IMF ปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจประเทศร่ำรวย – ลดคาดการณ์ประเทศกำลังพัฒนาจากยอดติดเชื้อ Covid-19 ที่เพิ่มขึ้น
คงคาดการณ์จีดีพีโลกปีนี้โตได้ 6% แต่ปี 2022 ปรับเพิ่มคาดการณ์อีก 0.5% สู่ระดับ 4.9% เชื่อแผนค่าใช้จ่ายสหรัฐฯ และคืบหน้าการฉีดวัคซีนจะหนุนการเติบโตปีหน้า
ความแตกต่างในการเข้าถึงวัคซีนและการใช้นโยบายสนับสนุนทางการเงินในประเทศที่พัฒนาแล้ว กับประเทศกำลังพัฒนาดูจะเห็นถึงความแตกต่างอย่างชัดเจน
ไอเอ็มเอฟปรับเพิ่มคาดการณ์จีดีพีสหรัฐฯปีนี้อีก 0.6% มาที่ 7% ขณะที่ปีหน้าปรับเพิ่มขึ้นกว่า 1.4% สู่ระดับ 4.9% ซึ่งเป็นการประเมินจากโอกาสที่สภาคองเกรสอาจผ่านร่างอนุมัติงบตามแผนของนายไบเดนมูลค่า 4 ล้านล้านเหรียญ เพื่อสนับสนุนค่าใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐาน, การศึกษา และค่าใช้จ่ายสำหรับกลุ่มครอบครัว
นอกจากนี้ ไอเอ็มเอฟปรับเพิ่มคาดการณ์จีดีพีอังกฤษกว่า 1.7% สู่ระดับ 7% ปีนี้ แต่ปรับเพิ่มของยูโรโซนเพียง 0.2% สู่ระดับ 4.6% และปีหน้าคาดยูโรโซนขยายตัวได้ 4.3%
ไอเอ็มเอฟหั่นคาดการณ์จีดีพีญี่ปุ่นลงมากถึง 0.5% สู่ระดับ 2.8% ในปีนี้ อันเป็นผลจากยอดติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับการใช้มาตรการเข้มงวดช่วงครึ่งแรกของปี
สำหรับอินเดียเผชิญการระบาดอย่างหนัก จึงทำให้ปรับลดคาดการณ์จีดีพีลง 0.3% คาดปีนี้อินเดียจะโตได้ 9.5%
จีนถูกหั่นคาดการณ์จีดีพีลง 0.3% คาดปีนี้โตได้ 8.1%
อย่างไรก็ดี ไอเอ็มเอฟหั่นคาดการณ์เศรษฐกิจอินโดนีเซีย, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, ไทย และเวียดนาม ที่ถือเป็น 5 ประเทศชั้นนำในอาเซียนที่จีดีพีโดยรวม 5 ประเทศนี้จะลดลงอีก 0.6% สู่ระดับ 4.3% จากสถานการณ์ระบาดที่ย่ำแย่กดดันกิจกรรมทางเศรษฐกิจ จึงหั่นคาดการณ์จีดีพีปีนี้ลงไปกว่า 1.1% คาดขยายตัวได้ 7.5%
ภาพรวมไอเอ็มเอฟยังตั้งเป้าจีดีพีไทยปีนี้ที่ 2.6% แต่สถานการณ์ระบาดที่ย่ำแย่อาจทำให้มีการปรับทบทวนจีดีพีไทยได้อีกครั้ง
ด้านประเทศรายได้น้อย คาดได้รับผลกระทบจากการฉีดวัคซีนที่ล่าช้า จึงอาจกระทบจีดีพีปีนี้ให้ขยายตัวลดลงไปอีก 0.4%
ที่มา: Reuters