
ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์เพิ่มขึ้นครั้งแรกรอบ 5 สัปดาห์
จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์สหรัฐฯปรับขึ้นเกินคาด และมีการปรับตัวสูงขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 5 สัปดาห์ สะท้อนถึงการฟื้นตัวในตลาดแรงงานเริ่มเห็นถึงผลกระทบจาก Covid-19
จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานเพิ่มขึ้น 4,000 ราย สู่ระดับ 353,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่สัปดาห์ก่อนถูกปรับทบทวนขึ้นมาที่ 349,000 ราย
มาตรวัดความผันผวนของจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการรายสัปดาห์ช่วง 4 สัปดาห์ พบว่า ลดลงไปราว 11,500 ราย สู่ระดับ 366,500 ราย ถือเป็นยอดต่ำสุดตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมี.ค. ปี 2020 ที่เริ่มเกิดการระบาดของไวรัส Covid-19 ในประเทศ
มีจำนวนรัฐไม่น้อยกว่า 25 รัฐในประเทศสหรัฐฯ ที่ผู้ว่าการรัฐเป็นผู้แทนของสมาชิกรีพับลิกัน ตัดสินใจถอนมาตรการช่วยเหลือผ่านกองทุนสวัสดิการคนว่างงาน 300 เหรียญ ที่กลุ่มภาคธุรกิจเรียกร้องว่า การช่วยเหลือดังกล่าวส่งผลให้ประชาชนส่วนใหญ่เลือกที่จะพักอาศัยอยู่ที่บ้านมากกว่า
อย่างไรก็ดี ยังไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่า การจ้างงานที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากการถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหรือไม่ และมาตรการดังกล่าวจะหมดอายุลงในวันที่ 6 ก.ย. นี้ โดยอาจยังส่งผลกระทบต่อประชาชนว่างงานอีกราว 11 ล้านราย
สำหรับยอดการเข้ารับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ต่อเนื่องปรับลดลงมาราวๆ 3,000 ราย เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า สู่ระดับ 2.86 ล้านราย
รายงานผลประกอบการสหรัฐฯปรับขึ้นหนุนจีดีพี Q2/2021
รายงานผลประกอบการบริษัทต่างๆที่เพิ่มสูงขึ้นทำสูงสุดประวัติการณ์ครั้งใหม่ในช่วงไตรมาสที่ 2/2021 เป็นผลมาจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งประกอบกับราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้น บ่งชี้ว่า ผลกระทบจากยอดติดเชื้อ Covid-19 ที่พบช่วงไตรมาสนี้ เป็นเพียงผลสะท้อน "ชั่วคราว" ที่กระทบการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานว่า แม้จะเห็นภาคธุรกิจเผชิญกับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น และปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบต่างๆ รวมถึงแรงงาน แต่ก็จะเห็นถึงการขยายตัวของจีดีพีในช่วงไตรมาสที่ 2/2021 ขยายตัวได้ราว 6.6% สูงกว่าประมาณการณ์ครั้งที่ 1 ที่อยู่ที่ 6.5% ขณะที่การระบาดของ Delta Covid-19 กระทบอุปสงค์ภาคบริการต่างๆ อาทิการเดินทางด้วยสายการบินหรือเรือสำราญ ส่งผลให้บรรดานักเศรษฐศาสตร์ตัดสินใจปรับลดคาดการณ์จีดีพีสหรัฐฯไตรมาสที่ 3/2021
ขณะที่ภาพรวมจีดีพีช่วงไตรมาสที่ 4/2020 ที่ขยายตัวขึ้นแข็งแกร่งเป็นผลจาก ค่าใช้จ่ายที่ขยายตัวได้แข็งแกร่งในกลุ่มผู้บริโภคและการลงทุนภาคธุรกิจมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ประกอบกับประเด็นสำคัญคือ "เช็คกระตุ้นเศรษฐกิจ" และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลสหรัฐฯในการช่วยเหลือกลุ่มผู้มีรายได้ปานกลางและรายได้น้อย
นอกจากนี้ การที่เฟดยังคงมาตรการผ่อนคลายทางการเงินฉบับพิเศษ พร้อมกับการคงดอกเบี้ยระดับต่ำเป็นประวัติการณ์ ถือเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจและราคาซื้อขายในตลาดหุ้น
ที่มา: Reuters, CNBC