· หุ้นเอเชียทรงตัวใกล้ต่ำสุดปี 2021 ก่อนทราบผลประชุมเฟด
หุ้นเอเชียทรงตัวใกล้ต่ำสุดรอบ 7 เดือน ท่ามกลางตลาดที่ยังคงตอบรับกับความผันผวนอย่างหนักในตลาดหุ้นจีน ขณะที่ดอลลาร์ทรงตัวจากนักลงทุนที่ปรับพอร์ตการลงทุนเพื่อเตรียมรับกับผลประชุมเฟดในคืนนี้
ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมหุ้นญี่ปุ่นปรับลง -0.35% ในช่วงต้นตลาด หลังจากที่ตลอด 3 วันนี้ถูกกดดันจากการที่จีนออกมาตรการปราบปรามที่เข้มงวด กระทบหุ้นจีนในกลุ่มบริษัทเทคโนโลยี, อสังหาริมทรัพย์ และภาคการศึกษา จึงส่งผลต่อกลุ่มนักลงทุต่างชาติด้วย
หัวหน้านักกลยุทธ์การตลาดจาก JPMorgan Asset Management กล่าวว่า จีนและเฟด เป็นสองปัจจัยสำคัญสำหรับวันนี้
อย่างไรก็ดี แม้ว่าภาพควมมหุ้นเอเชียส่วนใหญ่จะปรับตัวลง แต่หุ้นฮ่องกงรีบาวน์กลับได้หลังจากที่ปรับตัวลดลงไปช่วง 2 วันก่อนหน้าที่ปรับลงไปกว่า -8% โดยวันนี้ดัชนี HSI ปิด +1.42%
· หุ้นจีนอ่อนตัวลง แต่ชะลอการปรับลง หลังสื่อการเงินของทางการจีนเรียกร้องให้บรรเทาความผันผวนของตลาดที่แกว่งตัวจากความเข้มงวดของรัฐบาล
ดัชนี Shanghai Composite ร่วงลงกว่า -2% ก่อนที่จะปิด -0.59%
หุ้นกลุ่ม Blue-Chip อย่างดัชนี CSI300 ปิดทรงตัว แต่สัปดาห์นี้ทรุดตัวกว่า -6.6%
· UBS เตือน ตลาดจีนยังลงไม่สุด!
หัวหนาเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของ UBS Global Wealth Management เตือน นักลงทุนที่กำลังรอจังหวะการปรับลงของตลาดหุ้นจีน ให้ระวังไว้เพราะตลาดหุ้นจีนอาจปรับตัวลดลงได้อีก
ดังนั้น การปรับตัวลงของตลาดหุ้นจีนเวลานี้ จึงไม่คิดว่านี่คือจุดต่ำที่สุดแล้ว
ขณะที่มาตรการปราบปรามของจีนเกิดขึ้นพร้อมๆกับ "โอกาส" ในขณะที่เศรษฐกิจทั่วโลกรีบาวน์จากการระบาดของไวรัส
ทิศทางการเติบโตทางเศรษฐกิจปีนี้จะเห็นได้จาก สหรัฐฯที่จะโตได้ 7% ขณะที่ยูโรโซนมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ 4.3% ทั้งหมดนี้มีแนวโน้มจะส่งผลกดดันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน
นอกจากนี้ การประชุมคณะกรรมาธิการบริหารของจีน (Politburo Meeting) ในเดือน ต.ค.ปีหน้า จะตรงกับการสิ้นสุดวาระห้าปีครั้งที่ 2 ของการดำรงตำแหน่งของนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน จึงถือเป็นเหตุการณ์สำคัญมากๆสำหรับประเทศจีน ที่นักลงทุนควรจับตา
· ดัชนีนิกเกอิปิดแดนลบตามหุ้นสหรัฐฯอ่อนตัว - ยอติดเชื้อไวรัสในกรุงโตเกียวทำสูงสุดประวัติการณ์แตะ 2,848 จุด
ดัชนีนิกเกอิปิดปรับลงใกล้ต่ำสุดรอบ 6 เดือน ตามการปรับตัวลงของหุ้นสหรัฐฯ และตลาดกังวลเกี่ยวกับยอดติดเชื้อไวรัสโคโรนาเพิ่มขึ้นอย่างมากกระเทือนตลาดก่อนประชุมเฟด
หุ้นบริษัท Shin-Etsu Chemical ปรับตัวลง แม้ว่าจะเห็นผลประกอบการเพิ่มขึ้นเกินคาด
ขณะที่หุ้นบริษัท Apple ปรับลงตามรายงานผลประกอบการบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ ส่งสัญญาณว่า หุ้นกลุ่ม Growth Stocks บางตัวอาจเผชิญความผันผวนจากฤดูกาลประกาศผลประกอบการที่แกว่งตัวแรง
ดัชนีนิกเกอิปิด -1.15% ที่ 27,648.77 จุด ใกล้ต่ำสุดรอบ 6 เดือนครึ่งบริเวณ 27,330 จุดที่ทำไว้ในสัปดาห์
ดัชนี Topix ปิด -0.73% ที่ระดับ 1,923.38 จุด กดดันให้หุ้นกลุ่ม Growth Stocks ดิ่ง -1.09%
· หุ้นยุโรปเปิดทรงตัว ท่ามกลางนักลงทุนที่ตอบรับกับผลประกอบการบริษัทรายใหญ่ ขณะที่ตลาดรอการตัดสินใจของเฟด - หุ้นบริษัท Barclays ปรับขึ้น +5%
ดัชนี Stoxx 600 เปิด +0.1% ในช่วงต้นตลาด
หุ้นกลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรมปรับขึ้น +0.9% ขณะที่หุ้นกลุ่มเคมีภัณฑ์ เปิด -0.7%
· อ้างอิงจากสำนักข่าวกรุงเทพธุรกิจ
- 'นายกฯ'เรียกผู้ว่าฯ13จว.พื้นที่สีแดงเข้ม ถกคุม'โควิด'บ่ายนี้
มีรายงานข่าวแจ้งว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เรียกประชุมผู้ว่าราชการจังหวัด ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือพื้นที่สีแดงเข้ม 13 จังหวัด ในเวลา 13.00 น. โดยใช้ระบบ zoom จากบ้านพัก ภายในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ เพื่อหารือถึงแนวทางการรับมือกับการแพร่ระบาด รวมทั้งการให้ความช่วยเหลือผู้ป่วย การตั้งโรงพยาบาลสนามต่างๆ รวมทั้งการสื่อสารทำความเข้าใจกับประชาชน
· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
- ประธานสภาฯ เตรียมเปิดประชุมถกงบฯ 65 พร้อมรับญัตติซักฟอกฝ่ายค้าน 18-20 ส.ค.
นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า ขณะนี้ได้รับการแจ้งอย่างไม่เป็นทางการว่าทางคณะกรรมาธิการ (กมธ.)วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 จะขอบรรจุระเบียบวาระ ร่างพ.ร.บ.งบประมาณ ฯ วาระ 2 และวาระ 3 ในช่วงวันที่ 18-20 ส.ค.นี้ จึงต้องมีการเปิดประชุมสภาอย่างแน่นอนไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้ โดยในเรื่องของการเดินทางมายัง กทม.ของ ส.ส. อาจต้องเดินทางโดยรถยนต์ และเมื่อเข้าที่สภาก็จำเป็นต้องมีตรวจแบบเข้มข้น
· อ้างอิงจากสำนักข่าว Thestandard
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทยชี้ พิษโควิดกดดันสินเชื่อไตรมาส 2 ชะลอตัว ขณะที่เงินฝากหดตัวรอบ 5 เดือน สะท้อนคนถอนไปลงทุนในผลิตภัณฑ์ที่ผลตอบแทนสูงกว่า-ประคองตัวช่วงโควิด
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยเปิดเผยบทวิเคราะห์ภาพรวมสินเชื่อและเงินฝากในระบบธนาคารพาณิชย์ช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา โดยพบว่า ภาพรวมเงินให้สินเชื่อและดอกเบี้ยค้างรับสุทธิของธนาคารพาณิชย์จดทะเบียนในประเทศ 19 แห่ง (ธ.พ.ไทย) ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2564 ขยับขึ้นจากเดือนก่อนหน้าประมาณ 7.84 หมื่นล้านบาท ซึ่งทำให้ศูนย์วิจัยฯ ประเมินว่า อัตราการเติบโตของสินเชื่อระบบ ธ.พ.ไทย น่าจะปิดสิ้นไตรมาส 2/2564 ที่ระดับประมาณ 4.4% YoY เทียบกับ 4.6% YoY ในไตรมาสที่ 1/2564