MTS Help Center

ทองขึ้น - ดอลลาร์อ่อน ก่อนการประกาศข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯ

 

·         ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น โดยได้รับแรหนุนจากการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์ แม้ว่าราคาจะยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบๆ เนื่องจากนักลงทุนให้ความสนใจกับข้อมูลการจ้างงานในสหรัฐฯที่จะประกาศในปลายสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

·         ราคาทองคำตลาดโลก +0.2% ที่ระดับ 1,813.78 เหรียญ

·         สัญญาทองคำ +01% ที่ระดับ 1,816.50 เหรียญ

·         นักวิเคราะห์ตลาดอาวุโสที่ OANDA กล่าว่า ราคาทองคำดูเหมือนอยู่ในลักษณะ wait-and-see

·         เจ้าหน้าที่ กล่าวว่า ตลาดแรงงานจะใช้เวลาเพื่อฟื้นฟูหลังจากผลกระทบของการแะร่ระบาดไวรัสโคโรนา และจำเป็นต้องดำเนินการอีกมากเพื่อให้เศรษฐกิจฟื้นตัวเต็มที่

·         ผู้จัดการทั่วไประดับโลกของ ABC Bullion กล่าวว่า ราคาทองคำทรงตัวเหนือระดับแนวรับทางเทคนิคระยะกลางได้ดี และอาจปรับตัวขึ้นมาที่แนวต้านระหว่างวันที่ 1,816 เหรียญและ 1,827 เหรียญตามลำดับ

 

·         FXStreet วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

นักวิเคราะห์จาก FXStreet คาดว่า ราคาจะรีบาวน์ได้อีกจากบริเวณ SMA ราย 50 วัน อันเป็นผลจาก

- สัญญาณการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปของ RSI 

MACD Histogram ลดมุมมอง "ขาลง" จึงอาจเห็นทองคำขยับขึ้นไปหาเป้าหมายบริเวณ 1,825 เหรียญ (สูงสุดเดิมเมื่อ 25 ก.ค.)

อย่างไรก็ดี จากการฟอร์มตัวของ Double Top แนว 1,832 - 1,834 เหรียญ กลายมาเป็นจุดรอทำกำไรของกลุ่มผุ้ซื้อ เพราะหากผ่านไปได้ มีโอกาสเห็นทองคำขึ้นไปท้าทายต่ำสุดช่วงปลายเดือนพ.ค. บริเวณ 1,872 เหรียญได้ แต่ช่วงสั้นๆอาจเห็นทองคำขึ้นไปแถว 1,856 เหรียญได้ก่อน

ภาพรวมกลุ่มผู้ซื้อยังคงไม่ค่อยสบายใจนักหลังราคาหลุดต่ำกว่า 1,834 เหรียญ แต่ก็คาดว่าราคาจะยังเคลื่อนไหวในกรอบสามเหลี่ยมไปก่อนในระยะกลาง

ทั้งนี้

ทองคำปราศจาก "ทิศทาง" ที่ชัดเจน รอ Breakout

นายดวานี เมธา นักวิเคราะห์จาก FXStreet กล่าวว่า ทองคำกำลังเข้าสู่สภาวะผันผวนในวันี้ และรอที่จะหาทาง Breakout ออกจากรอบ หากทราบผลการประกาศข้อมูลจ้างงานนอกภาคการเกษตรของรัฐบาลสหรัฐฯในคืนวันศุกร์นี้

ภาพรวมของราคาทองคำ

- ทองคำค่อยๆเคลื่อนไหวลงมาแนวเส้นค่าเฉลี่ย SMA ราย 21 วัน ที่ระดับ 1,815 เหรียญ

- ระดับ 1,815 เหรียญ ถือเป็นอีกหนึ่งจุดวัดใจของนักลงทุนขา Long

- ทองคำเคลื่อนไหวเหนือระดับ 1,800 เหรียญได้อยู่

- หากทองคำไม่หลุด 1,810 เหรียญ จะช่วยปกป้องโอกาสการกลับไปเป็นขาลงได้

ถ้าทองคำฝ่า 1,815 เหรียญไปได้ จะหนุน "กลุ่มผู้ซื้อ" และทำให้ทองคำกลับหาเป้าหมายที่เป็นสูงสุดเมื่อ 2 ส.ค. บริเวณ 1,820 เหรียญ

อย่างไรก็ตาม แนวรับบริเวณเส้นค่าเฉลี่ย SMA ราย 50 วันก็ดูจะยังแข็งแกร่ง และอาจทดสอบต่ำสุดของวันที่ 2 ส.ค. ก่อน จึงจะมีโอกาสที่จะเห็นราคาปรับตัวลดลงมาทดสอบ SMA ราย 200 วันที่ 1,799 เหรียญได้

·         ราคาซิลเวอร์ +0.4% ที่ระดับ 25.65 เหรียญ

·         ราคาแพลตินัม -0.1% ที่ระดับ1,048.03 เหรียญ

·         ราคาพลาเดียม +0.2% ที่ระดับ 2,653.81 เหรียญ

·         Caixin เผยดัชนี PMI ภาคบริการจีนในเดือนก.ค. ขยายตัวได้เร็วขึ้นแตะ 54.9 จุด ทำสูงสุดตั้งแต่พ.ค. แต่การระบาดของ Delta Covid-19 ในประเทศดูจะคุกคามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน

·         สินค้า "Made in China" เผชิญปัญหาใหม่ด้านโลจิสติกส์ ส่งผลกระทบต่อแผนการขายสินค้าแก่ต่างประเทศครั้งใหญ่ จากภาวะการขนส่งทั่วโลกที่ทำให้ต้นทุนสินค้าสูง ทำให้เกิดความล่าช้ามากขึ้น

·         จีนสั่งตรวจหาเชื้อและใช้มาตรการเข้มงวดตั้งแต่ "ปักกิ่ง" - "อู่ฮั่น" หลังยอดติดเชื้อ Covid-19 เพิ่ม

·         ญี่ปุ่นส่งสัญญาณอาจพิจารณายกเลิกมาตรการ Covid-19 ที่จำกัดการรักษาในโรงพยาบาลเฉพาะกลุ่มอาการหนัก

·         Jibun Bank เผยดัชนี PMI ภาคบริการญี่ปุ่นหดตัวอย่างรวดเร็วในเดือนก.ค. แตะ 47.4 จุด - หดตัวต่อเนื่อง 18 เดือน จากมาตรการจำกัดต่างๆในการสกัดไวรัส กระทบภาคธุรกิจและความเชื่อมั่นผู้บริโภค รวมทั้งยอดขาย

·         IHS Markit เผยดัชนี PMI อินเดียภาคบริการหดตัวลงอีกครั้งในเดือนก.ค. ต่ำกว่า 50 จุด และยังหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ล่าสุดแตะ 45.4 จุด - อุปสงค์ต่างประเทศอ่อนตัวลงต่อเนื่อง 17 เดือน ยาวนานสุดตั้งแต่เริ่มเก็บสถิติเมื่อ ก.ย. ปี 2014

·         ประเทศกิจกรรมการผลิตขนาดใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้รับผลกระทบจากความกังวลวัคซีนและ Delta Covid-19

การระบาดระลอกใหม่จาก Delta Covid ในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดูจะกระทบกับภาคการผลิต และสร้างอุปสรรคด้านอุปทานในระดับโลก อาทิ การผลิตถุงมือยาง, เซมิคอนดัคเตอร์ส และ SUVs รวมทั้ง คุกคามการฟื้นตัวในภูมิภาคคิดเป็นมูลค่ากว่า 3 ล้านล้านเหรียญ

ภาพรวมกิจกรรมผลสำรวจการผลิตในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ส่วนใหญ่ปรับตัวลงในเดือนก.ค. สวนทางกับภาคการผลิตในกลุ่มประเทศต่างๆทางเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือและฝั่งตะวันตก ที่ถึงแม้จะเห็นการชะลอตัวบ้างแต่ภาพรวมก็ยังขยายตัวได้ดี

นักเศรษฐศาสตร์จาก HSBC กล่าวเตือนว่า อัตราการฉีดวัคซีนได้ในระดับต่ำ ทั้งอินโดนีเซีย,  เวียดนาม, ฟิลิปปินส์ และ "ไทย" ควบคู่กับความไม่แน่นอนของประสิทธิภาพวัคซีนที่พวกเขาใช้ ดูจะ "สร้างความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจ"

·         "ไทย" ที่เป็นประเทศส่งออกรถยนต์และแหล่งผลิตรถยนต์แบรนด์ดังของโลก อาทิ โตโยต้า ที่ต้องเผชิญกับการถูกระงับการผลิตกว่า 3โรงงานในเดือนก.ค. จากการขาดแคลนอะไหล่เนื่องจากผลกระทบของไวรัส

·         รายงานผลประกอบการภาคธนาคารสิงคโปร์ ส่งสัญญาณชะลอตัว ท่ามกลางผลกระทบจากการระบาดของ Covid-19