• สรุปข่าวราคาทองคำ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 30 สิงหาคม 2564

    30 สิงหาคม 2564 | Gold News




ทองขึ้น หลังเฟดล้มเหลวในการส่งสัญญาณ Tapering QE

 

·         ราคาทองคำดีดตัวขึ้นกว่า 1% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากนายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด ส่งสัญญาณว่า เฟดจะไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แม้จะมีการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ก่อนสิ้นปีนี้ก็ตาม

 

·         ราคาทองคำตลาดโลกปิด +1.4% ทีระดับ 1,817.21 เหรียญ


·         สัญญาทองคำส่งมอบเดือนธ.ค. ปิด +0.9% ที่ระดับ 1,819.50 เหรียญ

 

·         กองทุน SPDR เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติม โดยปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 1,001.72 ตัน

 

·         หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ฝ่ายการตลาดของ Blue Line Futures กล่าวว่า เฟดยังคงไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ และการทำ Tapering QE จะไม่กลับมาเป็นประเด็นในตลาดจนกว่าจะมีการรายงานตัวเลขการจ้างงานในสัปดาห์หน้า ส่งผลให้ทองมีแนวโน้มสดใส และหากราคาทองคำ Breake ทะลุ 1,800 เหรียญไปได้ ควรจับตาแนวต้านบริเวณ 1,820 เหรียญ

 

·         นอกจากนี้ จากการประชุม Jackson Hole นายเจอโรม โพเวลล์ ส่งสัญญาณว่าเฟดจะยังคงดอกเบี้ยและย้ำเตือนว่าการเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งของเงินเฟ้อยังเป็นเพียงชั่วคราว  ซึ่งน่าจะอ่อนตัวกลับมาสู่กรอบเป้าหมายเฟด 2% แต่ก็ต้องรอข้อมูลมากขึ้น โดยเฉพาะการบรรลุการจ้างงานเต็มที่ ก่อนที่จะเกิดการขึ้นดอกเบี้ยใดๆ

 

·         นายโพเวลล์ใช้ประโยชน์จากประเด็นการระบาดของไวรัสสายพันธุ์เดลต้า ซื้อเวลาสำหรับรอการฟื้นตัวของการจ้างงานก่อนการ Tapering QE ซึ่งชัดเจนว่าจะไม่ทำการ Tapering QE จนกระทั่งเดือนก.ย.หรืออาจจะไปถึงเดือนพ.ย.นี้

 

·         ขณะที่ราคาทองคำต้องการปัจจัยหนุน

การประกาศตัวเลขการจ้างงานที่ต่ำกว่าคาด

การเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธ์เดลต้า

ปัจจัยความเสี่ยงทางการเมืองของโลก เช่น สถานการณ์ในอัฟากนิสถาน

·         ราคาซิลเวอร์ +2.2% ที่ระดับ 24.05 เหรียญ

·         แพลตินัม 3.2% ที่ระดับ 1,010.73 เหรียญ

·         พลาเดียม +0.8% ที่ระดับ 2,411.54 เหรียญ

 

·         นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศถล่มทางอากาศไอเอสต่อเพื่อล้างแค้นการโจมตีสนามบินคาบูลเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้วที่ทำให้ทหารอเมริกันเสียชีวิต 13 นาย และชาวอัฟกันอีกจำนวนมาก เตือนมีแนวโน้มสูงที่กลุ่มก่อการร้ายนี้จะลงมือซ้ำสอง ขณะที่กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ออกคำเตือนใหม่เมื่อเช้าวันอาทิตย์ โดยแนะนำให้ประชาชนออกจากบริเวณสนามบินทันทีเนื่องจากมีภัยคุกคามที่เฉพาะเจาะจงและน่าเชื่อถือ

 

·         สหรัฐฯเปิดฉากปล่อยโดรนโจมตีกลุ่มก่อการร้าย IS หลังเหตุโจมตีสนามบินอัฟกานิสถาน

ขณะที่กองทัพสหรัฐฯ แถลงผลการโจมตี สามารถสังหารฝ่ายวางแผนของ IS ได้ และในเบื้องต้นสามารถบ่งชี้ได้ว่าทำการสังหารเป้าหมายแล้วและไม่การเสียชีวิตของพลเรือนใดๆ

 

·         จีน เผยรายงานแรงกดดันการสั่งระงับหุ้น IPOs สหรัฐฯ จากบริษัทเทคโนโลยีในประเทศที่กำลังเปราะบางต่อข้อมูลดังกล่าว


 

·         COVID-19 UPDATES:


ยอดติดเชื้อสะสมทั่วโลกทะยานแตะ 217.17 ล้านราย ขณะที่เสียชีวิตสะสม 4.45 ล้านราย





ด้านไทยอยู่อันดับที่ 11 ของโลกที่มียอดติดเชื้อใหม่รายวันเพิ่มขึ้นมากสุด

ขณะที่ในแถบเอเชียไทยครองอันดับยอดติดเชื้อสะสมลำดับที่ 10 




ยอดติดเชื้อในไทยล่าสุด ศบค. ประกาศเช้านี้ พบ 15,972 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 256 ราย

ณ ปัจจุบันไทยมียอดติดเชื้อสะสม 1,190,066 ราย และมีผู้เสียชีวิตสะสม 11,399 ราย


 

จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม : 22,807,078 ราย (จำนวนผู้ได้รับวัคซีนทั้งหมด)

จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม : 7,287,885 ราย (จำนวนผู้ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์)

จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ สะสม : 584,326 ราย

 

 

 

·         อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

-ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสำหรับสัปดาห์นี้ (30 ส.ค.-3 ก.ย.) ที่ 32.50-33.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สถานการณ์โควิดในประเทศ และรายงานเศรษฐกิจการเงินเดือนก.ค.ของธปท.

 

ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ประกอบด้วย ข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตร การจ้างงานภาคเอกชนจาก ADP ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) และ ISM ภาคการผลิต/ภาคบริการเดือนส.ค. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค. ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย และยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนก.ค. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามดัชนี PMI ภาคการผลิต/ภาคบริการเดือนส.ค. ของจีน และยูโรโซน รวมถึงท่าทีของสหรัฐฯ และชาติตะวันตกต่อเหตุการณ์ในอัฟกานิสถาน

 

 

 

·         อ้างอิงจากสำนักข่าวประชาติธุรกิจ

- “อาคม” ชี้คลายล็อกดาวน์ 1 ก.ย.นี้ หนุนเศรษฐกิจเดินหน้า

รมว.คลัง ชี้มาตรการผ่อนคลายล็อกดาวน์ 1 ก.ย.นี้ โรงแรมร้านอาหาร” รับประโยชน์ หนุนเศรษฐกิจเดินหน้าต่อพร้อมอยู่เคียงข้าง นายกฯ” สู้ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ

วันที่ 30 ส.ค.64 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กรณีที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. มีมติที่คลายล็อกธุรกิจบางประเภทและเปิดให้นั่งทานอาหารในร้านได้ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.นี้นั้น

มองว่าการคลายล็อกของรัฐบาลในครั้งนี้มีขึ้นเพื่อให้ประชาชนได้กลับมาทำกิจกรรมทางเศรษฐกิจอีกครั้ง ซึ่งจะทำให้เกิดการเดินทางมากขึ้น  อย่างไรก็ตาม กิจกรรมทั้งหมดนั้นจะต้องเข้มงวดในเรื่องมาตรการสาธารณสุข คือ การป้องกันสถานการณ์โควิดแพร่ระบาด


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com