MTS Help Center

·         ราคาทองคำปรับตัวลดลง หลังจากปรับขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 สัปดาห์เมื่อวานนี้ เนื่องจากการปรับแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์ และเหล่านักลงทุนระมัดระวังการลงทุนก่อนการประกาศข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯในวันศุกร์นี้

·         ราคาทองคำตลาดโลกปิด -0.4% ที่ระดับ 1,808.67 เหรียญ หลังจากปรับขึ้นไปแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา

·         สัญญาทองคำส่งมอบเดือนธ.ค. ปิด -0.4% ที่ระดับ 1,812.2 เหรียญ

 

·         ด้านกองทุน SPDR ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติมติดต่อกัน 3 วันทำการ โดยยังถือครองทองคำที่ระดับ 1,001.72 ตัน

 

·         นักวิเคราะห์อาวุโสของ Kitco Metals กล่าวว่า ตลาดเริ่มรับรู้ถึงการทำ Tapering QE ในปีนี้ แต่จะไม่เป็นไปอย่างรีบร้อนจนเกินไปจนให้ตลาดหวาดกลัว

·         อย่างไรก็ตาม ข้อมูลรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯในวันศุกร์ อาจส่งผลกระทบต่อราคาทองคำในสัปดาห์นี้ หากตัวเลขที่แข็งแกร่งอาจทำให้สมาชิกเฟดที่หนุนนโยบายเชิง hawkish มีแนวโน้มมากขึ้นว่าจะยกเลิกนโยบายผ่อนคลายทางการเงิน

·         หัวหน้าฝ่ายวิจัยรุ่นต่อไปของ Julius Baer กล่าวว่า ถ้อยแถลงในการประชุม Jackson Hole ไม่น่าจะมีผลกระทบ "ด้านปัจจัยพื้นฐาน" ต่อทองคำและซิลเวอร์

·         โดยยังคงเชื่อมั่นว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องและอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นชั่วคราว เป็นปัจจัยที่ส่งผลให้ราคาทองคำและซิลเวอร์ปรับตัวลดลงบ้าง

 

·         ราคาซิลเวอร์ -0.3% ที่ระดับ 23.93 เหรียญ

·         ราคาแพลตินัม -0.3% ที่ระดับ 1,004.48 เหรียญ

·         ราคาพลาเดียม +2.5% ที่ระดับ 2,479.50 เหรียญ

·         ยอดอนุมัติรอการขายบ้านสหรัฐฯ หดตัว 2 เดือนติด โดยก.ค. ปรับตัวลงแย่กว่าคาด ที่ระดับ -1.8% ขณะที่เดือนก่อนหน้าปรับทบทวนลดลงแตะ -2.0% เดือนมิ.ย.

 

·         ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในยูโรโซนเดือนส.ค. แย่กว่าคาดแตะ 117.5 จุด หลังเดือนก่อนทำ All-Time High ที่ 119 จุด
ภาพรวมได้รับผลจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหรรมแย่ลงสู่ 13.7 จุด จาก 14.5 จุด ขณะที่ภาคบริการลดลงมาที่ 16.8 จุด จาก 18.9 จุด และข้อมูลผู้บริโภคหดตัวลงมาที่ -5.3 จุด จากเดือนก่อนที่อยู่ -4.4 จุด

 

 

·         เงินเฟ้อเยอรมนีพุ่งแตะ 3.9% ทำสูงสุดรายปีครั้งใหม่รอบ 13 ปีในเดือนส.ค. (ตั้งแต่ ธ.ค. 1993)
ข้อมูลล่าสุดสะท้อนถึงแรงกดดันเงินเฟ้อที่เพิ่มมากขึ้น แม้เศรษฐกิจจะฟื้นตัวจากการระบาดได้ แต่บริษัทต่างยังได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนอุปทาน

·         นำเข้าเยอรมนีครึ่งปีแรกของ 2021 ร่วงลงราว 10% เมื่อเทียบรายปี โดยได้รับผลกระทบจาก Covid-19 และการ Lockdown

·         Reuters Poll คาด กิจกรรมโรงงานจีนส.ค. จะขยายตัวได้น้อยกว่าคาด

 

·         ภาพรวมตลาดหุ้นทั่วโลกทำสูงสุดประวัติการณ์ – น้ำมันขยับขึ้นท่ามกลางการซื้อขายปานกลาง ทั้งหมดนี้ เป็นอานิสงส์ส่วนหนึ่งจากการที่เฟด “ไม่เร่ง” ถอนนโยบายการเงิน

·         ดร. สก็อต ก็อททิเลียบ ผู้อำนวยการ Pfizer  เปิดเผยว่าจะสามารถฉีดวัคซีน Covid-19 ให้แก่เด็กวัย 5-11 ปีได้ ช่วงฤดูหนาวนี้ (ปลายปี)

·         นักวิทยาศาสตร์จากสถาบัน CDC สหรัฐฯ เผย มีข้อมูลจำกัดในการชี้วัดการฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิ Covid-19 สำหรับประชาชนโดยทั่วไป

·         ปัญหาวัคซีน Moderna ปนเปื้อนในญี่ปุ่นเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้เกิดการระงับใช้วัคซีนของบริษัทดังกล่าวสูงกว่า 1 ล้านโดส

·         ยอดฉีดบูสวัคซีน Covid-19 เพื่อกระตุ้นภูมิในอิสราเอลลดลงกว่า 2 เท่าตัว ท่ามกลางยอดติดเชื้อรายวันที่กลับมาเพิ่มมากสุดประวัติการณ์

 

 

·         การปราบปรามของกลุ่มผู้กำหนดนโยบายจีน ส่งผลให้มีเม็ดเงินหลายพันล้านเหรียญไหลออกจากตลาดหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี

ซึ่งกำลังก่อให้เกิดความเสี่ยงสำคัญ 3 ประการ
1) ความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบ
2) ปัญหาทางการเมือง
3) การเปลี่ยนแปลงโมเดลธุรกิจ

 

·         สหรัฐฯถอนกำลังจากการปฏิบัติภารกิจ ณ กรุงคาบูล หลังช่วยเหลือผู้อพยพได้ 116,000 รายตลอดช่วง 2 สัปดาห์

COVID-19 UPDATES:

โดยวันนี้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 190 ราย ทำให้การระบาดระลอกใหม่ตั้งแต่เดือน เม.ย. 2564 มียอดผู้เสียชีวิตสะสมถึง 11,495 รายแล้ว ขณะที่ภาพรวมของการเสียชีวิตจากสถานการณ์โควิด-19 มีผู้เสียชีวิตรวม 11,589 รายแล้ว

·         อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

นักบริหารการเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 32.40 - 32.50 บาท/ดอลลาร์ โดยมีปัจจัยใน ประเทศที่ต้องจับตาดูคือทิศทางของเงินทุนต่างประเทศ

"โดยเมื่อวานนี้บาทผันผวนและแข็งค่าเร็วมากตามแรงซื้อแรงขาย เพราะยังหาจุดที่เหมาะสมไม่ได้ว่าค่าเงินบาทควรอยู่ในระดับใด ขณะที่ภูมิภาคไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก"

- สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เผยรายงานภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือน ก.ค.64 เศรษฐกิจไทยส่งสัญญาณชะลอลงจากเดือนก่อนหน้า สะท้อนจากการใช้จ่ายของภาคเอกชนที่มีสัญญาณชะลอลง อันเป็นผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างไรก็ดี การส่งออกสินค้ายังคงขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5

- สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือน ก.ค.64 อยู่ที่ระดับ 91.41 ขยายตัว 5.12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) ส่วนหนึ่งเป็นผลจากฐานที่ต่ำในปีก่อนเนื่องจากยังอยู่ในช่วงได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 ในรอบแรก และเป็นปัจจัยสำคัญส่วนหนึ่งให้ MPI ยังขยายตัวแต่อยู่ในอัตราที่ชะลอลง