การทำข้อตกลงการค้าเฟสแรกระหว่างสหรัฐฯกับจีน เกิดขึ้นเมื่อเดือนม.ค. ปีที่แล้ว ก่อนที่ไวรัสโคโรนาจะระบาดภายใต้การบริหารงานของงนายโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯในยุคนั้น ซึ่งจีนทำข้อตกลงที่จะซื้อสินค้าและบริการของสหรัฐฯ (โดยเฉพาะสินค้าเกษตร, พลังงานและการผลิต) ไม่น้อยกว่า 2 แสนล้านเหรียญตลอดช่วง 2 ปี เพื่อให้สอดคล้องกับระดับในปี 2017
ขณะที่ล่าสุดเมื่อเดือนมิ.ย. ที่ผ่านมา รัฐบาลจีนและสหรัฐฯ ต่างก็ส่งสัญญาณว่า จีนสามารถซื้อสินค้าจากสหรัฐฯได้น้อยกว่าเป้าหมาย 70% ในปีนี้ ซึ่งตามข้อตกลงต้องมีการซื้อสินค้าเกษตรเพื่อให้สูงถึงเป้าหมาย 90% ตามข้อตกลง
จีนมีการนำเข้าสินค้าของสหรัฐฯ ในช่วงครึ่งแรกของปี 2021 เพิ่มขึ้น 8.794 หมื่นล้านเหรียญ หรือเพิ่มขึ้นมากถึง 55.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2020
แต่หากเพิ่มขึ้นกับช่วง 6 เดือนแรกของปี 2019 จะพบว่าจีนนำเข้าสินค้าสหรัฐฯเพิ่มขึ้นเพียง 49.3%
จีนมีการส่งออกสินค้าไปสหรัฐฯ มูลค่า 2.5286 แสนล้านเหรียญในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 42.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2020 แต่หากเทียบกับปี 2019 จะพบว่าเพิ่มขึ้นเพียง 26.8%
โดยภาพรวม สหรัฐฯยังคงเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของจีน แม้ว่าจะเผชิญกับความตึงเครียดทางการค้าภายใต้การบริหารงานของทีมนายทรัมป์
เจรจาสหรัฐฯ-จีนยังชะงักงัน
แถลงข่าวช่วงกลางเดือนก.ค. จะเห็นได้ว่า โฆษกรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์จีน ปฎิเสธที่จะยืนยันว่าข้อตกลงการค้าเฟสแรกจะยังคงอยู่หรือไม่
อย่างไรก็ดี จีนยังคงต้องการดำเนินการร่วมกับสหรัฐฯ ในการสร้างสภาพภูมิอากาศ และการดำเนินการภายใต้เงื่อนไขของข้อตกลงการค้าอยู่