· ราคาทองคำขยับตัวสูงขึ้นทำสูงสุดรอบ 3 สัปดาห์ในวันนี้ โดยเป็นผลจากการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปียังอ่อนตัวลงอยู่แถว 1.35% ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่ยังคงรอคอยรายงานประชุมเฟดเดือนมิ.ย. เพื่อหาสัญาณเกี่ยวกับแนวโน้มการดำเนินนโยบาย
· ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าเล็กน้อยมาที่ 92.508 จุด
· ราคาทองคำตลาดโลกขยับขึ้น 0.4% มาแถว 1,803 เหรียญ
หลังวานนี้ทำสูงสุดที่ 1,814.78 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา
· สัญญาทองคำปรับขึ้น 0.5% มาที่ 1,803.80 เหรียญ
· นักวิเคราะห์จาก ING กล่าวว่า การปรับตัวลดลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯเป็น “ปัจจัยหลัก” ที่สนับสนุนราคาทองคำเวลานี้ ประกอบกับดอลลาร์ที่เริ่มมีสัญญาณอ่อนค่าบ้างเล็กน้อยจากระดับเปิดตลาดช่วงเช้า ทั้งหมดนี้ จึงช่วยหนุนราคาทองคำ
· นอกจากนี้ อาจเห็นเฟดยืนยันท่าทีคุมเข้มทางการเงินมากขึ้น หากเป็นเช่นนั้น “อาจกดดันทองคำ” ได้
· อย่างไรก็ดี ความไม่แน่นอนในการดำเนินนโยบายการเงินยังคงมีอยุ่ จากสภาวะเงินเฟ้อและความเสี่ยงที่กำลังเพิ่มขึ้นของความผันผวนในตลาดหุ้น ที่อาจ “หนุนทองคำในฐานะ Safe-Haven” ประกอบกับ การเพิ่มการเข้าซื้อทองของธนาคารกลางต่างๆในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ได้ช่วยบดบังปัจจัยลดจากความต้องการทองคำแท่งที่ลดลงช่วง Q2/2021
· ตลาดกำลังจับตารอรายงานประชุมเฟดเดือนมิ.ย. ที่จะเปิดเผยในเวลา 01.00น. คืนนี้ตามเวลาไทย
โดยอาจเห็นเฟดพูดถึงเรื่องดอกเบี้ยน้อยลง หลังจากที่การประชุมในเดือนมิ.ย. มีการส่งสัญญาณ Hawkish
· Gold Price Forecast: คาดทองคำขาขึ้นมีโอกาสยืนเหนือ 1,800 เหรียญ
นักวิเคราะห์จาก FXStreet กล่าวว่าราคาทองคำปรับขึ้นอีกครั้งทดสอบระดับสำคัญของเทรนขาขึ้นที่ 1,800 เหรียญ และมาเคลื่อนไหวแถวเส้นค่าเฉลี่ย DMA ราย 21 วันบริเวณ 1,804 เหรียญ โดยทองคำยังคงปรับขึ้นได้อย่างจำกัดก่อนทราบรายงานประชุมเฟดในคืนนี้
รายงานประชุมเฟดอาจ “กดดันทอง” หากมีท่าทีกลับมา “คุมเข้มทางการเงินต่อ”
จึงอาจทำให้ทิศทางต่อไปของทองคำหลังทราบรายงานประชุมเฟดวันนี้ “ปรับตัวลดลง” แต่หากตลาดตอบรับและมีความเป็นกังวลต่อสถานการณ์ระบาดของ Covid-19 ล่าสุดก็อาจส่งผลกระทบทองคำได้เช่นกัน
ดังนั้น หากทองคำสามารถปิดตลาดเหนือ 1,800 เหรียญ ก็มีโอกาสเห็นทองคำฝ่าแนวต้าน 1,804 เหรียญ ที่อาจ Break ขึ้นไปทดสอบสูงสุดรอบ 3 สัปดาห์อีกครั้งที่ระดับ 1,815 เหรียญ รวมทั้งโอกาสเห็นทองคำที่ 1,830 เหรียญ ซึ่งเป็นแนวเส้นค่าเฉลี่ย DMA 50 และ 200 วัน
แต่หากทองคำทดสอบแนวรับ 1,789 เหรียญ ก็อาจจำกัดทิศทางขึ้นต่อ แต่ตราบที่ราคายังสะท้อนภาวะขาขึ้น ก็ยังคงสร้างความหวังให้แก่ตลาดอยู่ แต่หากทองคำกลับหลุดลงต่ำกว่า 1,785 เหรียญ ก็มีโอกาสกลับลงทดสอบ 1,780 หรียญอีกครั้ง
· TD Securities คาด ทองคำมีโอกาสรีบาวน์ไป 1,900 เหรียญ – ตลาดอาจคำนึงผิดเรื่องเฟด
· ซิลเวอร์วันนี้ก็ขยับขึ้น 0.9% ที่ 26.38 เหรียญ
พลาเดียมปรับขึ้น 0.2% มายังบริเวณ 2,799.67 เหรียญ
แพลทินัมทรงตัวแถว 1,091.67 เหรียญ
· นายเคิร์ท แคมป์เบลล์ ผู้ช่วยประจำทำเนียบขาว ชี้ “สหรัฐฯ-จีน” สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติและไม่เป็นการเพิ่มมุมมอง “สงครามเย็นครั้งใหม่” ได้
แม้ว่าจะยังมีความไม่แน่นอนอยู่อย่างมาก และบางทีอาจเห็นความตึงเครียดมากขึ้น แต่ภาพรวมก็ยังเชื่อว่าทั้งสองฝ่ายจะสามารถแก้ไขปัญหาที่ท้าทายและยากลำบากนี้ด้วยกันในยุคต่อๆไปได้
· Halifax เผย ราคาบ้านอังกฤษชะลอความร้อนแรงในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นการปรับลงครั้งแรกนับตั้งแต่ม.ค. อันเนื่องจากการถอนมาตรการลดภาษีผู้ซื้อ และผู้จดจำนอง
ราคาบ้านรายเดือนปรับลง 0.5% แต่รายปีทรงตัวที่ 8.8% ยังคงอยู่ในระดับที่สูงกว่าเดือนมิ.ย.ในปีที่แล้ว หลังจากที่เดือนพ.ค. ทะยายนไป 9.6% ในภาพรายปี ถือเป็นสูงสุดรอบเกือบ 14 ปี
· JPMorgan ระบุว่า แนวโน้มการเติบโตหลังจบ Covid-19 ของอินเดีย มีแนวโน้มจะได้รับแรงหนุนจาก “การลงทุน” และ “การส่งออก” ไม่ได้มาจากการอุปโภคบริโภค
· สถานการณ์ในภาคอุตสาหกรรมประเทศนิวซีแลนด์ทวีความขุ่นเคืองมากขึ้นจากการขาดแคลนแรงงานขั้นเลวร้าย
· “ซิดนีย์” ขยายเวลา Lockdown เพิ่มออกไป 1 สัปดาห์ จากการระบาดของสายพันธุ์ Delta – ความล่าช้าในการฉีดวัคซีน
ส่งผลให้การ Lockdown และมาตรการ Stay-at-Home ที่จะสิ้นสุดในวันศุกร์นี้ถูกขยายเวลาออกไปถึง 16 ก.ค. แทน
· เกาหลีใต้ตัดสินใจพิจารณากลับมาใช้มาตรการเข้มงวดท่ามกลางการระบาดของ Covid-19 ในประเทศ ดันยอดติดเชื้อใหม่พุ่งขึ้นกว่า 1,212 ราย ตั้งแต่กรุงโซลที่มีประชากรหนาแน่นมากที่สุดของประเทศ
ทั้งนี้ ยอดติดเชื้อใหม่ในเกาหลีใต้วันนี้ยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 2 วันทำการ หลังจากที่ตัดสินใจผ่อนปรนมาตรการเข้มงวดในบางพื้นที่ของประเทศ และการฉีดวัคซีนได้อย่างรวดเร็ว
ภาพรวมรัฐบาลมีคำสั่งขยายมาตรการจำกัดในกรุงโซล รวมไปถึงหลายๆภูมิภาคในประเทศเพิ่มขึ้นอีกเป็นเวลา 1 สัปดาห์ “และอาจพิจารณากลับมาใช้มาตรการเข้มงวดอีกครั้ง” หากยอดติดเชื้อยังเพิ่มสูงขึ้น
· รัฐมนตรีสาธารณสุขของสิงคโปร์ ระบุว่า สิงคโปร์ไม่นับรวมผู้ฉีดวัคซีน Covid-19 ของบริษัท “Sinovac” เข้าสู่โครงการฉีดวัคซีนทั่วประเทศ
นอกจากนี้ วัคซีนของ Sinovac ยังไม่ใช่ส่วนหนึ่งในโครงการฉีดวัคซีนของประเทศสิงคโปร์ ดังนั้น จะต้องรอข้อมูลที่ชัดเจนมากขึ้นกว่านี้จากทางบริษัท Sinovac เสียก่อน
· รัฐบาลญี่ปุ่น พิจารณาข้อเสนอการห้ามแฟนกีฬาโอลิมปิกเข้าร่วมการจัดกิจกรรมที่จะเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 23 ก.ค. นี้
เจ้าหน้าที่รัฐบาลพยายามแก้ไขปัญหาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาในประเทศ ขณะที่บรรดาผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ ไม่คาดว่าควรเริ่มกิจกรรมการแข่งขันดังกล่าวในวันที่ 23 ก.ค. นี้ และบางหน่วยงานแนะให้มีการสั่งห้ามผู้ชมจากนอกประเทศ รวมทั้งเสนอการจำกัดผู้ร่วมชมการแข่งขันเพียง 50% จากจำนวน 10,000 คน เพื่อให้สามารถจัดการกับการระบาดของไวรัสพันธุ์นี้ได้
· อิหร่านเพิ่มการเสริมสมรรถนะด้วยการเพิ่มกำลังการผลิตแร่ยูเรเนียม สร้างความผิดหวังให้แก่สหรัฐฯ-อียูที่ต้องการฟื้นคืนข้อตกลงนิวเคลียร์ฉบับปี 2015 เพราะอาจสะท้อนถึงการช่วยให้อิหร่านสามารถพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ได้
· สิงโคปร์ แนะชาติอาเซียนให้ร่วมมือกันเร่งผลักดันแผนยุติวิกฤตสถานการณ์ในพม่า