• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 13 สิงหาคม 2564

    13 สิงหาคม 2564 | SET News


·         หุ้นเอเชียเผชิญการอ่อนตัว หลังจากที่หุ้นทั่วโลกไปแตะสูงสุดประวัติการณ์ครั้งใหม่


ตลาดหุ้นเอเชียโดยส่วนใหญ่ในวันนี้ไม่ได้ตอบรับกับการปรับขึ้นทำสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของหุ้นทั่วโลก  โดยปรับลดลงตั้งแต่เช้า ท่ามกลางหุ้นออสเตรเลียร่วงนำเทรนด์ตลาด

ดัชนี MSCI ไม่รวมญี่ปุ่น ปิด -0.59% และปิดปรับตัวลงตลอดช่วง 3 วันทำการ

เทรดเดอร์ดูจะยังมีความวิตกกังวลอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับ "ความเป็นไปได้" ของข้อกำหนดการปราบปรามครั้งใหม่ในประเทศจีน รวมทั้งสถานการณ์ยอดติดเชื้อ Delta Covid ระลอกใหม่ที่ระบาดไปทั่วในหลายๆประเทศของภูมิภาค

เมื่อคืนที่ผ่านมา หุ้นสหรัฐฯ นำโดย Dow Jones และ S&P500 ปิดปรับขึ้นทำสูงสุดประวัติการณ์ต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ที่ปรับขึ้นหนุนตลาด ขณะที่นักลงทุนยังตอบรับกับข้อมูลจ้างงานสหรัฐฯ ที่ยังบ่งชี้ถึงการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ

 

·         หุ้นเกาหลีใต้ดิ่งนำในเอเชีย จากหุ้นบริษัท Samsung ปิดร่วงหลังมีข่าวปล่อยตัวนาย "ลี" ทายาทของผู้บริหารบริษัทออกจากเรือนจำ

 

หุ้นบริษัท Samsung ดิ่งหนัก -3.38%

หุ้นบริษัท Samsung C&T ปรับลง -1.11%

หุ้นบริษัท Samsung Life Insurance ปรับลง -1.2%

หุ้นบริษัท SDS ปรับลง -1.68%


 

·         ดัชนีนิกเกอิปิดร่วง โดยได้รับแรงกดดันจากหุ้นกลุ่มชิป แต่ภาพรายสัปดาห์ยังคงปิดบวกต่อเนื่อง 2 สัปดาห์ติด

อย่างไรก็ดี การปรับขึ้นของหุ้น Recruit Holdings อย่างหนักก็ช่วยจำกัดการปรับลงของดัชนีนิกเกอิได้ จึงทำให้นิกเกอิปิด -0.14% ที่ระดับ 27,977.15 จุด

ดัชนี Topix ปิด +0.15% ที่ 1,956.39 จุด

 

 

·         หุ้นจีนปิดแดนลบ จากภัยคุกคามกลุ่มผู้ผลิตชิป - หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีกดดันหุ้นฮ่องกง

หุ้นจีนปิดปรับตัวลดลงตามการร่วงลงของหุ้น Semiconductor หลังจากที่ปรับขึ้นวันก่อน

หุ้นฮ่องกงปิดร่วงจากจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่เข้ากดดัน โดยดัชนี HSI ปิด -0.7% ที่ 26,331.89 จุด และดัชนี Hong Kong China Enterprises ปิด -1% ที่ 9,367.77 จุด

ดัชนี CSI300 ปิด -0.6% ที่ระดับ 4,941.48 จุด

ดัชนี Shanghai Composite ปิด -0.3% บริเวณ 3,515.76 จุด

หุ้นผู้ผลิตชิปชั้นนำในจีนปรับตัวลดลง ขณะที่ดัชนี Semiconductor ปิด -3.1% ขณะที่ภาพรวมปีนี้ ดัชนีกลุ่มนี้ปรับขึ้นได้แล้วราว 30%

 


·         หุ้นอินเดียปรับขึ้นทำสูงสุดประวัติการณ์ โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มผู้บริโภค และการสนับสนุนทาง IT -ขณะที่รัฐบาลเล็งเพิ่มมาตรการสนับสนุนทางเศรษฐกิจเพื่อบรรเทาผลกระทบจาก Covid-19

ดัชนี NSE Nifty 50 ปิด +0.47% ที่ 16,440.10 ขุด

ดัชนี S&P BSE Sensex ปิด +0.45% ที่ระดับ 55,101.54 จุด 

ภาพรวม 2 ดัชนีข้างต้นสัปดาห์นี้ขึ้นมาแล้วกว่า 1%

 

·         หุ้นยุโรปเปิดทรงตัวท่ามกลางนักลงทุนประเมินสถานการณ์ข้อมูลเศรษฐกิจโลก และการเพิ่มจำนวนของยอด Covid-19



 

ดัชนี Stoxx600 เปิด +0.1% และทรงตัวตั้งแต่ช่วงการซื้อขาย ท่ามกลางหุ้นค้าปลีกที่ปรับขึ้นมา 0.6% แต่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเปิด -0.4%

 

·         ดัชนี FTSE 100 ปรับขึ้นต่อเนื่อง 4 สัปดาห์ โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มค้าปลีก และเหมืองแร่ที่กำลังเพิ่มขึ้น

 

·         ดัชนีอนุพันธ์สหรัฐฯเคลื่อนไหวทรงตัว หลังตลาดหลักอย่างดัชนี S&P500 ทำสุงสุดประวัติการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมา

 

 

·         อ้างอิงจากสำนักข่าวไทยรัฐออนไลน์

หุ้นไทยวันนี้ ปิดตลาดหุ้นเช้า ปรับลด 0.62 ดัชนีอยู่ที่ 1,532.09 จุด มูลค่าการซื้อขาย 42,421.10 ล้านบาท

การเคลื่อนไหวของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือหุ้นไทยวันนี้ ประจำวันที่ 13 ส.ค. 64 ครึ่งวันเช้าพบว่า ดัชนีปรับลด 0.62 จุด เปลี่ยนแปลง -0.04% ดัชนีอยู่ที่ 1,532.09 จุด มูลค่าการซื้อขาย 42,421.10 ล้านบาท

สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขาย อันดับแรก ได้แก่ 1. บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) 2. บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) 3. บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) 4. ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) 5. บริษัท พรีเชียส ชิพปิ้ง จำกัด (มหาชน).

 

·         อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- "บิ๊กตู่" กำชับเจ้ากระทรวงบี้รัฐวิสาหกิจเร่งเดินหน้าโครง การลงทุนให้ได้ตามเป้าหมาย หวังดึงเม็ดเงินลงทุนช่วยพยุงเศรษฐกิจ ด้าน "พลังงาน" โวครึ่งปีเข็นเม็ดงบลงทุนในธุรกิจพลังงานแล้วกว่า 1 แสนล้านบาท พร้อมปักธงทั้งปี 2564 ต้องได้ 2 แสนล้านบาท

 

ทีดีอาร์ไอ" ชงโมเดล ใช้เงินกู้ 1.5 แสนล้าน พยุงจ้างงานเอสเอ็มอี 13 ล้านราย รวม 3 เดือน ลดปลดแรงงานตั้งเงื่อนไขนายจ้างฝึกทักษะดิจิทัล รับการเปลี่ยนแปลงหลังโควิด "สมาพันธ์ เอสเอ็มอี" แนะพยุงจ้างงานควบคู่มาตรการพักหนี้แบบจริงใจชี้เจอปัญหาขาดสภาพคล่องหนัก ร้านอาหารทยอยลดพนักงานหลังรายได้เกือบเป็นศูนย์

 

รายงานข่าวจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ททท. ได้เห็นชอบแผนวิสาหกิจ ททท. ระยะเวลา 5 ปี (2560-65) ฉบับทบทวนปี 65 เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปหลังจากเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง เพื่อใช้เป็นกรอบการจัดทำคำขอตั้งงบประมาณปี 65 และการดำเนินการตามระบบประเมินผลการดำเนินงานรัฐวิสาหกิจของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ตั้งเป้าหมายตำแหน่งทางการตลาดในปี 65 ประเทศไทยมีอันดับรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างประเทศสูงสุดติด ใน ของโลก

 

ที่มา: CNBC, Reuters

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com