ทองลง ดอลลาร์แข็ง หลังถ้อยแถลงสมาชิกเฟดหนุนคุมเข้มนโยบาย
· ราคาทองคำถูกกดดัน หลังจากถ้อยแถลงของสมาชิกเฟดที่ทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ขณะที่เหล่านักลงทุนมุ่งเน้นไปยังข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพื่อหาสัญญาณการฟื้นตัวของตลาดแรงงาน
· ราคาทองคำตลาดโลก -0.1% ที่ระดับ 1,803.91 เหรียญ
· สัญญาทองคำปรับตัวลดลงที่บริเวณ 1,812.10 เหรียญ
· นักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์จากโบรกเกอร์ Anand Rathi Shares ในมุมไบ กล่าวว่า ตลาดยังไม่สามารถเป็นขาขึ้นได้ โดยยังอยู่ในกรอบ 1,810-1,815 เหรียญ และกำลังรอปัจจัยใหม่ที่จะมาส่งผลกับราคา
· หากข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรออกมาสูงขึ้น ราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะถูกเทขายอย่างรวดเร็ว โดยปรับตัวลงมาที่ 1,790 เหรียญ และมีโอกาสลดลงมาที่ระดับ1,760 เหรียญได้เช่นกัน
· ราคาทองคำพุ่งขึ้นมากกว่า 1% ในช่วงก่อนหน้าจากรายงานข้อมูลจ้างงานเอกชนที่ออกมาแย่กว่าคาด แลระปรับร่วงลงหลังจาก นางริชาร์ด แคลริดา รองประธานเฟดหนุนการลดดอกเบี้ย และสมาชิกเฟดอีก 2 รายหนุนการปรับลด QE ในช่วงปลายปี
· อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่ากรณีของยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่เพิ่มขึ้นเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำ
· นักยุทธศาสตร์ของ DailyFX กล่าวว่า เนื่องจากการระบาดไวรัสโคโรนาไม่มีสัญญาณที่ลดลง ทำให้ราคาทองคำจึงเอนเอียงไปทางขาขึ้น โดนราคาจะปรับตัวสูงขึ้น หากเฟดชะลอแผนการปรับลด QE
· FXStreet คาด ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบ 1,810 - 1,830 เหรียญ
ราคาทองคำยังไม่สามารถหาทิศทางที่ชัดเจนได้ และยังไม่สามารถปรับตัวสูงขึ้นได้แม้ข้อมูลจ้างงานเอกชนจะออกมาน่าผิดหวัง ที่ระดับ 330,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค.
ขณะที่การปรับลงของทองคำก็เป็นไปอย่าง "จำกัด" แม้จะเคลื่อนไหวระดับต่ำ โดยเป็นผลจาก ความกังวลที่มากขึ้นในเรื่องการระบาดของ Delta Covid-19 รวมทั้งความเป็นไปได้ที่จะเห็นผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจโลก
อย่างไรก็ดี บรรดานักลงทุนดูจะยังรอทำสถานะครั้งใหญ่ โดยให้ความสนใจไปยังข้อมูล Non-Farm Payrolls ของสหรัฐฯที่จะประกาศในคืนวันศุกร์นี้
นักวิเคราะห์จาก FXStreet ระบุว่า ราคาทองคำยังคงปรับตัวสูงขึ้นได้จากระดับต่ำสุด 1,750.77 เหรียญที่ลงไปทำไว้เมื่อ 29 มิ.ย. และมีการปรับขึ้นไปทำสูงสุดบริเวณ 1,832.77 เหรีญญในเดือนก.ค.
สำหรับการเริ่มต้นเดือนส.ค. ดูจะเห็นทองคำเคลื่อนไหวกรอบแคบระหว่าง 1,800 - 1,830 เหรียญ
แพทเทิร์นสามเหลี่ยม Ascending จากระดับล่าง ดูจะเริ่มเห็นสภาวะทองคำเป็นขาขึ้น แต่ก็เผชิญกับแรงเทขายเข้ากดดันราคา
สัญญาณ MACD ยังทรงตัวใกล้ค่ากลาง แต่การปรับลงของ Indicator นี้ก็อาจยืนยันสัญญาณขาลงของราคาทองคำได้ กรณีทองคำหลุด 1,800 เหรียญ อาจกดดันให้ราคาทองคำปรับลงต่อได้
· ตลาดหมียังหวัง จากราคาเคลื่อนไหวสะสมพลังขาลง
นาย Dhwani Mehta นักวิเคราะห์จาก FXStreet ระบุว่า ราคาทองคำดูจะยังเคลื่อนไหวกรอบล่างก่อนประชุมบีโออีในวันนี้ โดยยังเคลื่อนไหวแถวระดับสำคัญ 1,811 เหรียญ ภาพรวมทองคำเสี่ยงเป็นขาลง
ทองคำรายวันมีการซื้อขายปานกลางในกรอบ
ณ ขณะนี้ ตลาดให้ความสนใจกับการประกาศผลประชุม บีโออี เพราะมีแนวโน้มจะเห็นท่าทีกล่าวย้ำถึงโอกาส "ลดการเข้าซื้อพันธบัตร" ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อ
อย่างไรก็ดี สัญญาณ Hawkish ใดๆ จากบีโออี อาจส่งผลต่อ:
- ความเชื่อมั่นในตลาดหุ้นทั่วโลก
- การสนับสนุนดอลลร์
- อาจเป็น ผลลบต่อราคาทองคำ
สำหรับข้อมูลจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ และถ้อยแถลงของนายวอลเลอร์ หนึ่งในสมาชิกเฟด "อาจส่งผลกระทบต่อราคาทองคำ" ในวันนี้ แต่ข้อมูลจ้างงานพรุ่งนี้ดูจะเป็นตัวกำหนดทิศทางทองคำและตลาดการเงินมากกว่า
ทั้งนี้ หากราคาทองคำหลุดต่ำกว่าเส้น DMA-21 บริเวณ 1,811 เหรียญ
- มีโอกาสเห็นทองคำหลุดกรอบ Ascending แนวเส้นค่าเฉลี่ย DMA ราย 100 วัน ที่ 1,804 เหรียญ รวมทั้งมีโอกาสเห็น "ทองทดสอบแนวรับสำคัญทางจิตวิทยา 1,800 เหรียญ"
- ถ้าทองหลุดแนวรับสำคัญ มีโอกาสกลับมาหา 1,790 เหรียญ และจะยิ่ง "เสี่ยง" ให้เกิดแรงเทขายเข้ามากดดันราคาทองคำเพิ่ม
ถ้าทองปรับขึ้นไปแนว 1,819 เหรียญ ก็มีโอกาสท้าทายกลับมาเป็นขาขึ้น และอาจทำให้เราเห็นทองคำกับทดสอบแนว DMA ราย 50 แถว 1,822 เหรียญ
- จะยิ่งหนุนการเข้าสถานะใหม่ของกลุ่มผู้ซื้อ
- มีโอกาสเห็นทองไปต่อที่ระดับ 1,840 เหรียญได้
· ราคาซิลเวอร์ -0.1% ที่ระดับ 25.34 เหรียญ โดยแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์เมื่อวานนี้
· ราคาแพลตินัม แตะระดับต่ำสุดในรอบมากกว่า 7 เดือนที่บริเวณ 1,005.50 เหรียญในช่วงต้น ก่อนจะร่วงลง -1.5% ที่ระดับ 1,010.46 เหรียญ
· ราคาพลาเดียม +0.2% ที่ระดับ 2,652.81 เหรียญ
· ทีมบริหารไบเดน เผยว่า สหรัฐฯเดินหน้าพัฒนาแผนเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเกือบทั้งหมดที่ได้รับวัคซีน Covid-19 ครบโดสแล้ว
ทั้งหมดนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการถอนมาตรการการจำกัดการเดินทาง ที่มีคำสั่งห้ามหลายๆประเทศทั่วโลกเข้าสู่ประเทศ โดยทางทำเนียบขาว ต้องการให้เกิดการกลับมาเปิดการท่องเที่ยว ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการหนุนภาคธุรกิจในกลุ่ม "สายการบิน" และ "อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว"
แต่ ณ ขณะนี้ ก็ยังไม่พร้อมที่จะดำเนินการในทันทีทันใด เนื่องจากจำนวนยอดติดเชื้อยังคงเพิ่มขึ้น และการแพร่ระบาดของ Delta Covid-19 ยังอยู่ในระดับสูง
· ซิดนีย์กำลังเผชิญกับยอดเสียชีวิตรายวันหนักสุดจากการระบาดรอบนี้ ท่ามกลางการใช้มาตรการ Lockdown ยาวนานเกือบ 7 สัปดาห์
· ญี่ป่นขยายมาตรการจำกัดการระบาด จากยอดติเชื้อที่เข้ารักษาในโรงพยาบาลเพิ่มสูงขึ้น
· สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐฯยื่นแก้ไขประเด็น "โบรกเกอร์" Crypto ที่อยู่ในร่างกฎหมายโครงสร้างพื้นฐาน หลังส่งผลต่อกลุ่มอุตสาหกรรม
เพื่อสร้างความชัดเจน เกี่ยวกับกลุ่มโบรกเกอร์ค้า Cryptocrurrency เนื่องด้วยภาษาในระบบที่ใช้อยู่อาจสร้างความผันผวนในการเข้าถึงตลาด Crypto
· ประชุมบีโออีคาดคงนโยบายแม้เงินเฟ้อจะรีบาวน์แตะ 2.5% ในเดือนมิ.ย. สูงกว่าเป้าที่กำหนดไว้ 2%
ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจอังกฤษมีแนวโน้มปรับขึ้นอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางประชาชนกว่า 70% ในกลุ่มผู้สูงอายุของอังกฤษได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว ประกอบกับการถอนมาตรการ Social-Distancing จึงน่าจะช่วยหนุนให้เศรษฐกิจอังกฤษฟื้นตัวได้หลังดิ่งไป 10% ในปี 2020 สอดคล้องกับทิศทางการขยายตัวของสหรัฐฯที่เป็นไปอย่างรวดเร็ว ในกลุ่มประเทศร่ำรวยขนาดใหญ่ของโลกปีนี้
· ยอดคำสั่งซื้อภาคอุตสาหกรรมเยอรมนีรีบาวน์จากอุปสงค์ภายในประเทศแกร่ง ล่าสุดเดือนมิ.ย. ขยายตัวได้ 4.1% ภายใต้ยอดสั่งซื้อสินค้า "Made in Germany"
· จีดีพีอินโดนีเซียหลุดพ้นภาวะถดถอย ช่วง Q2/2021 ขยายตัวได้ 7% แต่ทิศทางการฟื้นตัวยังไม่สดใส