ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง หลังจากที่กลุ่ม OPEC+ ตกลงที่จะเพิ่มการผลิตแบบค่อยเป็นค่อยไป ท่ามกลางยอดผู้ติดเชื้อจากการระบาดของไวรัสโคโรนาทั่วโลกที่พุ่งสูงขึ้น และผู้กลั่นน้ำมันจำนวนมากในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นแหล่งอุปสงค์น้ำมันดิบหลัก ยังคงปิดทำการอยู่
ราคาน้ำมันดิบ Brent ลดลง 15 เซนต์ หรือคิดเป็น 0.2% ที่ระดับ 71.44 เหรียญ หลังปิดร่วงลง 4 เซนต์เมื่อวานนี้
ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 4 เซนต์ หรือคิดเป็น 0.3% ที่ระดับ 68.39 เหรียญ/บาร์เรล หลังปิดเพิ่มขึ้น 9 เซนต์เมื่อวานนี้
โดยกลุ่ม OPEC+ ตัดสินใจตรึงแนวทางการทยอยปรับเพิ่มกำลังการผลิตที่ระดับ 400,000 บาร์เรล/วัน ตั้งแต่เดือนก.ค. ถึงสิ้นปีนี้
ขณะเดียวกันกลุ่ม OPEC+ ก็มีการปรับทบทวน "แนวโน้มอุปสงค์น้ำมัน" เพิ่มขึ้นในปี 2022 แม้จะเผชิญแรงกดดันจากสหรัฐฯที่ต้องการให้เกิดการเพิ่มกำลังการผลิตอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง 7.2 ล้านบาร์เรล
· ค่าใช้จ่ายด้านการผลิตน้ำมันในสหรัฐฯอ่อนตัว จากความคืบหน้าเรื่อง "โครงสร้างพื้นฐาน" ที่เป็นไปอย่างล่าช้า
· โพลล์สำรวจโรงกลั่นน้ำมันส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ซาอุดีอาระเบียจะปรับลดราคาขายน้ำมันดิบให้กับลูกค้าในภูมิภาคเอเชียในเดือนต.ค.นี้ หลังจากราคาน้ำมันดิบตลาดดูไบซึ่งเป็นมาตรวัดราคาน้ำมันดิบของตะวันออกกลาง ปรับตัวลงในเดือนที่แล้ว
ผลสำรวจของ Reuters ระบุว่า ราคาขายน้ำมันอย่างเป็นทางการ (OSP) สำหรับราคาน้ำมันดิบ Arab Light มีแนวโน้มลดลงราว 20-40 เซนต์/บาร์เรลในเดือนต.ค. หลังจากราคาน้ำมันในตลาดดูไบปรับตัวลง 17 เซนต์
ที่มา: Reuters, CNBC