MTS Help Center

ราคาทองคำขยับขึ้นเหนือ 1,810 เหรียญในระหว่างการซื้อขายวันนี้ อันเป็นผลมาจาก
- ดอลลาร์อ่อนค่าทำต่ำสุดรอบ 1 เดือน จ่อปิดอ่อนค่าเป็นสัปดาห์ที่ 2
- นักลงทุนกำลังรอข้อมูลจ้างงานนอกภาคการเกษตรของรัฐบาลสหรัฐฯคืนนี้ เพื่อหาสัญญาณเฟด "เริ่มทำ" Tapering QE

·         ราคาทองคำตลาดโลกปรับขึ้น 0.2% ที่ 1,813.15 เหรียญ
ถึงแม้ทองคำจะแกว่งขึ้นได้บ้าง แต่ก็ดูภาพรวมสัปดาห์นี้จะเป็น "สัปดาห์แรก" ที่ทองคำปรับตัวลดลงในรอบ 4 สัปดาห์  โดยมีโอกาสปิดสัปดาห์ประมาณ -0.2% 

·         ราคาสัญญาทองคำปรับขึ้น 0.2% ที่ 1,815.50 เหรียญ 

·         กรรมการผู้จัดการจาก SPI Asset Management คาดการณ์ว่า อาจเห็นการลงทุนในทองคำปรับตัวสูงขึ้นเพียงเล็กน้อย  เนื่องด้วยนักลงทุนส่วนใหญ่ต้องการเห็นข้อมูลจ้างงานนอกภาคการเกษตรของรัฐบาลสหรัฐฯเสียก่อน 

ข้อมูลจ้างงาน อาจเป็นผลบวกต่อทองคำ หากเป็นสาเหตุที่ทำให้ "เฟดต้องระมัดระวังมากขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ"

แต่ทองคำก็ อาจหลุดต่ำกว่า 1,800 เหรียญได้  หากข้อมูลคืนนี้ออกมาแข็งแกร่ง 

·         ก่อนทราบข้อมูลจ้างงานสหรัฐคืนนี้เวลา 19.30น. จะเห็นได้ว่า
- ข้อมูลจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ปรับลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว 
- จำนวนการเลิกจ้างงานของสหรัฐฯทำ "ต่ำสุดรอบกว่า 24 ปี" ในเดือน ส.ค. 

·         นายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า หากข้อมูลจ้างงานสหรัฐฯยังคงขยายตัวต่อเนื่อง ก็จะเป็นผลให้เฟดตัดสินใจทำการ "เริ่มต้น" ลดการเข้าซื้อพันธบัตรในปีนี้ แต่ยังคง "ระมัดระวัง" ต่อการตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ย 

·         Gold Price Forecast: FXStreet คาดทองคำมีโอกาสขึ้นต่อ แต่ต้องรอ Non-Farm Payrolls คืนนี้ 

ราคาทองคำภาพรวมทรงตัวได้แถว 1,810 เหรียญ และดูเหมือนจะรอคอยข้อมูลจ้างงานรัฐบาลสหรัฐฯเป็นสำคัญ ขณะที่มุมมองนักวิเคราะห์จาก FXStreet กล่าวถึง "ทองคำมีโอกาสขึ้นต่อ"  และมีการวิเคราะห์แนวทางการลงทุน ดังนี้
- นักลงทุนยังคงมีท่าทีระมัดระวังต่อข้อมูลการจ้างงานที่จะเปิดเผยในคืนนี้ของสหรัฐฯ 
- ทองคำอาจดีดกลับ ท่ามกลางความเชื่อมั่นในตลาดที่เป็นไปอย่างผสมผสาน
- ดอลลาร์อ่อนค่าก่อนข้อมูลจ้างงานเปิดเผย จากคาดการณ์ที่ว่า ส.ค. จะเห็นจ้างงานขยายตัวเพียง 750,000 ตำแหน่ง จากเดือนก่อนที่ 943,000 ตำแหน่ง
- หากผลการจ้างงานออกมาแย่กว่าคาด ดูจะ "เสี่ยง" เห็นทองคำปรับขึ้นต่อไปหาเส้น DMA ราย 200 วัน

- หากทองคำยืนได้เหนือเส้นค่าเฉลี่ย SMA-21 วัน ที่เป็นกรอบขาขึ้น บริเวณ 1,813 เหรียญได้ มีโอกาสเห็นทองคำกลับไปหาแนวต้าน 1,817 เหรียญ

- กราฟราย 4 ชั่วโมง สะท้อนว่า "หากราคาปิดเหนือ 1,817 เหรียญ" จะยืนยัน "การ Breakout"  ออกจากกรอบ Symmetrical Triangle ทิศทางขาขึ้น และอาจไปทดสอบสูงสุดของเดือนส.ค.ที่ 1,823 เหรียญ รวมทั้งมีลุ้นทดสอบ 1,830 เหรียญก็เป็นได้

- สำหรับแนวรับสำคัญของทองคำอยู่บริเวณ 1,806 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับสำคัญของแนว SMA-50 วัน หากหลุดลงมา จะยืนยัน "การ Breakout" ออกจากกรอบสามเหลี่ยมในทิศทาง "ขาลง" พร้อมกับจะเปิดโอกาสให้ทองคำมีลุ้นทดสอบ 1,793 เหรียญ ซึ่งเป็นบริเวณเส้นค่าเฉลี่ย SMA-100 และ SMA-200 

·         ซิลเวอร์ขยับขึ้น +0.2% ที่ระดับ 23.92  เหรียญ

·        แพลทินัมปรับขึ้น +0.2% ที่ 1,001.36 เหรียญ

·        พลาเดียมขึ้นมาราว +0.3% ที่ 2,406.65 เหรียญ

·         Caixin/Markit  เผยดัชนี PMI ภาคบริการจีนเดือนส.ค. ปรับลงสู่ระดับหดตัวเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เม.ย. 2020 บริเวณ 46.7 จุด อันเป็นผลจาก  Delta Covid-19 

·         IHS Markit เผยดัชนี PMI ภาคการผลิตอินเดียขยายตัวได้รวดเร็ซมากสุดนับตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นการระบาดแตะ 56.7 จุดในเดือน ส.ค. 

·         อังกฤษเผชิญการขาดแคลนคนขับรถบรรทุก หลังการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจากช่วงวิกฤต Covid-19 

·         Reuters Poll คาด ญี่ปุ่นปรับเพิ่มคาดการณ์จีดีพี Q2/2021 จากค่าใช้จ่ายที่แข็งแกร่งในภาคธุรกิจ  โดยอาจเห็นจีดีพีญี่ปุ่นปรับขึ้นมาที่ 1.6% เมื่อเทียบกับปีก่อนได้ 

·         “โยชิฮิเดะ ซูงะ” นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เตรียม “ลาออก” หลังคะแนนนิยมวูบ เซ่นคุม Covid-19 ไม่ดีพอ ปูทางไปสู่ผู้นำคนต่อไป

ทั้งนี้ คะแนนนิยมในตัวผู้นำพรรค LDP อย่างนายซูงะ ดิ่งลงไปต่ำกว่า 30% จากสถานการณ์จัดการ Covid-19 ที่ย่ำแย่ ก่อนเกิดการเลือกตั้งทั่วไปของญี่ปุ่ในปีนี้ และนี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาไม่อาจไปต่อในศึกเลือกตั้งผู้นำนำพรรค LDP เดือนก.ย. ได้

จึงส่งสัญญาณว่าอาจเห็นการเลือกผู้นำพรรคคนใหม่ ที่อาจกลายมาเป็น “นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น” คนต่อไปด้วย

·         กองทัพอิสราเอลยิงทหารปาเลสไตน์เสียชีวิตจากเหตุปะทะบริเวณเขตฉนวนกาซา 

·         COVID-19 UPDATES:

- ออสเตรเลียประกาศแลกเปลี่ยนวัคซีน Pfizer กับทางอังกฤษ

- นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ปักธงเร่งเปิดทำการอีกครั้ง หลังประกาศเข้าโครงการแลกเปลี่ยนวัคซีนกับทางอังกฤษ

- ญี่ปุ่นตัดสินใจผ่อนคลายมาตรการภาวะฉุกเฉิน ที่ใช้เพื่อสกัดการระบาดของ Covid-19