MTS Help Center

​ทองรีบาวน์เล็กน้อย หลังดอลลาร์ชะลอการแข็งค่า

·         ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น หลังจากเผชิญแรงเทขายในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ท่ามกลางความต้องการทองคำที่กดดันให้ค่าเงินดอลลาร์ชะลอการแข็งค่าลง แม้ว่าความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่เร็วกว่าที่คาดจะกดดันการเพิ่มขึ้นของราคาก็ตาม

 

·         ราคาทองคำตลาดโลก +0.4% ที่ระดับ 1,735.58 เหรียญ

·         ขณะที่สัญญาทองคำ +0.6% ที่ระดับ 1,736 เหรียญ

 

·         เทรดเดอร์สินค้าโภคภัณฑ์ Nirmal Bang Commodities ในมุมไบกล่าวว่า การทำ "Short-Covering" บางส่วน ควบคู่กับ "การช้อนซื้อ" เมื่อราคาปรับตัวลงในบางช่วง  ช่วยหนุนให้ตลาดทองคำมีการเคลื่อนไหวปรับฐานมากขึ้น หลังจากที่ทราบข้อมูลจ้างงานสหรัฐฯในคืนวันศุกร์

 

·         แต่แรงซื้อกลับก็ยังไม่เป็นไปอย่างยั่งยืน และในระยะสั้น ยังมีโอกาสที่จะเห็นทองคำถูกกดดันได้จากกระแสเฟดหารือเรื่องการลด QE

 

·         ราคาทองคำร่วงลงมากกว่า 4% ในช่วง 2 ช่วงที่ผ่านมา หลังจากตัวเลขการจ้างงานในสหรัฐฯ ที่ออกมาดีเกินคาดได้หนุนความคาดหวังว่าเฟดจะทำการลด QE

 

·         ด้านสมาชิกเฟดสองราย กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว  และตลาดแรงงานมีการฟื้นตัวได้เช่นกัน จึงอาจเป็นไปได้ที่เฟดควรเริ่มต้นถอนการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินเร็วกว่าที่คาด

 

·         ขณะที่เหล่านักลงทุนให้ความสนใจไปยังข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐฯในวันพุธนี้

 

·         ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ทรงตัว หลังจากดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงสองช่วงที่ผ่านมา

 

·         นักวิเคราะห์ทางเทคนิคของ Reuters กล่าวว่า ราคาทองคำอาจกลับมาแตะระดับต่ำสุดในวันจันทร์ที่ 1,684.37 เหรียญ โดยได้แรงหนุนจาก Wave C

 

·         ทองรีบาวน์หลังทำต่ำสุดรอบ 4 เดือน จากดอลลาร์ชะลอการแข็งค่า

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่ากลับลงมาเล็กน้อยแตะ 92.96 จุด ชะลอการแข็งค่า หนุนความต้องการ Safe-Haven ในกลุ่มโลหะมีค่าขยับขึ้น แต่ภาพรวมดอลลาร์ยังยืนเหนือจากต่ำสุดที่ทำไว้ในช่วงปลายสัปดาห์บริเวณ 92.4 จุด

·         ราคาทองคำกับโอกาสร่วงลงต่อหลุด $1725

นักวิเคราะห์จาก FXStreet วิเคราะห์ว่า หลังทราบข้อมูลจ้างงานนอกภาคการเกษตรของรัฐบาลสหรัฐฯ ก็จะเห็นได้ว่า ทองคำมีการทำต่ำสุดรอบหลายเดือนเมื่อวานนี้ และภาพรวมปิดตลาดเมื่อคืนนี้โดยรวม -40 เหรียญ

ขณะที่การซื้อขายวันนี้แกว่งขึ้นและลงในกรอบ แต่ก็ยังไม่สามารถขึ้นต่อได้ ท่ามกลาง "ปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค" ที่ยังสะท้อนถึงภาวะขาลง จึงน่าจะหนุนกลุ่มผู้รอขาย (Seller) ในการหาโอกาสเปิดสถานะขายเมื่อราคาฟื้นตัว

หากทองคำหลุดต่ำกว่า 1,725 เหรียญ จะยิ่ง "ยืนยัน" แนวโน้มเชิงลบของราคา และอาจเห็นราคา "ดิ่งลงอย่างรวดเร็ว" หลุดกลับมาที่ 1,700 เหรียญอีกครั้ง

ดังนั้น ถ้าทองคำปรับตัวลดลงหลุดระดับ 1,700 เหรียญ มีโอกาสเผชิญความท้าทายทดสอบจุดต่ำสุดของปีที่ระดับ 1,677 - 1,676 เหรียญ

แต่หากทองคำฝ่าแนวต้านแข็งแกร่ง 1,750 - 1,760 เหรียญได้ ก็อาจเห็นราคามีแนวโน้มจะกลับฟื้นตัวได้อีกครั้ง และอาจเห็นการปรับขึ้นไปอย่างรวดเร็วที่ระดับ 1,780 เหรียญ

·         CFTC รายงาน บรรดาเฮดจ์ฟันด์ มีท่าทีระมัดระวังในการลงทุนมากขึ้น

รายงานล่าสุดจาก CFTC สะท้อนว่า ความไม่แน่นอนจากตลาดแรงงาน ดูจะส่งผลให้บรรดาเฮดจ์ฟันด์ และกลุ่มผู้จัดการกองทุนมีท่าทีระมัดระวังต่อ "ตลาดทองคำ" มากขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว

โดยกลุ่มผู้จัดการกองทุนมีการลดการถือครองสถานะ Long ใน Gold Futures ตลาด Comex ลง 1,285 คู่สัญญา สู่ระดับ 132,920 คู่สัญญา ขณะเดียวกันมีการเพิ่มการถือครองสถานะ Short 1,642 คู่สัญญา สู่ระดับ 43,047 คู่สัญญา

ขณะที่นักวิเคราะห์บางส่วน ระบุว่า ตลาดทองคำ "ขาดทิศทาง" อย่างมากในช่วงเดือนก.ค. และมีการเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ เท่านั้น ท่ามกลางกระแสเฟดจะเปลี่ยนท่าทีในการดำเนินนโยบายการเงิน

ทางด้านบรรดานักเศรษฐศาสตร์ เชื่อมั่นมากขึ้นต่อข้อมูลที่แข็งแกร่งของ Non-Farm Payrolls อาจยิ่งทำให้เฟดตัดสินใจประกาศลดวงเงินการเข้าซื้อพันธบัตรรายเดือนได้

 

·         ANZ ชี้ แผนโครงสร้างพื้นฐานอาจช่วยหนุน "อุปสงค์ทองคำ" แต่ไม่มีแนวโน้มจะทำให้ "วัฎจักรสินค้าโภคภัณฑ์ขึ้นอย่างแรง"

นักกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์ของ ANZ ระบุถึงโอกาสสูงที่ "แผนโครงสร้างพื้นฐานของสหรัฐฯ" จะช่วยหนุนอุปสงค์ "ทองคำ" ได้

แต่แผนโครงสร้างพื้นฐาน มีวัตถุประสงค์ในการเร่ง หรือหนุนให้เศรษฐกิจฟื้นตัว ดังนั้น ถึงแม้จะเห็นอุปสงค์กลุ่มโลหะเพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่น่าจะทำให้กลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์เข้าสู่วัฎจักรขาขึ้นอย่างรวดเร็วตามที่หลายๆฝ่ายคาดหวังไว้

อย่างไรก็ดี การประเมินผลกระทบจากแผนโครงสร้างพื้นฐาน 1 ล้านล้านเหรียญ เป็นสิ่งที่ต้องติดตามใกล้ชิดว่าจะผ่านในขั้นตอนสุดท้ายได้หรือไม่

 

·         ราคาซิลเวอร์ +0.8% ที่ระดับ 23.62 เหรียญ หลังจากร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือน

·         ราคาแพลตินัม +1% ที่ระดับ 989.65 เหรียญ

·         ราคาพลาเดียม +0.7% ที่ระดับ 2,618.71 เหรียญ

 

·         อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ 10 ปี ทรงตัวแถว 1.3152% อ่อนตัวลงเล็กน้อย ก่อนทราบข้อมูลเงินเฟ้อและการโหวตแผนโครงสร้างพื้นฐานของสหรัฐฯ

·         SoftBank ของญี่ปุ่นรายงานผลกำไรสุทธิไตรมาส 1 ร่วงลง 39% แม้ว่า Vision Fund จะได้รับผลตอบแทนจากการจดทะเบียนในช่วงเวลาดังกล่าว

·         นักกลยุทธ์จาก David Roche ชี้ จีน Lockdown สู้ Covid-19 จากยอดติดเชื้อรายวันพุ่ง จะกระทบเศรษฐกิจจีนและตลาดหุ้น และอาจสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจโลก

ตลาดต่างๆก็กังวลว่า "สถานการณ์ Covid-19" ดูจะส่งผล *"เลวร้าย"* ต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ สืบเนื่องจากการ Lockdown ท่ามกลางประเทศอื่นๆเริ่มมีการถอนมาตรการเข้มงวดทางสังคม

จีนกระทบทิศทางเศรษฐกิจโลก

- เศรษฐกิจจีนจะกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจโลก

- การ Lockdown ของจีน มีผลกระทบต่อ "ห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก" โดยเฉพาะในจีนเอง

- อาจสร้างผลกระทบ "การค้า" ระดับประเทศ, การเพิ่มขึ้นของราคาสินค้า และกระแสเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้นทั่วโลก

 

คาดจีดีพีจีนไตรมาสที่ 3/2021 จะดิ่งลงสู่ 2% - 3% เมื่อเทียบรายปี ขณะที่จีดีพี Q2/2021 ขยายตัวได้ 7.9%

ขณะที่จีดีพีจีนในระยะยาว จะอยู่ในกรอบ 5% - 6%

 

·         ศาลจีนยืนยันพิพากษา "ประหารชีวิต" นักโทษชาวแคนาดาที่ลักลอบขนยาเสพติด ตอบโต้การจับกุม CFO ของบริษัท Huawei

·         เศรษฐกิจฟิลลิปปินส์กลับมาขยายตัวได้ 11.8% ในไตรมาสที่ 2/2021 ขยายตัวได้มากสุดตั้งแต่ช่วงไตรมาสที่ 4/1998 แต่การระบาดของ Covid-19 ยังบดบังแนวโน้มขยายตัว หนุนท่าทีผ่อนคลายการเงินต่อ

·         รายงานจาก U.N. ชี้การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของ "ภาวะโลกร้อน" ทั่วโลก ส่งผลให้ "ไม่มีใครมีความปลอดภัย"

จึงมีความจำเป็นอย่าง "เร่งด่วน" เพื่อเตรียมตัวและปกป้องประชากรโลกจากสภาพอากาศที่รุนแรงและระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น จึงอาจส่งผลกระทบหนักกว่าที่คาดการณ์ไว้

·         เกาหลีเหนือ เผย การฝึกซ้อมรบร่วมกันของสหรัฐฯ-เกาหลีใต้ จะเผชิญกับภัยคุกคามครั้งใหม่

นางคิม โย จอง น้องสาวผู้นำสูงสุดแห่งเกาหลีเหนือ ประกาศกร้าวว่า สหรัฐฯและเกาหลีใต้ ดูจะเผชิญกับภัยคุกคามด้านความมั่นคง ก่อนการฝึกซ้อนรบประจำปีร่วมกันที่จะเริ่มต้นในสัปดาห์นี้ (เริ่มฝึกขั้นต้นในวันนี้) และจะมีการฝึกซ้อมการควบคุมผ่านระบบคอมผิวเตอร์ในสัปดาห์หน้า

ทั้งนี้ เกาหลีเหนือ เตือนว่า การดำเนินการดังกล่าวร่วมกัน อาจส่งผลกระทบต่อความคืบหน้าในการฟื้นตัวสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีเหนือ-เกาหลีใต้ได้

·         ผู้เชี่ยวชาญ สรุป ทำไมผู้ได้รับการฉีดวัคซีนถึงยังติดเชื้อ Covid-19 ได้

1. ไม่มีวัคซีนตัวไหน ไม่ว่าจะในสหรัฐฯหรือยุโรปที่มีประสิทธิภาพต้านไวรัสได้ 100%

3. ยังไม่มีรายงานฉบับสมบูรณ์ ที่ยืนยันว่า ระยะเวลาของภูมิต้านทาน Covid-19 หลังได้รับการฉีดวัคซีนจะนานแค่ไหน

4.  สัญญาณเตือนถึงการระบาด จากยอดติดเชื้อที่ยังคงเพิ่มสูงขึ้น

ในเดือนก.ค. ข้อมูลเบื้องต้นของประเทศอิสราเอล หนึ่งในประเทศที่มีการฉีดวัคซีนได้อย่างรวดเร็วที่สุดอันดับต้นๆในโลก ระบุว่า วัคซีน Pfizer มีประสิทธิภาพเพียง 40.5% ในการป้องกันโรคตามอาการ

ทั้งนี้ การวิเคราะห์ด้วยตัวแปรจากสายพันธุ์ Delta ที่กำลังกลายเป็นสายพันธุ์หลักในการระบาดของประเทศ แสดงให้เห็นว่า ผู้ได้รับวัคซีนจำนวน 2 โดส จะมีภูมิต้านทานที่แข็งแกร่ง และบรรเทาการเจ็บป่วยรุนแรง รวมถึงการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล

 

·         CDC สหรัฐฯ เผยประชาชนเกือบ 60% ในสหรัฐฯ ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วไม่น้อยกว่าคนละ 1 โดส

·         เจ้าหน้าที่ EU ย้ำทางยุโรปจะยังไม่เปลี่ยนแปลงแนวทางความปลอดภัยด้านการเดินทางในสัปดาห์นี้

 

·         ไทยมีผู้เสียชีวิตรายวันทำสูงสุดประวัติการณ์ 235 ราย ส่งผลให้ประเทศมียอดเสียชีวิตสะสมแตะ 6,588 ราย