สรุปรายงานประชุมเฟด (27-28 ก.ค.): เตรียมทำ Tapering QE โดยมีแนวโน้มเกิดขึ้น “ก่อน” สิ้นปีนี้ อ่านต่อ: https://bit.ly/3ghuyv5
สมาชิกเฟดต้องการ “ทำ Tapering QE” ก่อนเป็นอันดับแรก ก่อนที่จะตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ย และยังไม่มีแนวโน้มจะขึ้นดอกเบี้ยจนกว่ากระบวนการลด QE จะเสร็จสมบูรณ์ เนื่องจากเฟดไม่ต้องการขยายยอดงบดุลหรือ Balance Sheet มากไปกว่านี้
สมาชิกเฟดแสดงความกังวลมากขึ้นในเรื่องของ “Stablecoins” ที่จะมาสร้างผลกระทบต่อเสถียรภาพของตลาดการเงิน เนื่องด้วย Stablecoins
· ทองคำตลาดโลกปิด +0.1% ที่ 1,786.76 เหรียญ
เมื่อวานนี้ทำสูงสุดบริเวณ 1,793 เหรียญ
· สัญญาทองคำส่งมอบเดือน ธ.ค. ปิด -0.2% ที่ระดับ 1,784.4 เหรียญ
· ปัจจัยหลักที่มีผลต่อตลาดทองคำวานนี้
- ทองคำตลาดโลกพลิกกลับมาเคลื่อนไหวแดนบวกรับประชุมเฟด
- ดอลลาร์อ่อนค่าจากแข็งค่ามากสุดรอบ 4 เดือนครึ่ง บริเวณ 93.267 จุด สูงสุดตั้งแต่เม.ย. หลังรายงานประชุมเฟดยังไม่ระบุกรอบเวลาการทำ Tapering QE โดยดัชนีดอลลาร์ปิดบริเวณ 93.137 จุด
- ดอลลาร์ยังจำกัดการขึ้นของทองคำ!
เนื่องจากนักลงทุนเลือกถือดอลลาร์ เป็น Safe-Haven เพื่อป้องกันความเสี่ยงจาก Delta Covid-19 ที่กำลังระบาดหนัก
- รายงานประชุมเฟดสะท้อน การหารือลด QE กระทบหุ้นสหรัฐฯ ดัชนี Dow Jones ปิดปรับลง 2 วันต่อเนื่อง
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ 10 ปีทำสูงสุดได้ที่ 1.3% ก่อนประชุมเฟด แต่แล้วก็ปรับร่วงลงมาแตะ 1.273% ขานรับรายงานประชุมเฟดที่มองว่าการจ้างงานอาจช่วยลดการสนับสนุนทางเศรษฐกิจ
· กองทุนทองคำ SPDR ขายทองออกต่อเนื่อง 4 วันทำการ รวมกว่า 8.44 ตัน
เมื่อวานนี้ กองทุนทองคำ SPDR ขายออกอีก 2.04 ตัน ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 1,015.1 ตัน
การขายต่อเนื่องในเดือนส.ค. ส่งผลให้มีปริมาณการขายสุทธิ 16.36 ตัน
ตลอดช่วงเกือบ 8 เดือนของปีนี้ SPDR ขายทองไปมากเกือบ 160 ตัน โดยสถานะขายสุทธิรวมตั้งแต่ ม.ค. – 18 ส.ค. ขายทองแล้ว 155.64 ตัน
· หัวหน้าเทรดเดอร์จาก U.S. Global Investors กล่าวว่า ความกังวลเกี่ยวกับการระบาดของ Delta Covid-19 ดูจะเป็นปัจจัยที่มีผลต่อราคาทองคำเพียงเล็กน้อย แต่การที่นักลงทุนเห็นท่าทีเฟดคุมเข้มทางการเงินมากขึ้น ดูจะส่งผลต่อราคาทองคำมากกว่า
· รายงานประชุมเฟดยังตอกย้ำเฟดแยกเรื่องระหว่าง “การฟื้นตัวตลาดแรงงาน” กับ “การลดการซื้อพันธบัตร”
สมาชิกเฟดรู้สึกว่า การจ้างงานสหรัฐฯ อาจช่วยสนับสนุนการลดการใช้นโยบายทางเศรษฐกิจในปีนี้ได้ แต่ก็ยังไม่เห็นด้วยที่จะใช้นโยบายต่อไปในช่วงการเปลี่ยนผ่านของวิกฤตการระบาด
· นักวิเคราะห์จาก Anand Rathi Shares กล่าวว่า ตลาดกลับมาให้ความสนใจกับการประชุม Jackson Hole Symposium ระหว่าง 26-28 ส.ค. นี้ ประกอบกับข้อมูลจ้างงานสหรัฐฯเดือนส.ค. ที่จะประกาศหลังจากนั้น เพราะ “อาจเป็นปัจจัยที่สร้างความผันผวนแก่ตลาดทองคำ”
· นักวิเคราะห์ฝ่าการตลาดจาก Think Markets กล่าวว่า ทองคำสามารถฟื้นตัวได้จากเม็ดเงินลงทุนที่ไหลเข้าสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯที่ปรับตัวลดลง แต่ดอลลาร์ที่ยังอยู่ในทิศทางที่แข็งค่าก็ยังจำกัด “การปรับขึ้น” ของราคาทองคำ
· ซิลเวอร์ปิด -0.5% ที่ 23.51 เหรียญ
· แพลทินัมปิด +0.4% ที่ 1,001 เหรียญ
· พลาเดียมปิด -2.7% ที่ 2,422.85 เหรียญ
· ทองแดงแตะต่ำสุดรอบเกือบ 2 เดือนจากความกังวลเกี่ยวกับ “ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ” จุดประกายความกังวลเรื่องอุปสงค์ – “ธนาคารกลางต่างๆ๐ ดูจะเริ่มให้ความสนใจเรื่องนโยบายดอกเบี้ย
· ยอดก่อสร้างบ้านสหรัฐฯร่วงลงเกินคาดเดือนก.ค. ตอกย้ำอุปสรรคทางด้านอุปทานที่ยังมีอยู่ต่อเนื่อง โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้างและราคาบ้านที่อยู่ระดับสูง กระทบตลาดที่อยู่อาศัยไตรมาสที่ 3/2021
ยอดการเริ่มต้นสร้างบ้านดิ่งลง -7% แตะ 1.534 ล้านยูนิต
แม้ว่าเดือนมิ.ย.จะมีการปรับทบทวนเพิ่มขึ้นมาที่ 1.65 ล้านยูนิตก็ตาม
· สำนักงานสถิติแรงงานแห่งชาติ กล่าวว่า ข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯมีแนวโน้มจะขยายตัวได้เพียง 166,000 ตำแหน่งในช่วง 1 ปี ซึ่งน้อยกว่าที่เคยประมาณการณ์ไว้
โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวและโรงแรมที่เผชิญปัญหาหนักสุดจากการระบาดของ Covid-19 ทำให้ทางหน่วยงานตัดสินใจปรับทบทวนการจ้างงานลง 597,000 ตำแหน่ง หรือ -4.6%
· ราคาที่อยู่อาศัยออสเตรเรียร้อนแรงขึ้น กระทบความสามารถของกลุ่มผู้ซื้อให้เลวร้ายลง
· กระทรวงการคลังบราซิล คาด ระดับหนี้จะสูงเป็น 81.2% ของจีดีพีบราซิลปีนี้
· ผลสำรวจ Reuters Tankan คาด ภาคการผลิตญี่ปุ่นจะปรับขึ้นได้ทำสูงสุดรอบ 3 ปี ครึ่ง
· กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เผย ตอลิบานผิดพันธสัญญา ขวางชาวอัฟกานิสถานในการไปทางไปสนามบิน ณ กรุงคาบูล ขณะที่สหรัฐฯให้คำมั่นจะทำการขนส่งทางอากาศยานให้เสร็จสิ้นภารกิจ
· “ไบเดน” เผยอาจต้องมีการขยายเส้นตายสำหรับกองทัพสหรัฐในการอยู่อัฟกานิสถานถึง 31 ส.ค.นี้ ขณะที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เผยว่า ไม่สามารถเข้าถึงผู้คนที่อยู่นอกสนามบินกรุงคาบูลได้ จึงอาจส่งผลให้กองทัพไม่สามารถช่วยให้พลเมืองสหรัฐฯที่อาศัยอยู่ในอัฟกานิสสถานเดินทางไปยังสนามบินได้
· COVID-19 UPDATES:
รายงานยอดติดเชื้อใหม่ทั่วโลกเพิ่มขึ้น 683,272 ราย รวมสะสมทะลุ 210 ล้านราย อยู่ที่ระดับ 209.33 ล้านราย ขณะที่ยอดเสียชีวิตสะสมรวม 4.40 ล้านราย
ยอดติดเชื้อใหม่ในสหรัฐฯยังเพิ่มขึ้นมากกว่า 150,000 ราย รวมสะสมล่าสุดอยู่ที่ 38.06 ล้านราย เสียชีวิตสะสมรวมกว่า 641,312 ราย
· กระทรวงสาธารณสุขสหรัฐฯ เผย จะเริ่มต้นฉีดบูสวัคซีน Covid-19 ในวันที่ 20 ก.ย.นี้แก่ชาวอเมริกา เพื่อป้องกันการติดเชื้อจาก Delta Covid-19
· รายงานจาก Worldometers ระบุว่า ไทยติดเชื้อ-เสียชีวิตใหม่วานนี้ปรับขึ้นมาอยู่ลำดับที่ 9 ของโลกทั้งคู่
ขณะที่ในแถบเอเชีย พบว่า เป็นภูมิภาคที่มียอดติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้นมากที่สุดกว่า 255,461 รายในวันเดียว โดยไทยติดอันดับ 4 ที่พบติดเชื้อ-เสียชีวิตรายใหม่ของภูมิภาค
· เช้านี้ ศบค. รายงานไทย พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 20,902 ราย เสียชีวิตอีก 301 ราย
ทำให้ยอดรวมติดเชื้อสะสมเกือบแตะ 1 แสนราย ล่าสุดอยู่ที่ 989,859 ราย ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตสะสมรวม 8,586 ราย
ทั้งนี้ ยอดเสียชีวิตจากโควิดของไทย สะท้อนระบบสาธารณสุขที่ไม่เพียงพอ
ขณะที่เมื่อวานนี้สาธารณสุขภทย แถลงการณ์ถึงยอดเสียชีวิตที่ทะลุ 300 รายในวันที่ 17 ส.ค. เป็นตัวเลขตกหล่น 100 ราย
· ‘เงินบาท’ วันนี้เปิด‘อ่อนค่า’ 33.32 บาท/ดอลลาร์
นักบริหารการเงิน คาดกรอบเงินบาทวันนี้ 33.25-33.40 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทยังผันผวนจากยอดผู้ติดเชื้อรายวันในประเทศและแนวโน้มดอลลาร์แข็งค่า ทั้งเฟดลดคิวอีและความกังวลโควิดทั่วโลกตลาดการเงินกลับมาอยู่ในโหมดระมัดระวังตัวมากขึ้น
· อ้างอิงจากไทยโพสต์
- ‘กนง.'ชี้โควิดทุบศก.ไทยพังเกินคาด
ธปท. เผยแพร่รายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (ฉบับย่อ) ครั้งที่ 5/2564 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 4 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยที่ประชุมกนง. ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มชะลอตัวลงมาก จากมาตรการควบคุมการระบาดของโควิด-19 ที่เข้มงวดขึ้น ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและอุปสงค์ในประเทศ ทำให้คาดว่าแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2564 จะขยายตัวได้ที่ 0.7% และปี 2565 จะขยายตัวได้ 3.7% โดยปรับลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ ตามการบริโภคภาคเอกชนที่ได้รับผลกระทบมากในปีนี้ และแนวโน้มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ปรับลดลงมากในปีหน้า ขณะที่ตลาดแรงงานมีแนวโน้มเปราะบางขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มลูกจ้างในภาคบริการและผู้ประกอบอาชีพอิสระที่มีรายได้ลดลง
· อ้างอิงจากประชาชาติ
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ชี้โควิด-การเมืองป่วน กระทบท่องเที่ยวปลายปี
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้ อาจจะต่ำกว่าที่เคยคาด เจอทั้งโควิด-การเมืองวุ่นวาย คาดทั้งปี 2564 นักท่องเที่ยวต่างชาติอาจมาแค่ 1.5 แสนคน จากกรอบเดิมคาดไว้ 2.5-6.5 แสนคน