MTS Help Center

ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดงรับรายงานจ้างงานสหรัฐฯสะท้อนทิศทางแท้จริงทางเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ ข้อมูลจ้างงานรัฐบาลสหรัฐฯ ดูจะสท้อนถึงมุมมองการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และอาจสะท้อนโดยนัยถึงอุปสงค์พลังงานท่ามกลางจำนวนการระบาดที่กำลังเพิ่มสูงขึ้น

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิด -70 เซนต์ หรือ -1% ที่ 69.29 เหรียญ/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบ Brent ปิด -42 เซนต์ หรือ -0.58% ที่ 72.61 เหรียญ/บาร์เรล

ขณะที่การปรับตัวลดลงของราคาน้ำมันเป็นไปอย่างจำกัด อันเป็นผลจากภาวะอุปทานน้ำมันสหรัฐฯที่ได้รับผลกระทบจากพายุเฮอริเคนไอดา ที่ส่งผลให้เกิดการปรับลดกำลังการผลิตบริเวณอ่าวเม็กซิโก

อย่างไรก็ดี น้ำมันดิบทั้ง 2 ชนิดดูจะยังปิดทรงตัวได้ในสัปดาห์ที่แล้ว โดยน้ำมันดิบ WTI ปิดสัปดาห์ +0.8%

จ้างงานรัฐบาลสหรัฐฯ กดดันดอลลาร์ทรุด!

ค่าเงินดอลลาร์ปรับอ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ หลังจากที่ข้อมูลจ้างงานสหรัฐฯออกมาแย่กว่าคาดและมีแนวโน้มจะส่งผลให้เฟดคงแนวทางการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป

ดัชนีดอลลาร์ปรับตัวลดลงทำต่ำสุดที่ 91.941 จุด ซึ่งเป็นต่ำสุดตั้งแต่ 4 ส.ค. ก่อนจะปิดตลาด -0.2% ที่ 92.03 จุด

ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการดำเนินนโยบายการเงินของเฟด หลังจากที่นายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด ได้เคยกล่าวถึง โอกาสจะเริ่มทำ Tapering QE ในปีนี้ หากข้อมูลจ้างงานยังฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง ซึ่งแสดงว่าเฟดไม่มีท่าทีเร่งรีบต่อการดำเนินการดังกล่าว

นอกจากนี้ ปัญหาการระบาดของ Delta Covid-19 ที่ส่งผลให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงขึ้น ก็ดูจะนำมาซึ่งความวิตกกังวลเรื่องการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และข้อมูลดังกล่าวน่าจะมีผลต่อเฟดในการประชุมที่จะถึงนี้

ค่าเงินยูโรแข็งค่าแรง รับรายงานดังกล่าว โดยช่วงนั้นขึ้นไปทำสูงสุดที่ 1.1909 ดอลลาร์/ยูโร ซึ่งเป็นสูงสุดตั้งแต่ 30 ก.ค. ก่อนจะปิด +0.1% ที่ 1.189 ดอลลาร์/ยูโร

ขณะเดียวกัน ค่าเงินยูโรก็มีแรงหนุนจากข้อมูลเงินเฟ้อของยูโรโซนช่วงต้นสัปดาห์ที่แล้วสะท้อน อัตราเงินเฟ้อที่ทำระดับสูงสุดรอบ 10 ปี ส่งผลให้สมาชิกอีซีบีบางรายหนุนแนวทางการคุมเข้มทางการเงินแบบ Hawkish ก่อนการประชุม 9 ก.ย.นี้

สำหรับค่าเงินเยนอ่อนค่า 0.3% แตะ 109.64 เยน/ดอลลาร์ ก่อนจะแข็งค่าลงมาจากข้อมูลจ้างงานสหรัฐฯ ขณะที่ค่าเงินยูโรดูจะตอบรับเพียงเล็กน้อยต่อการประกาศลาออกของนายกรัฐมนตรีในช่วงสิ้นเดือนนี้

ที่มา: Reuters, CNBC