• สรุปข่าวราคาทองคำ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 17 สิงหาคม 2564

    17 สิงหาคม 2564 | Gold News


ทองแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์ ท่ามกลางยอดติดเชื้อไวรัสที่เพิ่มสูงขึ้น

· ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบมากกว่า 1 สัปดาห์ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับยอดผู้ติดเชื้อจากไวรัสโคโรนาที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ จึงช่วยหนุนให้นักลงทุนเข้าถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย


· ราคาทองคำตลาดโลก +0.2% ที่ระดับ 1,791.55 เหรียญ หลังจากปรับขึ้นไปแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่งันที่ 6 ส.ค. ที่บริเวณ 1,795.15 เหรียญ

· สัญญาทองคำ +0.2% ที่ระดับ 1,793.00 เหรียญ



· เทรดเดอร์สินค้าโภคภัณฑ์ของ Nirmal Bang Commodities กล่าวว่า กรณีการเพิ่มขึ้นของยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาในสหรัฐฯและจีน รวมทั้งแนวโน้มของการเติบโตทั่วโลกที่ชะลอตัวในช่วงครึ่งหลังของปี เป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนราคาทองคำ

· พร้อมคาดว่า ปีนี้ราคาทองคำอาจขึ้นไปแตะระดับ 1,850 เหรียญ

· ข้อมูลความเชื่อมั่นผู้บริโภคในสหรัฐฯ ที่ลดลงอย่างรวดเร็วและดัชนีธุรกิจภาคการผลิตของ Empire State ที่ลดลงเกินคาด ช่วยชะลอความกังวลบางส่วนเกี่ยวกับนโยบายที่เข้มงวดในช่วงต้นของเฟด

· ข้อมูลผลผลิตโรงงานของจีนและการเติบโตของยอดค้าปลีกประจำเดือนก.ค.ชะลอตัวลงอย่างมาก ท่ามกลางการระบาดของไวรัสโคโรนารอบใหม่ ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจกำลังสูญเสียโมเมนตัม

· ขณะที่ตลาดให้ความสนใจไปยังข้อมูลยอดขายปลีกของสหรัฐฯในวันนนี้ เช่นเดียวกับรายงานการประชุมของเฟดในเดือนก.ค.ในวันพรุ่งนี้เพื่อหาสัญญาณเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของเฟด

· หุ้นส่วนผู้จัดการของ SPI Asset Management กล่าวว่า หากยอดค้าปลีกสหรัฐฯออกมาลดลง นั่นหมายความว่า เฟดจะต้องเพิ่มเงินในระบบต่อไป ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ และจะเป็นปัจจัยที่หนุนราคาทองคำ

· หุ้นเอเชียลดลงจากความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์แปรเดลต้าที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และความกังวลเกี่ยวกับกฎระเบียบของจีนในภาคอินเทอร์เน็ต

· ทั้งนี้ ตลาดคงให้ความสนใจไปยังสถานการณ์ความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในอัฟกานีสถานด้วยเช่นกัน


· ทองอาจกลับขึ้นสู่กรอบ 1,801 - 1,811 เหรียญได้

นักวิเคราะห์จาก Business Recoder ชี้ว่า ราคาทองคำอาจปรับขึ้นสู่กรอบ 1,801 - 1,811 เหรียญ หลังจากที่รีบาวน์กลับจากต่ำสุดเมื่อ 9 ส.ค. บริเวณ 1,684.37 เหรียญได้อย่างต่อเนื่อง

ขณะที่การรีบาวน์กลับของทองคำจาก Wave "A" ไป "C" ดูจะมีโอกาสไปทดสอบ Fibonacci Projection 100% ที่ 1,785 เหรียญได้ และดูจะเป็นโอกาสดีที่จะเห็นราคากลับมาเคลื่อนไหวในกรอบ 1,811 - 1,827 เหรียญได้

กรณีราคาทองคำหลุดแนวรับ 1,775 เหรียญลงมา ก็อาจทำให้จบ Wave C โดยสมบูรณ์ และจะทำให้กรอบเป้าหมาย "ทิศทางขาลง" อยู่ระหว่าง 1,743 - 1,759 เหรียญ


ภาพรวมรายวันของราคาทองคำ

- คาดอาจยืนเหนือเส้น Fibonacci 38.2% ที่ 1,765 เหรียญ

- มีโอกาสเห็นทองขึ้นไปแถว 1,823 เหรียญได้

- เส้น Fibonacci Retracement บ่งชี้ว่า กรอบเป้าหมายขาขึ้นอยู่ระหว่าง 1,800 - 1,828 เหรียญ ซึ่งจะยิ่งตอกย้ำภาพขาขึ้นได้


· Kitco เผย บรรดานักวิเคราะห์ "เตือน" ทองคำอาจเผชิญแรงเทขาย - ราคามีโอกาสชะลอตัวแถว 1,800 เหรียญ


รายงานจาก KItco ระบุว่า หลังจากที่เห็นราคาทองคำปรับขึ้นมาได้ แต่ก็จะเห็นว่าทองคำก็ยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 1,800 เหรียญ ส่งผลให้บรรดานักวิเคราะห์บางส่วน กล่าวเตือนว่า ทองคำอาจเผชฺญแรงเทขายได้ หากขึ้นไปถึง 1,800 เหรียญ ที่เป็นระดับแนวต้านที่แข็งแกร่งในเวลานี้


ทั้งนี้ ระดับ 1,800 เหรียญ ไม่พียงแต่เป็นเป้าหมายสำคัญทางเทคนิค แต่ยังเป็น "จุดวัดใจ" ที่จะกำหนดทิศทางต่อไปของราคาทองคำด้วย

ขณะเดียวกันข้อมูลค้าปลีกสหรัฐฯในคืนนี้ ก็เป็นตัวเลขสำคัญที่ราคาทองคำเฝ้ารอด้วย

นักกลยุทธ์จาก OCBC Bank

- กรอบการลงทุนอยู่ระหว่าง 1,735 - 1,845 เหรียญ

- ปัจจุบันทองเคลื่อนไหวในกรอบกลางของเรา

- คาดว่า "รายงานประชุมเฟด" จะเป็นตัว "กำหนดทิศทางทอง"

โดยหากมีสัญญาณ HAWKISH ก็จะยิ่งกดดันให้ทองคำร่วงลงต่อ


หัวหน้านักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์และเงินตราต่างประเทศในแถบเอเชีย จาก UBS Global Wealth Management CIO Office

- "ข้อความใดๆจากเฟด" จะเป็นปัจจัยสำคัญต่อสถานะทองคำ

- นักลงทุนควรมีกลยุทธ์การลงทุน หรือแนวทางป้องกันความเสี่ยง เพื่อเป็นตัวประกันสินทรัพย์และ "สร้างพอร์ตการลงทุนให้สมดุล"

- ภาพรวมคาด ทองอาจปรับลงสู่ 1,600 เหรียญ และซิลเวอร์อาจร่วงกลับมาที่ 22 เหรียญ


Goldman Sachs

- คงมุมมองทองคำมีโอกาสแตะ 2,000 เหรียญในสิ้นปี

- ทองคำมีแรงสนับสนุนจากการฟื้นตัวของอุปสงค์


· นักวิเคราะห์ฝ่ายการตลาดอาวุโสจาก OANDA

- ทองคำมีแรงหนุนขาขึ้นในเวลานี้ จากดอลลาร์อ่อนค่า - อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 10 ปี สหรัฐฯอ่อนตัว

- การปรับขึ้นของทองคำไม่ได้เปลี่ยนปัจจัยที่แท้จริงของทองคำ ในเรื่องที่เฟดส่งสัญญาณ Hawkish


- ทองคำไม่มีแนวโน้มผ่าน 1,800 เหรียญไปได้ ในระยะสั้นๆ

- กรณีที่ทองคำจะผ่าน 1,800 เหรียญได้ ต้องมาจาก "ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯออกมาแย่อย่างมาก"

- เชื่อว่าทองคำจะชะลอตัวแถว 1,800 เหรียญ ขณะที่สัญญาณ Fibonacci Retracement 50% ที่วัดจากสูงสุดช่วงต้นเดือนมิ.ย. - ต่ำสุดเดือนส.ค. ก็ดูจะไม่ช่วยให้ทองไปต่อได้


นักวิเคราะห์จาก TD Securities

- ทองคำมีแรงหนุนจากอุปสงค์ทองคำของบรรดาธนาคารกลางต่างๆ โดยเฉพาะบราซิลและอินเดียที่มีการซื้อทองคำเพิ่ม

- การซื้อของธนาคารกลางต่างๆ ดูจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ทองคำปรับขึ้นมาเหนือ 1,780 เหรียญได้ ควบคู่กับแรงการทำ Short Covering ของเหล่าเทรดเดอร์


· ราคาซิลเวอร์ +0.2% ที่ระดับ 23.86 เหรียญ หลังปรับขึ้นไปแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 9 ส.ค.ที่บริเวณ 23.95 เหรียญ

· ราคาแพลตินัม -0.6% ที่ระดับ 1,016.13 เหรียญ

· ราคาพลาเดียม -0.9% ที่ระดับ 2,582.96 เหรียญ


· บรรดาอดีดสมาชิกเฟด มอง "การขึ้นของเป้าหมายเงินเฟ้อ" อาจกระตุ้นให้ "การจ้างงานเจริญเติบโต"


Reuters เผยความเห็นของ อดีตเจ้าหน้าที่เฟดระดับสูง 2 ราย

- David Wilcox อดีตผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของเฟด

- David Reifschneider อดีตที่ปรึกษาประจำตัวนางเจเน็ต เยลเลน (อดีตประธานเฟด)


โดยระบุว่า เฟดอาจกำลังจัดการกับปัญหาทางด้าน "เงินเฟ้อ" อยู่ แม้ว่าจะเห็นถึงการที่บรรดาสมาชิกเฟดมีการโต้เถียงกันเรื่องการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อในอนาคต แต่พวกเขามองว่า "เงินเฟ้อ" ที่ปรับขึ้นในภาพองค์รวมทางเศรษฐกิจ

แต่เมื่อผ่านพ้นช่วงการระบาดของไวรัส Covid-19 ไปได้ เฟดก็น่าจะสามารถปรับขึ้นดอกเบี้ยได้สู่ระดับปกติ จากนั้นควรเพิ่มเป้าหมายเงินเฟ้อของสหรัฐฯสู่กรอบ 2% - 3% รวมทั้งการลดดอกเบี้ยโดยฉับพลันเพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าวนี้


· เทรดเดอร์ แปลกใจกับกำหนดการกล่าวถ้อยแถลงของประธานเฟดคืนนี้

Bloomberg รายงานถึง บรรดานักลงทุนค่อนข้างประหลาดใจกับการที่ นายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด ถูกเชิญให้เข้าร่วมประชุมที่ Town Hall ในคืนนี้

ทั้งนี้ เหล่าเทรดเดอร์ไม่คิดว่าจะเห็นประธานเฟดกล่าอวะไรมากนักจนถึงการประชุมที่เมือง Jackson Hole ในสัปดาห์หน้า ระหว่างวันที่ 26-28 ส.ค. ว่าจะส่งสัญญาณอย่างไรเกี่ยวกับการดำเนินนโยบายการเงิน หลังจากที่ข้อมูลการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของรัฐบาลสหรัฐฯ ประจำเดือนก.ค. มีแนวโน้มให้เฟดทำการลดการเข้าซื้อพันธบัตรได้มากขึ้น และโดยปกติเฟดมักใช้เวทีการประชุมนี้กำหนดนโยบายสำคัญ ในอดีตที่ผ่านมา


ดังนั้น การกล่าวถ้อยแถลงน่าจะเป็นในลักษณะการถามตอบมากกว่า


อย่างไรก็ดี ไม่มีอะไรจะการันตีได้ว่า นายโพเวลล์จะทำการกล่าวถ้อยแถลงใดๆหรือไม่ ณ ที่ประชุม Town Hall แต่อาจเห็นเขากล่าวอ้างถึงความก้าวหน้าของตลาดแรงงาน ก่อนที่จะทำการ Tapering QE ได้ โดยอัตราว่างงานเดือนก.ค. ปรับลงไปมากถึง 5.4% แต่ก็ยังสูงกว่า ช่วงก่อนไวรัสระบาดบริเวณ 3.5% ในช่วงเดือนก.พ. ปีที่แล้ว

หากนายโพเวลล์ สร้าง Surprise ตลาด! มีแนวโน้มจะกระทบกับค่าเงินเยนมากสุดในทิศทางแข็งค่า ท่ามกลางเหล่าเทรดเดอร์ที่อาจหันมาถือ Short ในเยนได้มากขึ้น


หากประธานเฟดกล่าวในเชิง DOVISH

มีแนวโน้มที่เราจะเห็นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ "เผชิญแรงกดดัน" รวมทั้งอาจเห็นราคาผันผวนทดสอบแนวรับสำคัญทางเทคนิคในระยะสั้นๆได้ด้วย


· สหรัฐฯ ประกาศเผชิญการขาดแคลนน้ำในอ่างเก็บน้ำแห่งแรกทางตะวันตกของประเทศ จึงส่งผลให้เกิดการปรับลดปริมาณการใช้น้ำ


· Reuters เผยข้อมูล "รัฐบาลจีน" ถือเป็นเจ้าของบริษัทในประเทศ อาทิ ByteDance และ Sina Weibo ท่ามกลางการปราบปรามภาคอุตสาหกรรมที่ขยายวงกว้าง


· RBA พร้อมดำเนินการ หากการ Lockdown ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของออสเตรเลีย

รายงานสรุปประชุมของธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ประจำเดือนส.ค. พบว่า RBA จะเตรียมจะใช้นโยบายในการรับมือหากการใช้ Lockdown ในประเทศเพื่อสกัด Covid-19 เป็นภัยคุกคามเชิงลึกต่อเศรษฐกิจ ท่ามกลางการระบาดของ Delta Covid-19 ที่กำลังเพิ่มมากขึ้นและกลายมาเป็นปัจจัยกดดันที่ส่งผลให้ "แผนการลดการเข้าซื้อพันธบัตรของ RBA ต้องถูกเลื่อนหรือล่าช้าไป" หรือลดโอกาสที่จะเกิดขึ้น

โอกาสที่จะเห็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ ดูจะส่งผลให้ค่าเงินออสเตรเลียดอลลาร์กลับมาอ่อนค่าแถว 0.7308 ออสเตรเลีย/ดอลลาร์ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลออสเตรเลีย 10 ปี ปรับตัวลดลงทำต่ำสุดรอบเกือบ 7 เดือนที่ 1.16%


· แหล่งข่าวเผย สหรัฐฯมีแผนจะเริ่มต้นฉีดแผนวัคซีน Covid-19 ให้แก่ประชาชนเดือนก.ย.นี้


· ยอดติดเชื้อ Covid-19 ในซิดนีย์ยังพุ่ง – สถานการณ์ในโรงพยาบาลยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดัน


· นิวซีแลนด์รายงานยอดติดเชื้อ Covid-19 เพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกหลังจากที่ไม่พบผู้ติดเชื้อมานานกว่า 6 เดือน นับตั้งแต่ก.พ. ที่ผ่านมา


· ญี่ปุ่นตัดสินใจขยายเวลา "ภาวะฉุกเฉิน" และเพิ่มการขยายมาตรการที่ครอบคลุมอีก 7 จังหวัดในประเทศ ไปจนถึง 12 ก.ย. (จากเดิมที่จะหมดอายุ 31 ส.ค.)

ยอดติดเชื้อรายวันของกรุงโตเกียว เมื่อวานนี้ พบติดเชื้อใหม่เพิ่ม 2,962 ราย หลังทำสูงสุดประวัติการณ์ไปเมื่อวันศุกร์ที่แล้วจำนวน 5,773 ราย


· "บลินเคนส์" รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ สหรัฐฯ ร่วมหารือกับผู้แทนการค้าฝั่งยุโรป, อังกฤษ, ตุรกี และนาโต้ ถึงสถานการณ์ในอัฟกานิสถาน


· ผู้อำนวยการธนาคารกลางอัฟกานิสถานหนีออกจากกรุงคาบูล พร้อมตำหนิ นายอัชราฟ กานี ประธานาธิบดีอัฟกานิสถาน และทีมที่ปรึกษาที่ไร้ซึ่งประสบการณ์ของเขาที่ส่งผลให้ประเทศ "ล่มสลาย" อย่างรวดเร็ว จากการถูกควบคุมโดยกลุ่มตอลิบาน


· รายงานจากฝั่งตะวันตก เที่ยวบินอพยพทหารเดินทางออกจากกรุงคาบูลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว


· กระทรวงการต่างประเทศของญี่ปุ่น กล่าวว่า ญี่ปุ่นปิดสถานทูตในกรุงคาบูล เนื่องจากสถานการณ์ความมั่นคงที่เลวร้ายในอัฟกานิสถาน พร้อมทั้งอพยพเจ้าหน้าที่สถานทูต 12 คนสุดท้ายที่เหลือออกจากประเทศ


· CNBC เผย บรรดานักวิเคราะห์เตือน จีนอาจร่วมมือกับตอลิบานในการพยายามหาประโยชน์จาก "แร่หายาก" ในอัฟกานิสถาน


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com