หุ้นเอเชียทำสูงสุดรอบ 6 สัปดาห์ ขณะที่น้ำมันลง หลังซาอุฯปรับลดราคา
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้นทำระดับสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์ เนื่องจากมีโอกาสที่อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯจะอยู่ในระดับต่ำยาวนานขึ้น ประกอบกับการเจรจามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในญี่ปุ่นและจีนที่มากขึ้น ขณะที่น้ำมันร่วงลง หลังจากที่ซาอุดีอาระเบียปรับลดราคาสำหรับลูกค้าชาวเอเชีย
ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับเพิ่มขึ้น 0.45%
· ดัชนี Topix ปิดทำสูงสุดรอบ 31 ปี - นักลงทุนจับตาการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
ดัชนี Topix ของญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 3 ทศวรรษ ขณะที่ดัชนี Nikkei ก็พุ่งขึ้นเช่นกัน เนื่องจากนักลงทุนยังคงซื้อหุ้นที่ราคาต่ำ ท่ามกลางความหวังที่ว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวอย่างรวดเร็วและแนวโน้มธุรกิจอยู่ในเชิงบวก
ดัชนี Nikkei ปิด +1.83% ที่ระดับ 29,659.89 จุด
ดัชนี Topix +1.28% ที่ระดับ 2,041.22 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.ปี 1990
ตลาดหุ้นจีนปรับตัวสูงขึ้นในช่วงบ่ายเนื่องจากดัชนี Shanghai composite +1.02%
ดัชนี Shenzhen component +2.164%
ดัชนี Hang Seng ของฮ่องกงเพิ่มขึ้น 0.51%
ด้านดัชนี Kospi ปรับตัวลงเล็กน้อย
ดัชนี S&P/ASX 200 -0.33%
สำนักข่าว Reutes รายงานว่า ดัชนี SET Composite ของไทยทรงตัวในการซื้อขายวในวันนี้ หลังจากนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอีกหลายรายรอดจากการโหวตไม่ไว้วางใจรัฐสภาในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
สำหรับวันนี้ตลาดสหรัฐฯจะปิดทำการเนื่องในวันหยุด "Labor Day"
· ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวสูงขึ้น หลังจากการจ้างงานสหรัฐฯที่ออกมาเมื่อวันศุกร์บ่งชี้ว่าเฟดอาจต้องผ่อนคลายนโยบายการเงินนานขึ้น ขณะที่การเก็งกำไรเพิ่มขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในญี่ปุ่นและจีน
ทั้งนี้ ดัชนี Stoxx600 เพิ่มขึ้น 0.5% ด้านหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุุ่ง 1.1% ท่ามกลางตลลาดหุ้นภูมิภาคส่วนใหญ่ที่เคลื่อนไหวในแดนบวก
· อ้างอิงจากสำนักข่าวกรุงเทพธุรกิจ
-'หุ้นไทย' ปิดภาคเช้าลบ 0.06 จุด คาดภาคบ่ายพักฐาน
ดัชนีหุ้นไทยภาคเช้าปรับลง 0.06 จุด มาอยู่ที่ 1,650.27 จุด "บล.โกลเบล็ก" ชี้ นักลงทุนเวียนกลุ่มเล่น คาดภาคบ่ายพักฐานต่อเนื่อง หลังตอบรับข่าวบวกไปแล้ว
ความเคลื่อนไหวของดัชนีหุ้นไทยวันนี้ (6 ก.ย.2564) ปิดตลาดภาคเช้าที่ 1,650.27 จุด ลดลง 0.06 จุด หรือ 0.00% และมีมูลค่าการซื้อขายรวม 44,840.89 ล้านบาท ระหว่างทางทำจุดสูงสุดที่ 1,655.04 จุด และต่ำสุดที่ 1,646.19 จุด โดยดัชนีแกว่งบวกสลับลบตลอดภาคเช้า
ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยภาคบ่าย คาดดัชนีจะพักฐานต่อเนื่อง หลังตอบรับข่าวบวกไปแล้วทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อที่ปรับตัวลงส่งผลให้ภาครัฐทยอยคลายล็อกดาวน์อย่างไรก็ตามการเมืองที่ทวีความเข้มข้นขึ้นยังเป็นปัจจัยกดดันต่อดัชนี ประเมินแนวรับ 1,640 จุด และแนวต้าน 1,658 จุด
· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
- BAY คาดกรอบเงินบาทสัปดาห์นี้ 32.30-32.80 ติดตามท่าทีธนาคารกลางยุโรป
กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) เผยมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทว่า ในสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 32.30-32.80 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดแข็งค่าเพียงเล็กน้อยที่ 32.62 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายในกรอบ 32.21-32.65 บาท/ดอลลาร์ เงินดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญส่วนใหญ่ ขณะที่ยูโรแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบกว่า 1 เดือน หลังข้อมูลบ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อและภาคการผลิตในยูโรโซนฟื้นตัว ส่วนผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรีย และประธานธนาคารกลางเยอรมนี แสดงความเห็นสนับสนุนการปรับทิศทางนโยบายการเงินจากระดับผ่อนคลายมากเป็นพิเศษ
นอกจากนี้ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนสิงหาคมของสหรัฐฯ ที่ต่ำกว่าคาดมาก กดดันค่าเงินดอลลาร์ช่วงท้ายสัปดาห์ อย่างไรก็ดี ค่าจ้างเฉลี่ยรายชั่วโมงที่ปรับตัวสูงเกินคาด ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯขยับขึ้นเล็กน้อย ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นและพันธบัตรไทย 9,870 ล้านบาท และ 17,916 ล้านบาท ตามลำดับ
- ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายสำนักการลงทุน ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ปริมาณเงินฝากในหลายประเทศรวมถึงในไทยเพิ่มขึ้นมากในช่วงสถานการณ์โควิด-19 โดยในไทยช่วงเดือน ก.พ.63 ซึ่งโควิดระบาดระลอกแรก จนถึงข้อมูล ณ สิ้นเดือน มิ.ย.64 มีปริมาณเงินฝากในระบบธนาคารพาณิชย์ของไทยเพิ่มขึ้นมากถึง 1.6 ล้านล้านบาท โดยส่วนใหญ่กว่า 91% มาจากจำนวนเงินฝากในบัญชีขนาดใหญ่มากกว่า 1 ล้านบาทขึ้นไป
- "พิพัฒน์" เตรียมชง ศบค.อนุมัติเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบไม่กักตัว เริ่มต้น 15 ม.ค.2565 รอหลังสิ้นปีเพื่อให้คนไทยทั้งประเทศจะได้รับวัคซีนครบ 70% เผยการเปิดกรุงเทพฯ รับต่างชาติต้องเลื่อนไปเป็นเดือน พ.ย. ขณะที่ "เราเที่ยวด้วยกัน-ทัวร์ทั่วไทย" จะเริ่ม ต.ค.ก่อนเปิดให้คนไทยเที่ยวอิสระทั่วประเทศ พ.ย.นี้ ด้านภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ 2 เดือนต่างชาติมา 26,400คน สร้างรายได้ 1,634 ล้านบาท