MTS Help Center

นักเศรษฐศาสตร์ ระบุ แนวโน้มเงินเฟ้อสหรัฐฯจะ "ร้อนแรง" ในเดือนก.ค.

 

CNBC เผยมุมมองนักเศรษฐศาสตร์โดยส่วนใหญ่ คาดการณ์ข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐฯประจำเดือนก.ค. ถูกคาดว่าจะเข้าสู่จุดที่ "ร้อนแรงที่สุด" ตั้งแต่ที่เริ่มเกิดการระบาดของไวรัส Covid-19 สะท้อนว่า เราอาจเห็นข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เข้าสู่จุดพีคที่สุด

 

 

บรรดานักเศรษฐศาสตร์ คาดการณ์ว่า อาจเห็นการเพิ่มขึ้นของดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ค. ที่ 0.5% และจะทำให้ภาพรายปีขยายตัวได้ราว 5.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (เทียบกับเดือนมิ.ย. ที่ขยายตัวมากถึง 0.9% หนุนภาพรายปี 5.4% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นรายเดือนที่มากที่สุดตั้งแต่ส.ค. ปี 2008)

 

สำหรับดัชนี Core CPI ที่ไม่รวมพลังงานและอาหาร คาดว่าน่าจะขยายตัวได้ราว 0.4% จาก 0.9% ในเดือนก่อนหน้า ที่ทำให้ภาพรายปีปรับสูงสุดตั้งแต่ก.ย. ปี 1991 ที่ระดับ 4.5%

 

 

ดังนั้น หากคืนนี้ รายงานเงินเฟ้อสหรัฐฯ เป็นไปตามคาดการณ์ ในช่วงเวลาประกาศผล 19.30น. ก็อาจ ส่งผลลบต่อ "ตลาดหุ้น" ขณะที่ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ "ปรับขึ้น"

 

เงินเฟ้อมีแนวโน้มจะเข้าสู่จุดพีค

 

รายงานดังกล่าว ไม่คิดว่าจะ "กระทบกับเฟด" มากนัก สำหรับแผนการทำ Tapering QE วงเงิน 1.2 แสนล้านเหรียญ/เดือน เนื่องจากเฟดยังมองว่า

 

"การปรับขึ้นของเงินเฟ้อเป็นเพียง "ชั่วคราว" เท่านั้น"

 

ท่ามกลางข้อมูลของตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งอย่างมากจากรายงานจ้างงานเดือนก.ค. ที่ประกาศเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว

 

แนวโน้มความร้อนแรงของข้อมูล CPI มีแนวโน้มที่จะ "ใกล้สิ้นสุด" ลงไป แม้ว่าเฟดจะพอใจกับการนำข้อมูลดังกล่าวมาเป็นส่วนหนึ่งของมาตรวัดเงินเฟ้อร่วมกับดัชนี Core PCE Price Index

 

นักวิเคราะห์บางราย ยังมองว่า ผลกระทบจากการปรับขึ้นของเงินเฟ้อล่าสุดมาจากการ Reopening ทางเศรษฐกิจ ดังนั้น น่าจะเห็น "ข้อมูลรายปี" ทำจุดพีค หากไม่ใช่ในเดือนก.ค. ก็อาจเข้าสู่จุดพีคไปแล้วในเดือนมิ.ย.

 

ที่มา: CNBC