ทองทรงตัวใกล้ระดับสำคัญ $1800 ก่อนทราบผลประชุมเฟด
· ราคาทองคำค่อนข้างทรงตัวใกล้ระดับสำคัญทางจิตวิทยาบริเวณ 1,800 เหรียญ ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่รอการตัดสินใจของประชุมเฟดวันนี้ ประมาณ ตี 1 (ตามเวลาไทย) และจะมีแถลงการณ์ของประธานเฟดต่อในช่วงเวลา 01.30น. ว่าเฟดจะมีการเริ่มต้นลดการสนับสนุนนโยบายการเงิน
· ขณะที่วานนี้ ภาพรวมเศรษฐกิจยังแกร่งจากข้อมูลความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ทำสูงสุดรอบ 17 เดือนในเดือนก.ค. นี้ จากแผนค่าใช้จ่ายภาคครัวเรือนที่มากขึ้น และโอกาสเห็นเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น
· ไอเอ็มเอฟวานนี้ทำการคงคาดการณ์จีดีพีโลกที่ 6% ในปีนี้ พร้อมปรับเพิ่มคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจโลก และประเทศที่ร่ำรวย แต่ปรับลดเศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนา จากการระบาดของ Covid-19 ที่เพิ่มสูงขึ้น
· FXStreet คาดทองคำรอ Breakout แต่รอประชุมเฟด
มุมมองทองคำระยะสั้น
ในทางเทคนิคทองคำดูจะไม่เคลื่อนไหวมากนัก แต่ก็ยังมีโอกาสเห็นทองคำฝ่าแนวต้าน 1,810 เหรียญ ที่เป็นเส้นค่าเฉลี่ยบริเวณ SMA ราย 200 วัน หากผ่านไปได้มีโอกาสเห็นทองคำปรับขึ้นไปแถว 1,823 เหรียญได้ ซึ่งจะทำให้ภาพของทองคำชัดเจนขึ้นในทิศทางขาขึ้น
ทั้งนี้ หากเกิดการปรับขึ้นดังกล่าว ก็อาจเห็นทองคำขึ้นต่ออย่างรวดเร็วไปที่ 1,845-1,846 เหรียญ และอาจไปถึง 1,866 เหรียญ ซึ่งหากเกิดขึ้นได้อาจทำให้กลุ่มผู้ซื้อยิ่งเข้าถือครองทองคำ และน่าจะดันให้ราคาไปถึง 1,900 เหรียญได้
ในทางกลับกัน ถ้าทองคำหลุดต่ำกว่า 1,800 เหรียญ อาจกลับหาแนวรับแถว 1,790 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับสำคัญของเทรดเดอร์ฝั่งขาลง หากหลุดลงมาจะยิ่งก่อให้เกิดแรงเทขาย โดยราคาทองคำจะมีแนวรับถัดไปบริเวณ 1,765 - 1,760 เหรียญ ก่อนที่จะเผชิญความท้าทายกลับทดสอบต่ำสุดของเดือนที่ 1,750 เหรียญ
· BofA Securities ชี้ ค่าเงินในแถบเอเชียอาจอ่อนค่าลงอีกในช่วงไตรมาสที่ 3/2021 ก่อนจะแข็งค่ากลับมาในช่วงไตรมาสที่ 4/2021 ท่ามกลางอัตราการฉีดวัคซีนในภูมิภาคเอเชียที่จะเพิ่มมากขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว
· บีโออีมีแนวโน้มรีบหนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ จากความเสี่ยงเงินเฟ้อที่สูงขึ้น
สมาชิกบีโออีมีแนวโน้มที่จะคงการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไปในสัปดาห์หน้า แม้ว่าสมาชิกบีโออีสองรายแนะให้ยุติการซื้อพันธบัตรเกือบ 9 แสนล้านปอนด์ (1.2 ล้านล้านเหรียญ) เพื่อยุติการเพิ่มขึ้นที่รวดเร็วของเงินเฟ้อ ในขณะที่เศรษฐกิจอังกฤษรีบาวน์อย่างรวดเร็วเกือบ 10% หลังจากที่ทรุดตัวในปี 2020
ผลจากกลุ่มผู้บริโภคที่กลับมาซื้อของในร้านค้า, บาร์ และร้านอาหาร จึงกระตุ้นให้เงินเฟ้อปรับขึ้น ควบคู่กับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ โดยเงินเฟ้อทะยานสูงกว่า 3% สูงกว่าเป้าหมายที่บีโออีกำหนดไว้ที่ 2%
ทั้งนี้ นักลงทุนหลายๆราย กำลังคาดการณ์ว่า บีโออีจะทำการปรับเพิ่มดอกเบี้ยก่อนเฟด แม้จะเห็นเศรษฐกิจสหรัฐฯฟื้นตัวได้เหมือนช่วงก่อนการระบาด ไม่เหมือนกับอังกฤษ
· เกาหลีใต้รายงานยอดติดเชื้อ Covid-19 รายวันสูงสุดแตะ 1,896 รายท่ามกลางการระบาดระลอกที่ 4 ในประเทศ หลังจากที่ทำสถิติสูงสุดครั้งประวัติการณ์ของยอดติดเชื้อเกิดขึ้นเมื่อ 22 ก.ค.
· ซิดนีย์ขยายเวลา Lockdown 4 สัปดาห์ ท่ามกลางยอดติดเชื้อในออสเตรเลียที่กำลังเพิ่มสูงขึ้น
· สหรัฐฯกังวลเรื่องการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์จีน หลังมีรายงานการพบคลังแสงใหม่ ที่มีมิสไซนต์เพิ่มมากขึ้นกว่า 110 ลูก
· เกาหลีเหนือ-เกาหลีใต้ ร่วมประชุมสุดยอดผู้นำในประเด็นการฟื้นความสัมพันธ์เปิดสายฮอตไลน์ครั้งแรกในรอบ 1 ปี
· ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นจากข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯลดลง แม้จะมีผู้ติดเชื้อ COVID-19 เพิ่มขึ้น
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นในวันนี้ หลังจากข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯภาคเอกชน (API) ออกมาปรับลงเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว หนุนกระแสคาดการณ์ที่จะเห็นอุปสงค์สูงกว่าอุปทาน ท่ามกลางการระบาดของยอดติดเชื้อ Covid-19 ที่เพิ่มขึ้น
สัญญาน้ำมันดิบ Brent ปรับขึ้น 38 เซนต์ หรือ 0.5% ที่ระดับ 74.86 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากเมื่อวานนี้ปิดปรับตัวลง 2 เซนต์ ส่งผลให้เป็นการปิดปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 6 วันทำการ
สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 42 เซนต์ หรือ 0.6% ที่ระดับ 72.07 เหรียญ/บาร์เรล ปรับขึ้นหลังวานนี้ปิด -0.4%