• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 17 สิงหาคม 2564

    17 สิงหาคม 2564 | SET News


​· หุ้นเอเชียร่วง - นักลงทุนจับตายอดติดเชื้อ Covid-19 ที่เพิ่มสูงขึ้น และวิกฤตอัฟกานิสถาน




ภาพรวมตลาดหุ้นเอเชียในวันนี้ปรับตัวลดลงตั้งแต่ช่วงเช้าของตลาดเอเชีย จากความวิตกกังวลที่เพิ่มมากขึ้น ในเรื่องต่างๆ ดังนี้

- จำนวนยอดติดเชื้อ Delta Covid-19 ที่ยังเพิ่มสูงขึ้น

- สถานการณ์ความวุ่นวายในอัฟกานิสถาน

และทั้งหมดนี้ เป็นปัจจัยที่ "บดบัง" การปรับขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐฯ

ขณะเดียวกันกลุ่มนักลงทุนก็ดูจะให้ความสนใจไปยังการประกาศรายงานผลประกอบการบริษัทผู้ค้าปลีกรายใหญ่ช่วงปลายสัปดาห์นี้


· มาตรการปราบปรามที่เข้มงวดในจีนเพื่อยุติความไม่ยุติธรรมทางด้านการแข่งขันของบริษัทอินเทอร์เน็ต - กดดันหุ้นเทคโนโลยีร่วงลงวันนี้

กฎหมาย State Administration for Market Regulation หรือ SAMR ดูจะครอบคลุมเป็นวงกว้างตั้งแต่ข้อห้ามเกี่ยวกับวิธีการที่บริษัทต่างๆสามารถนำข้อมูลไปใช้ประกอบความเห็นด้านผลิตภัณฑ์


หุ้นบริษัทจีนในกลุ่มเทคโนโลยีที่ซื้อขายในตลาดฮ่องกงร่วงหนักรับข่าวดังกล่าว นำโดย

- หุ้นบริษัทเกมส์ยักษ์ใหญ่ อย่าง Tencent ที่ -3.5%

- หุ้นบริษัท E-commerce รายใหญ่ อย่าง Alibaba ดิ่ง -2.5%


ทั้งนี้กฎ SMAR ล่าสุด ดูจะมุ่งเป้าไปยังบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของจีนเป็นสำคัญ


· หุ้นจีนปิดร่วง จากข้อมูลเศรษฐกิจอ่อนแอ - หุ้นเทคโนโลยีฉุดหุ้นฮ่องกงดิ่ง

หุ้นจีนปิดปรับลงจากข้อมูลเศรษฐกิจจีนที่ออกมาแย่กว่าคาด "กดดันความเชื่อมั่นนักลงทุนในตลาด"

ดัชนี CSI 300 Index ปิด -0.4% ที่ 4,921.74 จุด

ดัชนี Shanghai Composite ปิด -0.5% ที่ 3,500.43 จุด

ดัชนี HSI ปิด -0.7% ที่ 26,002.66 จุด

ดัชนี Hong Kong China Enterprises Index ปิด -0.9% ที่ 9,181.08 จุด


· หุ้นญี่ปุ่นปิดร่วง 4 วันทำการจากกังวล Delta บดบังรายงานผลประกอบการสดใส

ดัชนี Nikkei ปรับขึ้นไปมากถึง 0.52% ก่อนจะปิดตลาด +0.36% ที่ 27,424.47 จุด โดยได้รับแรงหนุนจากรายงานผลประกอบการที่เข้าเกื้อหนุน แม้ว่าจะมีปัจจัยลบจากสถานการณ์ Covid-19

ดัชนี Topix ปิด -0.49% ที่ 1,9215.63 จุด หลังจากเพิ่มขึ้นมากถึง +0.56% ในช่วงต้นตลาด

ทั้งนี้ หุ้นญี่ปุ่นชะลอตัวลงจากการระบาด "ระลอกที่ 5" โดยมีศูนย์กลางการระบาด คือ "กรุงโตเกียว"


· หุ้นอินเดียปิดบวกจากยอดติดเชื้อ Covid-19 ในประเทศลดลง ขณะที่หุ้นเทคโนโลยีปรับขึ้น

ดัชนี NSE Nifty 50 ปิด +0.1% ที่ 16,579.85 จุด

ดัชนี S&P BSE Sensex ปิด +0.12% ที่ 55,647.82 จุด

ดัชนี Nifty IT ปรับขึ้น +1.16% โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นบริษัท Tech Mahindra ที่ขึ้นไปกว่า +3.41% อันเนื่องจากรายงานผลประกอบการที่ออกมาแข็งแกร่ง และยอดติดเชื้อในประเทศลดน้อยลง


· หุ้นยุโรปลดลง - นักลงทุนให้ความสนใจไปยังข้อมูลเงินเฟ้อ และวิกฤตในอัฟกานีสถาน




ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลงเล็กน้อย หลังจากเพิ่มขึ้นติดต่อกัน10 วันทำการในช่วงก่อนหน้านี้

ดัชนี Stoxx600 ลดลงประมาณ 0.4% ท่ามกลางตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่ที่เคลื่อนไหวในแดนลบ


ข้อมูลการจ้างงานในอังกฤษแสดงให้เห็นว่า จำนวนพนักงานในบริษัทสัญชาติอังกฤษในเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 182,000 รายต่อเดือนเมื่อเทียบเป็นรายเดือน

สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ กล่าวว่า อัตราการว่างงานในไตรมาสที่ 2 อยู่ที่ 4.7% ซึ่งต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์จาก Reuters คาดการณ์ไว้เล็กน้อย


สำหรับวันนี้จะมีการประกาศอัตราเงินเฟ้อประจำเดือนก.ค.ของยูโร


· อ้างอิงจากสำนักข่าวประชาติธุรกิจ

- หุ้นไทยวันนี้ (17 ส.ค.) ปิดตลาดภาคเช้า +7.28 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,539 จุด มีมูลค่าซื้อขายรวมทั้งสิ้น 42,763 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด ได้แก่ PTT KBANK และ KCE

การซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหุ้นไทยวันนี้ (17 ส.ค.) ดัชนี SET Index ปิดตลาดภาคเช้า อยู่ที่ระดับ 1,538.52 จุด ปรับขึ้น +7.28 จุด หรือคิดเป็น +0.48% มีมูลค่าซื้อขายรวมทั้งสิ้น 42,763 ล้านบาท เคลื่อนไหวอยู่ในช่วง 1,533.32-1,543.82 จุด โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด ได้แก่ PTT KBANK และ KCE


ขณะที่ดัชนี SET50 ปรับขึ้น +3.31 จุด หรือ +0.36% อยู่ที่ 925.73 จุด มูลค่าซื้อ-ขายรวม อยู่ที่ 20,021 ล้านบาท คิดเป็นประมาณ 46.82% ของการซื้อ-ขายทั้งหมด


· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- ที่ประชุม ศบค.มีมติคงมาตรการล็อกดาวน์ถึง 31 สิงหาคม พร้อมเพิ่มมาตรการจัดการองค์กร ให้ Work from Home ต่อเนื่อง ส่วนพนง. รัฐหรือเอกชนที่ต้องมาปฏิบัติงานให้ตรวจ ATK ทุกสัปดาห์ พร้อมให้สถานประกอบการ-องค์กร เตรียม CompanyIsolation สำหรับหน่วยงานที่มีพนักงานเกิน 50 คน ถ้าตรวจพบติดเชื้อให้ลงทะเบียนเข้าระบบรักษา HI และ CI ไฟเขียวเปิดธนาคารห้างฯ ได้เท่านั้น


- โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงข่าวสถานการณ์รายวันตอนหนึ่งถึงเรื่องภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ว่า สรุปสถานการณ์ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ในช่วงเวลา 1-31 ก.ค.ที่ผ่านมา พบมีนักท่องเที่ยวสะสม 14,055 คน มีคนติดเชื้อทั้งคนไทยและต่างประเทศ 441 คน ซึ่งมีรายได้จากนักท่องเที่ยว 829 ล้านบาท ก่อให้เกิดเงินหมุนเวียนที่ก่อให้เกิดรายได้ทางเศรษฐกิจ 1,925 ล้านบาท ส่งผลต่อเศรษฐกิจโดยรวม 816 ล้านบาท ผลตอบแทนการจ้างงาน 210 ล้านบาท จำนวนการจ้างงาน 2,719 คน และหมุนกลับมาเป็นภาษีกับรัฐบาลได้ 87 ล้านบาท


- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ปรับลดมุมมองเศรษฐกิจไทยในปี 64 คาดว่าจะหดตัวที่ -0.5% จากประมาณการเดิมที่คาดว่าจะเติบโตได้ 1% เนื่องจากได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากการระบาดของโรคโควิดในประเทศมากกว่าที่ประเมินไว้ โดยสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศที่จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันอาจยังไม่ผ่านจุดสูงสุด ทำให้มาตรการล็อกดาวน์อาจใช้ระยะเวลายาวขึ้น


- "แบงก์" เผย ลูกค้าโยกเงินฝากเข้ากองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น 1 ปี รับผลตอบแทนดี-ลดความเสี่ยงคุ้มครองเงินฝากเหลือ 1 ล้าน "กรุงศรี เอ็กซ์คลูซีฟ" ขาย "กรุงศรีโกลบอลฟิกซ์อินคัม 1Y2" มูลค่า 1 พันล้าน หมดภายใน 2 วัน เตรียมขายเพิ่ม "กรุงไทย" แนะจัดพอร์ตหากรับความเสี่ยงได้ต่ำเน้นตราสารหนี้ 60%


- "ธุรกิจโรงแรม" ไตรมาส 2/64 ขาดทุนรวม 7.23 พันล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน สาเหตุหลัก "ไมเนอร์"ขาดทุนลดลง โบรกคาดไตรมาส 3/64 ขาดทุนหนักว่าไตรมาสที่ผ่านมา เหตุล็อกดาวน์ขยายวงกว้าง-รายได้อาหารถูกกระทบ


- ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธอส. ได้ปรับคาดการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยใหม่ในปีนี้ ที่กำลังเผชิญโควิด-19 ซึ่งคาดว่าใบอนุญาตจัดสรรจะลดลง 22.1% จากที่คาดการณ์ไว้เดิม 14% และปี 2565 จะฟื้นตัวเพิ่มขึ้นที่ระดับ 25.2% และเข้าสู่สถานการณ์ปกติปี 2568 ขณะที่ปีนี้โครงการที่จะเปิดตัวใหม่ในกรุงเทพฯ ปริมณฑล ลดลง 35% จากเดิมที่คาดว่าลดลง 6% เป็นการลดลงของโครงการอาคารชุด(คอนโดมิเนียม) 44% บ้านจัดสรรลดลง 27%


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com