• สรุปข่าวราคาทองคำ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 10 กันยายน 2564

    10 กันยายน 2564 | Gold News

ทองขึ้น ท่ามกลางความเสี่ยงด้านการเติบโตทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น แต่ภาพรวมรายสัปดาห์ยังอยู่แดนลบ

 

·         ราคาทองคำฟื้นตัวเหนือระดับ 1,800 เหรียญ โดยได้รับแรงหนุนจากกระแสคาดการณ์เกี่ยวกับการที่เฟดจะยังคงดอกเบี้ยไว้ระดับต่ำเพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านการเติบโตทางเศรษฐกิจ

 

·         แต่ภาพรวมค่าเงินดอลลาร์ยังคงแข็งค่า ขณะที่นักลงทุนพยายามประเมินช่วงเวลาในการทำ Tapering QE ของเฟด จึงทำให้ภาพรวมทองคำรายสัปดาห์ปรับลดลง 

 

·         ราคาทองคำตลาดโลก +0.3% ที่ระดับ 1,800.40 เหรียญ ภาพรวมรายสัปดาห์ร่วงลง 1.4% ติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 5

 

·         สัญญาทองคำส่งมอบเดือนธ.ค. +0.1% ที่ระดับ 1,802.10 เหรียญ

 

·         หุ้นส่วนผู้จัดการของ SPI Asset Management ระบุว่า ราคาทองคำยังคงอยู่ในลักษณะ buy on dips เนื่องจากเฟดยังไม่ต้องเร่งรีบขึ้นอัตราดอกเบี้ย

 

·         "การเติบโตทางเศรษฐกิจยังคงเป็นปัญหาใหญ่สำหรับเฟด"

นักลงทุนทองคำให้ความสนใจไปยังสัญญาณของเฟดอย่างใกล้ชิด เนื่องจากทองคำแท่งมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นเมื่ออัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ

ขณะที่บางรายคิดว่าทองคำแท่งเป็นการป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ซึ่งได้รับแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่

และสัญญาณต่างๆ ผสมผสานกันไป โดยรายงานล่าสุดของเฟดระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯเดือนส.ค. ชะลอตัวลงเล็กน้อย”  แต่ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดจำนวนหนึ่งกล่าวว่า การเติบโตของการจ้างงานที่ชะลอตัวในเดือนส.ค.จะไม่ทำให้แผนการทำ Tapering QE ในปีนี้ลดลงไป

 

·         ทองคำกับศึกสำคัญแนว 1,800 เหรียญ แต่การผ่านไปไม่ได้ไม่ใช่ "สัญญาณที่ดี" สำหรับ Bullish




นักวิเคราะห์จาก FXStreet แนะนำว่า คืนนี้ นักลงทุนควรให้ความสำคัญต่อตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิตสหรัฐฯ (PPI) ที่อาจส่งผลบางส่วนต่อราคาในช่วงค่ำวันนี้ได้ ควบคู่กับติดตามการเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่อาจกระทบค่าเงินดอลลาร์เป็นสำคัญ

 

ประกอบกับความเชื่อมั่นในตลาดสินทรัพย์เสี่ยง ที่อาจมาช่วยสร้างโอกาสสำหรับการลงทุนในคืนวันศุกร์ ส่งท้ายสัปดาห์ได้

 

วิเคราะห์ราคาทองคำในทางเทคนิคสำหรับ "ระยะสั้น"



นักวิเคราะห์จาก FXStreet ยังระบุว่า ราคาทองคำยังมีการปรับขึ้น อย่างไม่มีเสถียรภาพบริเวณ 1,800 เหรียญ ดังนั้น นักลงทุนจึงควร "ระมัดระวัง" ต่อสถานการณ์การลงทุน โดยเฉพาะเทรดเดอร์ฝั่งกระทิง

 

ทั้งนี้ จึงแนะนำให้ตลาดใช้กลยุทธ์ Wait-and-See เพื่อรอดูราคากลับขึ้นเหนือระดับสำคัญอย่างมากบริเวณเส้น SMA ราย 200 วัน แถว 1,810 เหรียญให้ได้ ก่อนที่จะตัดสินใจดำเนินกลยุทธ์การลงทุนให้เป็นไปอย่างเหมาะสม เพราะบริเวณดังกล่าวดูจะเป็นจุดที่อาจเห็น "ทองคำขึ้นแรงกไปท้าทายระดับ 1,832 - 1,834 เหรียญ ได้"

 

รวมไปถึงอาจสร้างโอกาสให้ทองคำไปแตะ 1,853 เหรียญหาก Break ขึ้นไปไปด้วย และถ้าราคายังไปต่อได้อีก อาจเห็นราคากลับทดสอบแนวต้านระยะกลางที่ระดับ 1,868 - 1,870 เหรียญ

 

อย่างไรก็ดี ในทางกลับกัน หากทองคำดิ่งลงต่ำกว่า 1,784 - 1,782 เหรียญ มีโอกาสเห็นทองคำทดสอบแนวรับ 1,775 - 1,774 เหรียญได้  ซึ่งหากยืนไม่อยู่ มีโอกาสกระตุ้นให้เหล่าเทรดเดอร์ฝั่งหมี "เทขายทองคำและปิดสถานะ" จึงอาจยิ่งกดดันให้ทองคำกลับลงมาทดสอบ 1,750 เหรียญได้

 

โดยเฉพาะถ้าราคาไม่สามารถยืนเหนือ 1,750 เหรียญไปได้ ก็มีแนวโน้มที่จะเห็นทองคำร่วงต่อแตะ 1,729 - 1,728 เหรียญ ก่อนจะอ่อนตัวต่อมาที่ 1,700 เหรียญ

 

·         ราคาซิลเวอร์ +0.54% ที่ระดับ 24.20 เหรียญ ภาพรวมสัปดาห์นี้ร่วงลง 2%

·         ราคาแพลินัม +0.4% ที่ระดับ 981.19 เหรียญ ขณะที่ภาพรวมสัปดาห์นี้ร่วงลง 4.2% ซึ่งมากที่สุดนับตั้งแต่ต้นเดือนส.ค.ที่ผ่านมา


·         ราคาพลาเดียม +0.5% ที่ระดับ 2,189.33 เหรียญ ภาพรวมสัปดาห์นี้ร่วงลงกว่า 9%

 

·         CNBC รายงานมุมมองบรรดานักเศรษฐศาสตร์ "เตือน" การระบาดของ Covid-19 จะส่งผลกระทบต่อภาวะห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกเป็นเวลา 2 ปี

โดยเฉพาะในกลุ่มการขาดแคลนเซมิคอนดัคเตอร์ส ที่จะส่งผลกระทบต่อความสามารถของกลุ่มผู้บริโภคในการซื้อ "รถยนต์" , "สมาร์ทโฟน" รวมทั้ง "สินค้าอิเล็คโทนิคต่างๆ" แม้ว่าจะเห็นผลกระทบเพียงเล็กน้อยในเวลานี้

 

·         อดีตสมาชิกบอร์ดของเฟด มองว่า เฟด "ไม่ต้องการ" ปรับลดการเข้าซื้อพันธบัตรเร็วเกินไป

 

·         ONS เผยจีดีพีอังกฤษขยายตัวได้เพียง 0.1% ในเดือนก.ค.

 

·         การระบาด Delta Covid-19 สะท้อนภาพเศรษฐกิจอังกฤษดูจะได้รับผลกระทบในเดือนก.ค.

 

·         The  Poll ชี้ "บอริส จอห์นสัน" นายกรัฐมนตรีอังกฤษมีคะแนนนิยมดิ่งลงมากที่สุดนับตั้งแต่ช่วงเลือกตั้งในปี 2019

 

·         CNBC รายงาน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังเยอรมนี ถูกสอบสวนเรื่องทุจริตฟอกเงิน


·         ข้อมูลอุตสาหกรรมเปิดเผย ยอดขายรถยนต์ของจีนในเดือนส.ค.ลดลง 17.8% จากเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้า

 

·         คะแนนนิยมในตัว "ทาโร โคโนะ"  รัฐมนตรีกระทรวงวัคซีนญี่ปุ่นที่จะเข้าสู่ศึกชิงหัวหน้าพรรค LPD เป็นที่นิยมของประชาชน

 

·         ผลสำรวจจาก Reuters เผยว่า ยอดการส่งออกของญี่ปุ่นเดือนส.ค.มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 34.0% เมื่อเทียบจากปีก่อนหน้า ซึ่งเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6  เนื่องจากความต้องการสินค้าเครื่องจักรทั่วโลกที่แข็งแกร่ง และฐานการเปรียบเทียบกับการตกต่ำจากการระบาดของไวรัสในปีที่แล้ว

ขณะที่ราคาขายส่งเดือนส.ค.ของญี่ปุ่นคาดว่าจะอยู่ที่ระดับสูงสุดมากกว่า 10 ปี เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลกและค่าเงินเยนที่อ่อนค่า ขณะที่คำสั่งซื้อเครื่องจักรของบริษัทมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในเดือนก.ค.

 

·         บริษัท Toyota Motor ปรับลดเป้าหมายการผลิตประจำปีของบริษัทลง 300,000 คัน เนื่องจากการชะลอตัวของการผลิตที่โรงงานผลิตชิ้นส่วนที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโคโรนาในเวียดนามและมาเลเซีย ทำให้เกิดปัญหาการขาดแคลนชิปรถยนต์ทั่วโลก

 

·         ทางการเวียดนามวางแผนที่จะเปิดเกาะ Phu Quoc อีกครั้งสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในเดือนหน้า  ขณะที่กำลังมองหาแนวทางในการฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการ Lockdown ที่ยืดเยื้ออันเนื่องมาจากการระบาดของไวรัสโคโรนา

 

·         ยอดติดเชื้อ Covid-19 รายใหม่วันนี้ในออสเตรเลียพุ่งขึ้นเกือบ 2,000 รายจากสายพันธุ์ Delta


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com