สรุปรายงานประชุมเฟดประจำเดือนมิ.ย. 2021
สมาชิกเฟดยังคงท่าที “อดทน” ต่อการคุมเข้มทางการเงิน และมี “ความพร้อมที่ดี” ในการรับมือกับเงินเฟ้อและความเสี่ยงอื่นๆ
ภาพรวมการประชุมระหว่าง 15 – 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยส่วนใหญ่สมาชิกเฟดมีการหารือถึงแนวทางการลดการใช้มาตรการทางการเงิน มีเพียง 2-3 รายที่ให้การสนับสนุนเร่งดำเนินการดังกล่าว และระบุว่า “เฟดควรเริ่มหารือเรื่องการลดการเข้าซื้อพันธบัตร”
สมาชิกเฟดบางราย บ่งชี้ว่า ทิศทางการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจมีความก้าวหน้าเร็วกว่าที่คาดการณ์ ควบคู่กับการขึ้นเงินเฟ้อ ดังเฟด เฟดจึงควรเริ่มถอนการใช้นโยบาย
อย่างไรก็ตาม แนวความคิดของเฟดยังคงเป็นไปลักษณะ “ไม่เร่งรีบ” และ “ตลาดจะต้องเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงใดๆที่จะเกิดขึ้นด้วย” ซึ่งก็เป็นจุดที่สมาชิกเฟดส่วนใหญ่เห็นพ้องกัน โดยสมาชิกส่วนใหญ่มองว่าต้องเห็น “ความคืบหน้ายเป็นไปอย่างยั่งยืน” เฟดจึงค่อยเริ่มที่จะเปลี่ยนแปลงการดำเนินนโยบาย และสมาชิกเฟดยังพร้อมที่จะเตรียมดำเนินการใดๆหากเป็นผลจากเงินเฟ้อหรือความเสี่ยงอื่นๆด้วย
กรอบเวลาการหารือเรื่องลด QE (TAPERING TIMELINE)
ในการประชุมเดือนที่ผ่านมา สมาชิกเฟดมีการลดท่าทีการอ้างอึงสถานการณ์ระบาดของไวรัสมีผลต่อเศรษฐกิจ ขณะที่นายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด มีการส่งสัญญาณถึงการกำลังหารือเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงแนวทางการดำเนินนโยบายด้วย
โดยจะเห็นได้จาก การเริ่มต้นหารือเรื่องลด QE และคาดการณ์โอกาสขึ้นดอกเบี้ยที่อาจเกิดขึ้นเร็วสุดประมาณปี 2023 ซึ่งนักลงทุนมองว่าเร็วกว่าที่เฟดเคยคาดการณ์ไว้ในการยุติการสนับสนุนทางเศรษฐกิจ
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวของสหรัฐฯเคลื่อนไหวใกล้ต่ำสุดรอบ 5 เดือน แต่ช่องว่าง (Gap) กับอัตราผลตอบแทนพันนธบัตรระยะยสั้นค่อนข้างแคบ ทำให้ยังคงมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแนวโน้มทางเศรษฐกิจในระยะยาว
สิ่งที่นักลงทุนคาดหวังคือ การหารือนั้นจะเป็นไปอย่างรวดเร็วเพียงใด และเมื่อไรที่เฟดอาจเริ่มต้น “ลด” การสนับสนุนด้วยนโยบาย
บรรดาสมาชิกเฟดหลายราย ค่อนข้างรู้สึกว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯเติบโตใกล้กับที่พวกเขาคาดหวังไว้ จึงอาจทำให้เฟดถอนนโยบายสนับสนุนได้ แต่บางส่วนก็มองว่าอาจต้องใช้ประชุมร่วมกันอีกหลายครั้งเพื่อติดตามความคืบหน้า และประกาศแผนการลดการเข้าซื้อพันธบัตร
ผลสำรวจนักเศรษฐศาสตร์จาก Reuters แสดงให้เห็นว่า นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่าเฟดจะทำการประกาศกลยุทธ์การลดการเข้าซื้อสินทรัพย์ประมาณช่วงเดือน “ส.ค. หรือ ก.ย.” และการลดวงเงินการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯครั้งแรกน่าจะเริ่มต้นช่วงต้นปีหน้า
ที่มา: CNBC, Reuters