· หุ้นเอเชียผสมผสาน - หุ้นจีนปรับตัวลง กังวลการระบาดไวรัสโคโรนากดดันความเชื่อมั่นนักลงทุน
ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวผสมผสาน เนื่องจากหุ้น Krafton ร่วงลงหลังการเปิดตัว ขณะที่ความกังวลเกี่ยวกับการระบาดของไวรัโคโรนาส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนในระดับภูมิภาค
ข้อมูลของ Refinitiv Eikon Krafton แสดงให้เห็นว่า หุ้นของผู้พัฒนาเกมชาวเกาหลีใต้ Krafton ร่วงลงมากถึง 17% จากราคา IPO เมื่อเปิดตัวในตลาด โดยผู้ผลิตเกมที่อยู่เบื้องหลังเกมบล็อกบัสเตอร์ PUBG ได้ตัดขาดทุนบางส่วนในเวลาต่อมา แต่ก็ยังลดลงมากกว่า 12% ในการซื้อขายช่วงบ่ายวันนี้
ด้านหุ้นที่เกี่ยวกับบริษัท Samsung ของเกาหลีใต้ลดลงในการซื้อขายช่วงบ่ายเช่นเดียวกัน
หุ้น Samsung Electronics -1.47%
หุ้น Samsung C&T -1.75%
หุ้น Samsung Life Insurance -0.52%
Samsung SDS -2.41%
ดัชนี Kospi เกาหลีใต้ -0.62%
อ้างอิงจากสำนักข่าว Reuters เผย กระทรวงยุติธรรมของเกาหลีใต้ประกาศเมื่อวานนี้ว่า เจย์ วาย. ลี รองประธานกรรมการบริหารของกลุ่มซัมซุง ซึ่งเป็นทายาทของบริษัทมีกำหนดจะถูกปล่อยตัวออกจากสถานกักกันกรุงโซลในสัปดาห์นี้
ตลาดหุ้นจีนปรับตัวลง ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวของการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนาที่ยังคงส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของเหล่านักลงทุน เนื่องจากจีนรายงานการติดเชื้อเพิ่มขึ้นในสัปดาห์นี้
ดัชนี Shanghai composite -0.14%
ดัชนี Shenzhen component -0.344%
ดัชนี Hang Seng +0.29%
หุ้นของบริษัท Evergrande Property Services ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สัญชาติจีนอย่าง China Evergrande +11.87% และ China Evergrande New Energy Vehicle Group +4%
ดัชนี Nikkei +0.1%
ดัชนี Topix +0.27%
ดัชนี S&P/ASX 200 +0.07%
ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลงเล็กน้อย 0.04%
· ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางเหล่านักลงทุนที่ระมัดระวังการลงทุนในช่วงต้นสัปดาห์นี้ เนื่องจากความกังวลในตลาดโลกเกี่ยวกับแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาและประเด็นการปรับลด QE ของเฟดที่เร็วกว่าที่คาด
ทั้งนี้ ดัชนี Stoxx600 เพิ่มขึ้น 0.3% ด้านหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวและการพักผ่อน +1.8% โดยตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวก
· อ้างอิงจากสำนักข่าวกรุงเทพธุรกิจ
หุ้นไทยภาคเช้า ปิดที่ 1,547.95 จุด บวก 7.73 จุด หรือ 0.50%
การซื้อขายหลักทรัพย์ภาคเช้าวันอังคาร (10 ส.ค. 64) เวลา 12.30 น. ดัชนีปิดอยู่ที่ 1,547.92 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 7.73 จุด หรือ 0.50% มูลค่าการซื้อ-ขายทั้งสิ้น 40,815.91 ล้านบาท
5 อันดับ หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด คือ GULF ปิดที่ 38.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท, PTT ปิดที่ 34.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท, PTTGC ปิดที่ 59.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท, KBANK ปิดที่ 106.50 บาท ลดลง -2.00 บาท และ TU ปิดที่ 22.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท
· อ้างอิงจากสำนักข่าวประชาติธุรกิจ
วิจัยกรุงศรี เปิด 3 ปัจจัยหนุน กนง.ตัดสินใจหั่นดอกเบี้ยอาร์พี
วิจัยกรุงศรี ชี้ 3 ปัจจัย คาดมีความเป็นไปได้สูงขึ้นที่ กนง.อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงการประชุมรอบเดือน ก.ย.นี้ หลังคณะกรรมการ 2 ท่านส่งสัญญาณปรับดอกเบี้ยช่วยพยุงเศรษฐกิจที่มีความเสี่ยงในระยะข้างหน้า พร้อมหั่นจีดีพีลงเหลือ 0.7% และ 3.7% ในปี 65 เผยเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำเอื้อต่อการการทำนโยบายผ่อนคลาย
ล่าสุด ธปท.ได้ปรับลดคาดการณ์ GDP ปีนี้และปีหน้าเป็นขยายตัว 0.7% และ 3.7% จากเดิมคาด 1.8% และ 3.9% ตามลำดับ ผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 ที่มากกว่าคาด ส่งผลให้อุปสงค์ในประเทศและจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลงจากประมาณการเดิม โดยกรณีฐาน หากควบคุมการระบาดได้และผ่อนคลายมาตรการต้นไตรมาส 4/2564 จะมีนักท่องเที่ยว 1.5 แสนคนในปีนี้ และ 6 ล้านคนในปีหน้า แต่หากการระบาดยืดเยื้อและผ่อนคลายได้ในปลายไตรมาส 4/2564 จะเหลือนักท่องเที่ยวปีนี้เพียง 1 แสนคน และปีหน้า 2 ล้านคน
เปิด 3 ปัจจัยลดดอกเบี้ย
จากมติคงดอกเบี้ยไม่เป็นเอกฉันท์ นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2563 ที่การตัดสินใจของ กนง.ชี้ให้เห็นถึงความเป็นไปได้สำหรับการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม ด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงจากระดับปัจจุบัน ประกอบกับมุมมองเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มเชิงลบมากขึ้น และยังระบุถึงความเสี่ยงด้านต่ำที่มีอยู่ค่อนข้างมาก วิจัยกรุงศรีประเมินความน่าจะเป็นของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมครั้งถัดไปในเดือนกันยายนจะมีเพิ่มมากขึ้นหากในกรณีที่
1.ประสิทธิผลของมาตรการล็อกดาวน์ รวมทั้งประสิทธิภาพและการฉีดวัคซีนต่ำกว่าคาด ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้จำเป็นต้องขยายเวลาการดำเนินมาตรการล็อกดาวน์นานขึ้น
2.การแพร่ระบาดในประเทศ และมาตรการล็อกดาวน์มีผลกระทบเป็นวงกว้างต่อเศรษฐกิจไทย และแผ่ลามกระทบไปยังภาคส่งออกที่เป็นเครื่องจักรขับเคลื่อนการเติบโตเพียงตัวเดียวที่เหลืออยู่ในปีนี้
3.มาตรการทางคลังและความช่วยเหลือทางการเงินที่กำลังทยอยเพิ่มเติมมีความน่าผิดหวังหรือไม่เพียงพอที่จะช่วยบรรเทาผลกระทบของการระบาดของ COVID-19
· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
- รายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการที่พักแรมในเดือนก.ค.64 ที่ผ่านมา ผู้ประกอบการที่พักแรมได้รับผลกระทบจากการระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยอัตราเข้าพักอยู่ระดับต่ำมาก ส่งผลให้เกือบ 60% ของโรงแรมที่เปิดกิจการอยู่มีสภาพคล่องลดลงจากเดือนก่อนหน้า และเพียงพอต่อการดำเนินธุรกิจไม่ถึง 3เดือน ส่วนการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติส่งผลบวกต่ออัตราเข้าพักโดยรวมไม่มากนัก
- กลุ่มคาร์ม็อบ" นัดระดมพล 10 สิงหาฯ สี่แยกราชประสงค์ด้าน ตร.เตือนม็อบ จัดชุมนุมผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน "กองทัพ" ประณาม "ม็อบ 7 สิงหา" ก้าวล่วง-ลบหลู่ พ่นสีใส่รายนาม "วีรชน" เสียสละปกป้องแผ่นดิน
- 'สมุย พลัส โมเดล' ล้อมคอกประชุมร่วมตำรวจ 5 โรงพัก ทั้งเกาะสมุย-พะงัน-เต่า เพิ่มมาตรการเข้มข้นดูแลนักท่องเที่ยว ป้องกันเหตุซ้ำรอย 'ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์'
- "ศปก.ศบค." ห่วง พื้นที่ชุมนุม เป็นจุดกระจายเชื้อ รอประเมิน 18 สิงหาคม พิจารณามาตรการ ขณะที่ยอดติดเชื้อรายวัน 19,603 ราย เสียชีวิต 149 ศพ มีทารก 4 เดือนรวมอยู่ด้วย สลดยังพบนอนตายคาบ้าน 26 ศพ ศบค.ห่วงกลุ่มเปราะบาง แนะบ้านมีคนแก่-เด็ก-ผู้ป่วยติดเตียง ต้องแยกห้องนอน เปิดข้อมูล ฉีดวัคซีนสองเข็ม ตายแค่ 0.5% สรุประบบรักษาตัวที่บ้านลดอัตราคนรอเตียงน้อยลง เตียงรับผู้ป่วยสีแดงเพิ่มขึ้นปัจจุบันว่าง 5 พันเตียง ย้ำ ATK ผลเป็นบวกเข้าระบบรักษาทันที ไม่ต้องรอRT-PCR ขณะที่ อภ.ปรับแผนเพิ่มสต๊อกยาฟาวิพิราเวียร์ รองรับการรักษาที่จ่ายยาเร็วขึ้น