• สรุปข่าวราคาทองคำ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 19 กรกฎาคม 2564

    19 กรกฎาคม 2564 | Gold News




ทองลงจากสูงสุดรอบ 1 ปี จากดอลลาร์แกร่งรับข้อมูลค้าปลีกสหรัฐฯ

ราคาทองคำปรับตัวลดลงในคืนวันศุกร์ หลังทำสูงสุดรอบ 1 เดือนช่วงต้นตลาดได้ อันเป็นผลจากดอลลาร์แข็งค่ารับข้อมูลค้าปลีกสหรัฐฯ ปิดตลาด +0.11% ที่ระดับ 92.675 จุด ปิดสัปดาห์แดนบวกกดดันตลาดทอง


· กองทุนทองคำ SPDR เดินหน้าขายทองต่ออีก 5.82 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 1,028.55 ตัน


ส่งผลให้ภาพรวมเดือนก.ค. นี้ ขายออกแล้วรวม 17.23 ตัน และนับตั้งแต่ต้นปี - 16 ก.ค. รวมกองทุน SPDR ขายทองสุทธิ 142.19 ตัน


· ราคาทองคำตลาดโลกปิด -0.8% ที่ระดับ 1,814.11 เหรียญ

ภาพรายสัปดาห์ปิด +0.3%

· สัญญาทองคำส่งมอบเดือนส.ค. ปิด -0.8% ที่ระดับ 1,815 เหรียญ


· นักกลยุทธ์จาก TD Securities กล่าวว่า ทองคำไม่สามารถปรับขึ้นแม้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯจะปรับตัวลดลง ท่ามกลางตลาดที่เผชิญความผันผวนจากแรงเทขายทำกำไรด้วย

อย่างไรก็ดี ความต้องการทองคำแท่งที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากจีน และธนาคารกลางประเทศต่างๆ ก็ได้ช่วยจำกัดการปรับตัวลดลงของราคาทองคำได้


· นักวิเคราะห์จาก Blue Line Futures กล่าวว่า ความไม่แน่นอนของยอดติดเชื้อสายพันธุ์ Delta ที่เพิ่มสูงขึ้นในสหรัฐฯ อาจเป็นตัวบังคับให้ “เฟดคงแนวทางการผ่อนคลายทางการเงิน” ต่อไปนานขึ้น และนี่น่าจะเป็น “ผลดี” ต่อราคาทองคำ


· ราคาพลาเดียมปิด -3.2% ที่ระดับ 2,644.20 เหรียญ ปิดสัปดาห์แดนลบสัปดาห์แรกรอบ 4 สัปดาห์


· แพลทินัมปิด -2.9% ที่ระดับ 1,105.03 เหรียญ


· นักวิเคราะห์จาก ED&F Man Capital กล่าวถึง ข้อมูลค้าปลีกสหรัฐฯเดือนมิ.ย. สะท้อนถึงความต้องการใช้รถยนต์เพิ่มขึ้นนั้นลดน้อยลงจากการขาดแคลนอุปทานหรือ ปัญหา Semiconductor ทั่วโลก ทำให้ราคาของพลาเดียมและแพลทินมชะลอความร้อนแรงลงมา

และทั้งสองโลหะมีค่า มักถูกใช้ในการผลิตเพื่อเสริมสมรรถนะระบบการจำกัดมลภาวะทางอากาศ


· ซิลเวอร์ปิด -2.3% ที่ 25.71 เหรียญ


· นายนีล คาร์ชคาริ ประธานเฟดสาขามินนีแอโพลิส กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯหลายๆภาคส่วนเผชิญกำลังปรับตัวให้เข้าสู่ช่วง Reopening หลังจากที่เผชิญภาวะ Lockdown สกัดไวรัสระบาดในช่วงก่อนหน้า


· ข้อมูลค้าปลีกสหรัฐฯดีเกินคาดแตะ 0.6% ในเดือนมิ.ย. หลังเดือนก่อนหน้า -1.7% และคาดจะออกมา -1.3%

ทั้งนี้ ข้อมูลค้าปลีกได้รับอานิสงส์เชิงบวกจาก

- อุปสงค์สินค้าต่างๆที่แข็งแกร่ง

- การกลับมาใช้จ่ายในด้านบริการ โดยเฉพาะการท่องเที่ยว และความบันเทิง

- ยอดขายเดือนมิ.ย. ปีนี้เทียบปีที่แล้วเพิ่มขึ้นกว่า 18%

- ประชาชนในสหรัฐฯกว่า 160 ล้านคนได้รัยการฉีดวัคซีนครบโดส

ทั้งนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจเชิงบวกหนุนคาดการณ์เศรษฐกิจไตรมาสที่ 2/2021 จะขยายตัวได้รวดเร็ว


บรรดานักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ค่าใช้จ่ายผู้บริโภค (คิดเป็น 2 ใน 3 ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ) ที่อาจนำมาซึ่งจีดีพีไตรมาสที่ 2 เพิ่มขึ้นได้เป็น 2 เท่า หลังจากที่ค่าใช้จ่ายผู้บริโภคครึ่งปีแรกขยายตัวได้ 11.4%


· คาดการณ์จีดีพีไตรมาสที่ 2/2021 คาดอาจจะเติบโตได้มากถึง 9% หลังจีดีพีไตรมาสแรกของปีนี้ขยายตัวได้ 6.4% จึงทำให้บรรดานักเศรษฐศาสตร์ เชื่อว่า จีดีพีปี 2021 จะขยายตัวได้ไม่น้อยกว่า 7% ถือเป็นอัตราการขยายตัวที่เร็วสุดตั้งแต่ปี 1984 หลังจากที่ปี 2020 เศรษฐกิจสหรัฐฯหดตัวไปมากถึง -3.5% แย่สุดรอบ 74 ปี


· ข้อมูลเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯดิ่งลงในช่วงครึ่งแรกของดือนก.ค. จากนักลงทุนกังวลเงินเฟ้อ

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของมหาวิทยาลัยมิชิแกนช่วงครึ่งแรกของเดือนก.ค. ออกมาแย่กว่าคาดแตะ 80.8 จุด ขณะที่รายงานล่าสุด สะท้อนว่า “กลุ่มผู้บริโภค” เชื่อว่า เงินเฟ้อปีหน้าจะขยายตัวได้ 4.8% ซึ่งถือเป็นสูงสุดตั้งแต่ส.ค. ปี 2008


· สต็อกสินค้าภาคธุรกิจปรับตัวขึ้นในเดือนพ.ค. ท่ามกลางหุ้นรถยนต์ที่เคลื่อนไหวแดนลบ โดยล่าสุดปรับขึ้น 0.5% หลังจากที่ขยับขึ้นได้เพียง 0.1% ในเดือนก่อนหน้า


· สหรัฐฯ เตือนบริษัทต่างๆเกี่ยวกับ “ความเสี่ยง” ในการดำเนินธุรกิจ-การเงินที่ฮ่องกง ท่ามกลางจีนที่เดินหน้าออกกฎจำกัดสิทธิเสรีภาพที่เข้มงวดทางการเงินและเศรษฐกิจ


· อังกฤษกำหนดแผนกระตุ้นการค้ากับประเทศเศรษฐกิจกำลังพัฒนา 70 แห่งในการลดภาษี และล่าสุดมีการผลักดันสนับสนุนการพาณิชย์เสรีทั่วโลก หลังจากที่มีการเพิ่มมาตรการควบคุมนโยบายการค้าตามหลังข้อตกลง Brexit


· CORONAVIRUS UPDATES:




ยอดติดเชื้อไวรัสโคโรนาทั่วโลกทะลุ 190 ล้านราย ล่าสุดทะยานแตะ 191.19 ล้านราย

ขณะที่ยอดเสียชีวิตทั่วโลกสะสมทะลุ 4 ล้านรายวานนี้ ล่าสุดแตะ 4.10 ล้านราย

ทั้งนี้ การระบาดส่วนใหญ่มาจากสายพันธุ์ Delta-Covid ซึ่งผู้ติดเชื้อใหม่ทั่วโลกวานนี้พบเพิ่ม 440,134 ราย


· การเพิ่มขึ้นของยอดติดเชื้อใหม่ของ Covid-19 กำลังระบาดเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในระดับสูงจากสายพันธุ์ใหม่อย่าง Delta ที่กำลังเป็นปัจจัยกดดัน “ความเชื่อมั่นนักลงทุน” และทำให้หลายๆประเทศในแถบยุโรปต้องกลับมาใช้มาตรการเข้มงวดมากขึ้น ขณะที่อังกฤษจะถอนมาตรการ Lockdown ในวันนี้


· เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา มีรายงานว่าอังกฤษเผชิญสถานการณ์ Covid-19 ระบาดระลอกใหม่ โดยพบผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่ม 51,870 ราย นับเป็นครั้งแรกที่ยอดติดเชื้อใหม่รายวันทะลุ 50,000 รายตั้งแต่ช่วงกลางเดือนม.ค.


· นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ แนะให้ใช้ความระมัดระวังต่อวัน “FREEDON DAY” ของอังกฤษในวันนี้

เนื่องจากกลยุทธ์แนวทางดังกล่าวยังมี “ความเสี่ยง” โดยส่วนใหญ่เป็นผลจากการระบาดของไวรัสโคโรนาสายาพันธุ์ Delta ที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจให้ต้องชะงักงัน


· นักกีฬาโอลิมปิกติด Covid-19 เพิ่ม ท่ามกลางอัตราติดเชื้อของประชากรในประเทศทะลุ 1,000 ราย 4 วันต่อเนื่อง


· สิงคโปร์ออกกฎแยกระหว่างผู้ฉีดวัคซีน - ผู้ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน

- ผู้ที่ได้รับวัคซีนครบทุกโดส และผู้ที่หายป่วยจากการติดเชื้อ Covid-19 สามารถรับประธานอาหารรวมกลุ่มได้ ไม่เกิน 5 คน โดยปราศจากการทดสอบหาเชื้อ หลังกฎดังกล่าวมีผลบังคับใช้ 19 ก.ค. นี้

- ผู้ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน จะต้องทำการทดสอบหาเชื้อด้วยวิธี Antigen Rapid Test ในการร่วมกลุ่ม 5 คนขึ้นไป ขณะที่การรับประทานอาหารโดยทั่วไปจำกัดทานร่วมกันได้ไม่เกิน 2 คน


· ไทยวิกฤตหนัก ติดเชื้อทะลุหลักหมื่นตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา ทำนิวไฮเสียชีวิตรายวันด้วย

17 ก.ค. พบผู้ติดเชื้อใหม่ 10,082 คน และเสียชีวิตเพิ่ม 141 ราย

18 ก.ค. พบติดเชื้อใหม่เพิ่มทำนิวไฮต่อ 11,397 ราย ขณะที่เสียชีวิต 101 ราย


รวมสองวันผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นมากถึง 21,479 ราย และเสียชีวิตช่วงวันหยุดสะสม 242 ราย


ยอดติดเชื้อสะสมในประเทศไทยทะลุ 400,000 ราย วานนี้รวมสะสมสูงถึง 403,386 ราย ขณะที่ยอดเสียชีวิตในประเทศสะสมที่ 3,341 ราย


การจัดอันดับโลก พบว่า
- ยอดติดเชื้อใหม่ในไทยปรับขึ้นมาอยู่ลำดับที่ 11 ของโลก แต่หากเป็นยอดเสียชีวิตใหม่เพิ่มวานนี้ไทยรั้งอั้นดับ 16



- สำหรับในแถบเอเชีย พบว่า ไทยติดอันดับ 5 ที่มีผู้ติดเชื้อใหม่ที่สุดในฝั่งเอเชีย



- ยอดเสียชีวิตใหม่ในประเทศไทย ครองอันดับ 8 ในฝั่งเอเชีย



· ราชกิจจาฯ ประกาศแล้ว ล็อกดาวน์เพิ่ม 3 จังหวัด รวม 13 จังหวัด!

การปรับปรุงเขตพื้นที่จังหวัดตามพื้นที่สถานการณ์ กำหนดปรับปรุงเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดขึ้นใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร จังหวัดนครปฐม จังหวัดนนทบุรี จังหวัดปทุมธานี จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดชลบุรี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดนราธิวาส จังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา และจังหวัดสงขลา


· ฐานเศรษฐกิจ เผยวานนี้ ดีล"วัคซีนไฟเซอร์" จบแล้ว “40 ล้านโดส” ทยอยเข้าไทยก.ค.นี้


· นักบริหารการเงิน มองทิศทางบาทอ่อนค่าล่าสุดที่ขึ้นไปทำอ่อนค่ามากที่สุดรอบ 15 เดือน ขณะที่สัปดาห์นี้คาด เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.50-33.20 บาท/ดอลลาร์ฯ




ปัจจัยที่ต้องจับตา

- สถานการณ์ระบาดในประเทศ

- “มาตรการเข้ม” คุม Covid-19 สัปดาห์นี้

- ตัวเลขส่งออกเดือนมิ.ย.

- ผลประกอบการไตรมาส 3 ของบริษัทในตลาดหุ้น


ภาพรวมเงินบาทช่วงปลายสัปดาห์อ่อนค่ามากสุดรอบ 15 เดือน บริเวณ 32.80 บาท/ดอลลาร์


ทั้งนี้ เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบที่อ่อนค่าลงในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ท่ามกลางสถานการณ์ที่น่ากังวลของโควิด 19 ประกอบกับไทยยังคงมีปัญหาเรื่องการบริหารจัดการวัคซีน


นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ฯ ยังมีแรงหนุนให้สามารถฟื้นตัวได้ในช่วงปลายสัปดาห์จากข้อมูลจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าที่คาดด้วยเช่นกั


ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ประกอบด้วย

- ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนก.ค.

- ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน

- ยอดขายบ้านมือสองเดือนมิ.ย.

- จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

- ดัชนี PMI เดือนก.ค. ของสหรัฐฯ


นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตาม

- ผลการประชุมนโยบายการเงินของอีซีบี

- อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ LPR ของจีน - ดัชนี PMI ยูโรโซน

- ดัชนี PMI อังกฤษ


· อ้างอิงจากสำนักข่าวไทยรัฐ

- "อนุทิน" ชง "ศบค." เคาะ จำกัดส่งออก แอสตราฯ - พร้อมซื้อไฟเซอร์ 50 ล้านโดส

หวังได้ 10 ล้านโดส ฉีดให้คนไทยก่อน สัปดาห์หน้า คุยทุกบริษัท จัดหาวัคซีน mRNA ด้าน "โมเดอร์นา" ตอบรับแล้ว พร้อมสั่งซื้อไฟเซอร์อีก 50 ล้านโดส

- "แนวทางใหม่" ย้ำโควิดนิวไฮ คือความผิดพลาด รบ. ที่แก้ปัญหาไม่ตรงจุด


· อ้างอิงจากสำนักข่าวไทย

- กมธ.งบฯ ฝ่ายค้าน เตรียมเสนอโหวตงบเรือดำน้ำ หลังรัฐบาลไม่ยอมปรับลด จะเสนอโหวตแบบเปิดเผย

· อ้างอิงจาก The Reporters

- กระทรวงกลาโหมไทยถอนงบเรือดำน้ำปี 65 เตรียมหารือจีนถึงความจำเป็นชะลอโครงการ

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com