอเชีย โดยพบผู้ติดเชื้อมากถึง 5,420 ราย และเสียชีวิตเพิ่ม 57 ราย

รวมยอดติดเชื้อสะสม 294,653 ราย (ยอดติดเชื้อรวมระลอกเมษายน 265,790 ราย)
เสียชีวิตสะสม 
2,333 ราย




บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com