น้ำมันลดลง หลังเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 2 วันทำการ
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง หลังจากที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งในสัปดาห์นี้ โดยได้รับแรงหนุนจากการขาดแคลนกำลังการผลิตจากเหตุไฟไหม้แท่นขุดเจาะน้ำมันแห่งหนึ่งในเม็กซิโกและสัญญาณที่ว่าจีนซึ่งเป็นผู้นำเข้ารายใหญ่ที่สุดของโลกสามารถควบคุมการระบาดของไวรัสโคโรนาเมื่อเร็ว ๆ นี้
ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 25 เซนต์ หรือคิดเป็น 0.4% ที่ระดับ 67.29 เหรียญ/บาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบ Brent ลดลง 22 เซนต์ หรือคิดเป็น 0.3% ที่ระดับ 70.85 เหรียญ/บาร์เรล
น้ำมันดิบทั้ง 2 ชนิด เพิ่มขึ้นประมาณ 8% ในช่วงสองวันก่อนหน้า โดยราคาเพิ่มขึ้นเป็นส่วนใหญ่เนื่องจากการขาดแคลนอุปทานมากกว่า 400,000 บาร์เรล/วันในเม็กซิโกหลังจากเกิดเพลิงไหม้บนแท่นน้ำมัน
ขณะที่การปรับร่วงลงในสัปดาห์ที่แล้ว ถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับการแพร่กระจายของไวรัสสายพันธุ์เดลต้าที่แพร่ระบาดได้สูงในเอเชียจะส่งผลกระทบให้การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของภูมิภาคชะลอตัวลง
ทางด้านอุปสงค์ในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก ดูเหมือนว่าจะรักษาระดับได้ดี ตามข้อมูลล่าสุดจากกลุ่มอุตสาหกรรม API ที่แสดงให้เห็นว่า สต็อกน้ำมันดิบลดลง 1.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 20 ส.ค. ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 1 ล้านบาร์เรล
สำรวจของ Reuters เผย นักวิเคราะห์คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 2.7 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินจะลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล
สำหรับวันนี้จะมีการเปิดเผยข้อมูลอย่างเป็นทางการจาก U.S. Energy Information Administration (EIA)
ทั้งนี้ สัญญาณการแพร่กระจายของการติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลต้าในจีนกำลังคลี่คลายลง หลังรายงานว่าพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพียง 20 รายในวันที่ 24 ส.ค. ลดลงจาก 35 รายในวันก่อนหน้า
ที่มา: CNBC