• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 27 กรกฎาคม 2564

    27 กรกฎาคม 2564 | SET News


· ดัชนีฮั่งเส็งของฮ่องกงทรุดตัวกว่า 8% ช่วง 2 วันทำการ จากภาวะคุกคามหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีของจีน




ตลาดฮ่องกงเผชิญแรงเทขายต่อเนื่องและปรับตัวลดลงต่อจากวานนี้ โดยที่ภาพรวมจะเห็นว่าตลาดหุ้นในแถบเอเชีย-แปซิฟิก เคลื่อนไหวได้อย่างผสมผสาน


ดัชนี HSI ปรับลงกว่า 5% วานนี้ ก่อนจะปิด -4.22% ที่ 25,086.43 จุด ช่วง 2 วันทำการปรับลงกว่า 8% โดยวันจันทร์ก็ปิดดิ่ง 4%

หุ้นบริษัท Tencent ที่อยู่บนกระดานซื้อขายในตลาดฮ่องกงร่วงต่อ -8.98%

หุ้นบริษัท Alibaba ดิ่ง -6.3%

หุ้นบริษัท Meituan ทรุดแรง -17.66%

ดัชนี Hang Seng Tech ปิด -7.97% ที่ 6,249.65 จุด


การออกกฎต่อต้านการผูกขาดของจีนที่ประกาศเมื่อวันจันทร์ดูเหมือนจะมุ่งเน้นไปยังแพลตฟอร์มการส่งอาหารที่คิดค่าบริการชำระเงินเทียบเท่าค่าแรงขั้นต่ำในประเทศ และการออกกฎดังกล่าวก็ดูจะส่งผลกระทบต่อผลกำไรของบริษัทต่างๆ อาทิ Meituan และ Alibaba's Ele.me ด้วย

ดัชนี Kospi ของเกาหลีใต้ปิด +0.24% ที่ 3,232.53 จุด

ดัชนี S&P/ASX200 ปิด +0.5% ที่ 7,431.4 จุด

ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมหุ้นญี่ปุ่นปิด -1.98%


· Nikkei ปิดต่ำกว่า 28,000 จุดต่อเนื่อง 2 วันทำการ แม้จะมีแรงหนุนจากหุ้นสหรัฐฯ

ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดปรับขึ้นเพียงเล็กน้อย แม้นักลงทุนจะตอบรับกับข้อมูลผลประกอบการที่สดใสหนุนหุ้นสหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้น แต่ดัชนี Nikkei ก็ยังล้มเหลวในการปิดเหนือ 28,000 จุด ที่เป็นระดับสำคัญทางจิตวิทยาต่อเนื่อง 2 วันทำการ

ดัชนี Nikkei ปิด +0.49% ที่ 27,970.22 จุด ยังคงปิดต่ำกว่า 28,000 จุด ตั้งแต่ที่ทำไว้ 16 ก.ค.

ดัชนี Topix ปิด +0.64% ที่ 1,938.04 จุด


· หุ้นจีนร่วงแรงทำต่ำสุดรอบ 8 เดือน จากความกังวลเรื่องข้อกฎหมาย

หุ้นจีนที่ถูกจัดใน A-Shares และดัชนี HIS ดิ่งลงหนัก ทำต่ำสุดรอบหลายเดือน อันเป็นผลจากนักลงทุนวิตกกังวลต่อการออกมาตรการเข้มงวดของรัฐบาล ประกอบกับสถานการณ์ยอดติดเชื้อ Delta Covid-19 ที่กำลังเพิ่มสูงขึ้น กระทบความเชื่อมั่น

ดัชนี CSI300 ปิด -3.53% ทำต่ำสุดตั้งแต่เดือนพ.ย. หลังจากวันจันทร์ปิด -3.2% จากหุ้นกลุ่มการเงิน, กลุ่มของใช้ผู้บริโภคโดยทั่วไป และอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวลง

ดัชนี Shanghai Composite เปิดบวกช่วงต้นตลาดก่อนจะปิด -2.49% ที่ 3,381.18 จุด เป็นการปิดทำต่ำสุดตั้งแต่ 25 มี.ค.

ดัชนี CSI กลุ่มการเงินดิ่งลงกว่า -3.17%

หุ้นกลุ่มของใช้ผู้บริโภคทั่วไปเผชิญแรงขายทรุด -4.75%

หุ้นกลุ่มสุขภาพปรับลง -3.9%

· หุ้นยุโรปเปิดแดนลบจากนักลงทุนให้ความสำคัญผลประกอบการและหุ้นบริษัท Reckitt Benckiser ดิ่งแรงเกือบ 9% ในวันนี้




ดัชนี Stoxx 600 เปิด -0.7%

หุ้นกลุ่มรถยนต์ปรับลง -1.3%

ขณะที่หุ้นกลุ่มอื่นๆเคลื่อนไหวแดนลบเช่นกัน


· ดัชนี FTSE100 ดิ่งลงกว่า 1%

ท่ามกลางหุ้นกลุ่มเหมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเป็นลำดับที่ 2 ของโลกอย่าง Miner Rio Tinto พบหุ้นบริษัท -2.3% หลังเผยแผนปรับลดการผลิตอะลูมิเนียมในแคนาดา ท่ามกลางการประท้วงของกลุ่มสหภาพแรงงาน

ด้านหุ้นบริษัท Reckitt Benskiser ทรุด -7.6% ทำต่ำสุดตั้งแต่มี.ค. ปี 2020 จากผลประกอบการ Q2/2021 ออกมาพลาดเป้า และอุปสงค์อ่อนตัว


· อ้างอิงจากสำนักข่าวประชาติธุรกิจ

- หุ้นไทยวันนี้ (27 ก.ค.) ปิดตลาดภาคเช้า -2.99 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,542 จุด มีมูลค่าซื้อขายรวมทั้งสิ้น 35,556 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด ได้แก่ KBANK 7UP และ RCL

การซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหุ้นไทยวันนี้ (27 ก.ค.) ดัชนี SET Index ปิดตลาดภาคเช้า อยู่ที่ระดับ 1,542.11 จุด ปรับลง -2.99 จุด หรือคิดเป็น -0.19% มีมูลค่าซื้อขายรวมทั้งสิ้น 35,556 ล้านบาท เคลื่อนไหวในกรอบ 1,539.37-1,551.43 จุด โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด ได้แก่ KBANK 7UP และ RCL


ดัชนี SET50 ล่าสุดปรับลง -3.45 จุด หรือคิดเป็น -0.37% อยู่ที่ 919.79 จุด โดยมีมูลค่าซื้อขายรวม 15,861 ล้านบาท เทียบเป็นราว 44.61% ของการซื้อ-ขายทั้งหมด

· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- ตลาดหุ้นไทยต้นภาคบ่ายร่วงกว่า 10 จุด รับแรงขายหุ้นขนาดใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มแบงก์

เมื่อเวลา 14.33 น.ดัชนี SET มาอยู่ที่ 1,534.48 จุด ลดลง 10.62 จุด (-0.69%)

ล่าสุดเมื่อเวลา 14.42 น.ดัชนี SET อยู่ที่ 1,535.29 จุด ลดลง 9.81 จุด (-0.63%)


- รมว.คลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้รับทราบข้อเสนอของ 40 ซีอีโอที่ได้เสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการให้เพิ่มเงินโครงการคนละครึ่ง และนำโครงการช้อปดีมีคืนกลับมาแล้ว แต่กระทรวงการคลัง ขอเวลาพิจารณารายละเอียดก่อน ยังไม่มีการเพิ่มในตอนนี้ ขณะเดียวกันต้องรอผลการดำเนินงานจากโครงการคนละครึ่ง ยิ่งใช้ยิ่งได้ และการเพิ่มกำลังซื้อในกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐด้วยเพิ่งเป็นโครงการที่เพิ่งเปิดไปเมื่อวันที่ 1 ก.ค.64


- "สุพัฒน์พงษ์" นัดถกบอร์ดอีวีแห่งชาติสัปดาห์นี้ เร่งแผนดันไทยเป็นฐานการผลิตและการสร้างแรงจูงใจในการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในไทย "สรรพามิต" เร่งคลอดมาตรการภาษีหนุนอีวีภายในปี 64 ยืนยันไม่กระทบรถกระบะ


- ศูนย์วิจัยกรุงไทย คอมพาส ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์การส่งออก ยังต้องจับตาการผลิตและส่งออกในระยะต่อไปหลังไทยต้องประสบปัญหาการระบาดคลัสเตอร์โรงงานในหลายพื้นที่และแพร่กระจายไปหลากหลายประเภทอุตสาหกรรม ซึ่งกระทบต่อการผลิตและการส่งมอบสินค้า และต่อเนื่องไปยังส่วนอื่นๆ โดยยังต้องติดตามการส่งออกไปยังฝั่งอาเซียนหลังโวิด-19 สายพันธุ์เดลต้าระบาดอย่างรุนแรงและยากต่อการควบคุม ซึ่งอาจส่งผลต่อเนื่องถึงการส่งออกสินค้าของไทยที่มีส่วนแบ่งมูลค่าตลาดในกลุ่มอาเซียน 9ประเทศสูงถึง 1 ใน 4 ของมูลค่าการส่งออกไปตลาดโลกปี 62


- ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ยังคงติดตามสถานการณ์ท่องเที่ยวในปี 64 อย่างใกล้ชิด และยังมีความกังวล หากสถานการณ์ของไวรัสโควิด-19 ยังคงระบาดหนัก และถ้าไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ให้จบลงโดยเร็ว จนต้องตัดสินใจขยายเวลาการล็อกดาวน์ยาวถึง 3 เดือน จะส่งผล กระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยต้องเผชิญกับจุดต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ มีรายได้รวมจากการท่องเที่ยวทั้งปีเพียง 3.5-4.05 แสนล้านบาท ลดลง 50-56% จากปีก่อนหน้าที่มีรายได้ 8.15 แสนล้านบาท


- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า ได้ประเมินธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะประชุมกันวันที่ 27-28 ก.ค.นี้ จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.0-0.25% ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อไทย หากเฟดส่งสัญญาณถอนนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเร็วกว่าตลาดคาดส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งส่งผลให้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลไทยและต้นทุนการกู้ยืมนั้นปรับสูงขึ้นตามไปด้วย


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com