• สรุปข่าวราคาทองคำ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 13 กันยายน 2564

    13 กันยายน 2564 | Gold News




· ราคาทองคำตลาดโลกปิดปรับตัวลดลงไป -0.2% ที่ระดับ 1,790.37 เหรียญ

· สัญญาทองคำส่งมอบเดือนธ.ค. ปิด -0.4% ที่ระดับ 1,792.1 เหรียญ


ราคาทองคำคืนวันศุกร์ปรับตัวลดลงท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับกรอบเวลาการทำ Tapering QE ของเฟด ที่ดูจะส่งผลให้นักลงทุนยังไม่ทำอะไรมากนัก ขณะที่ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นต่อเนื่องในสัปดาห์นี้ จึงกดดันให้ทองคำปิดสัปดาห์แดนลบครั้งแรกในรอบ 5 สัปดาห์


- ดอลลาร์ปิดแข็งค่าขึ้น 0.05% ที่ 92.57 จุด


- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ 10 ปี ปรับขึ้นอีก 0.041% ที่ระดับ 1.341% และยังปิดปรับขึ้นต่อเนื่อง 3 สัปดาห์ โดยถือเป็นการปรับขึ้นต่อเนื่องรายสัปดาห์ที่ยาวนานที่สุด นับตั้งแต่ที่เคยปิดขึ้นต่อเนื่อง 7 สัปดาห์ ในช่วงกลางเดือนมี.ค.


- ดัชนี PPI สหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งในเดือนส.ค. ส่งผลให้ภาพรวมรายปี ปรับขึ้นไปทำสูงสุดรอบเกือบ 11 ปี บ่งชี้ถึง “สภาวะเงินเฟ้อยังคงร้อนแรง” แต่มีแนวโน้มเข้าใกล้จุดพีคแล้ว

ดัชนี PPI เดือนส.ค. ขยายตัวได้ 0.7% ในเดือนที่ผ่านมา


ภาพรวมตลอด 1 ปี จะพบว่า ดัชนี PPI ขยายตัวได้รวดเร็วมากสุดแตะ 8.3% ส่งผลให้เดือนส.ค. เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ถือเป็นการขยายตัวได้มากที่สุดนับตั้งแต่พ.ย. ปี 2010

· หัวหน้านักกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์จาก TD Securities กล่าวว่า การรีบาวน์ในอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ดูจะส่งผลกระทบต่อกลุ่มนักลงทุนในกองทุนลุทำให้นักลงทุนทองคำมีการย้ายการถือครองสินทรัพย์ในตลาด


ขณะที่ข้อมูลดัชนี PPI ล่าสุดของสหรัฐฯ ดูจะส่งผลให้บรรดานักลงทุนเชื่อว่า เฟดอาจจะปรับลดท่าทีผ่อนคลายทางการเงินมากขึ้นและปูทางไปสู่การทำ Tapering QE ได้อยู่


· นักวิเคราะห์จาก Commerzbank ระบุว่า นักลงทุนในตลาดหลายราย “กำลังรอ” หาสัญญาณจากความไม่แน่นอนเรื่องการทำ Tapering QE ของเฟด


· ซิลเวอร์ปิด -0.9% ที่ 23.86 เหรียญ ขณะที่แพลทินัมปิด -1.9% ที่ 958.51 เหรียญ
ต่างก็ปิดแดนลบรายสัปดาห์

· พลาเดียมปิด -1.7% ที่ 2,142.12 เหรียญ ปิดสัปดาห์ที่แล้ว -11%


· นักวิเคราะห์จาก TD Securities ระบุว่า ความวิตกกังวลที่เพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับการผลิตรถยนต์ในจีนและที่ต่างๆ จากการที่โรงงานผลิตรถยนต์บางแห่งยังคงไม่สามารถกลับมาผลิตรถยนต์ได้จากการขาดแคลนชิปต่างๆ ดูจะส่งผลให้อุปสงค์เกี่ยวกับแพลทินัมและพลาเดียมลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา


· ส.ส. เดโมแครตของสหรัฐฯ ถูกคาดว่าจะทำการเสนอการปรับขึ้นภาษีบริษัทสู่ระดับ 26.5% (เดิม 21%) และการเพิ่มภาษีกลุ่มคนร่ำรวย 3% ที่มีรายได้สูงกว่า 5 ล้านเหรียญ

นอกจากนี้ สภาผู้แทนสหรัฐฯจะยังมีการพิจารณาขึ้นภาษีขั้นต่ำสำหรับบริษัทสหรัฐฯที่มีรายได้ในต่างประเทศจากระดับ 10.5% สู่ระดับ 16.5% ขณะที่สูงสุดอยู่ที่ 28.8% จากเดิม 23.8%


· ส.ส.สหรัฐฯ มีแผนจะปรับภาษีการซื้อหุ้นคืนให้อยู่สภาวะลอยตัว อันเป็นส่วนหนึ่งของร่างงบประมาณ 3.5 ล้านล้านเหรียญ ในส่วนของแผนการลงทุนภายในประเทศ ภายใต้ชื่อ "Stock Buyback Accountability Act"

เพื่อเป็นการเสริมสร้างกำลังใจให้แก่บริษัทขนาดใหญ่ในการลงทุนเพื่อพนักงานของบริษัทตนเอง แทนที่จะทำการเพิ่มคุณค่าให้กับผู้บริหารโดยการเพิ่มราคาหุ้นเพื่อการลงทุน


· “โจ แมนชิน” ส.ว.สหรัฐฯจากเดโมแครต กล่าวว่า ไม่มีทางจะเห็นการผ่านร่างกฎหมาย 3.5 ล้านล้านเหรียญได้ ภายใวน 27 ก.ย.


· กระทรวงการคลังสหรัฐฯ และภาคอุตสหากรรมทางการเงินกำลังหารือเรื่อง “StableCoins” ในเรื่องความเสี่ยงและผลประโยชน์ ท่ามกลางการเติบโตที่รวดเร็วของ Cryptocurrency


· ลอเร็ตต้า เมสเตอร์ ประธานเฟดสาขาเคฟแลนด์ หนุนเฟดเริ่มต้น Tapering QE ปีนี้ แม้ว่าจะเห็นรายงานจ้างงานส.ค. อ่อนแอ


· “เจอโรม โพเวลล์” ประธานเฟด และสมาชิกเฟดรายอื่นๆ จะมีการกล่าวถึงการฟื้นตัวจากการระบาดภายใน 24 ก.ย. นี้ หลังจบประชุม 21-22 ก.ย. ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของกำหนดการ “Fed Listens” ที่ตั้งขึ้นเมื่อปี 2019


· Reuters เผย ผลสำรวจความเชื่อมั่นประจำปีของ Lloyds Bank พบว่า ธนาคารส่วนใหญ่ ยังคงคาดหวังให้ กรุงลอนดอน ยังเป็นศูนย์กลางทางการเงินระดับสูงอยู่


· เศรษฐกิจรัสเซียขยายตัวได้ 10.5% เมื่อเทียบรายปีในไตรมาสที่ 2/2021 ถือว่าเป็นระดับที่แข็งแกร่งที่สุดตั้งแต่ปี 2000


· เกาหลีเหนือทำการทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกล (1,500 กม. (930 ไมล์)) ท่ามกลางภาวะการะเจรจากับสหรัฐฯที่ชะงักงัน


· IAEA เผย ข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านมีความหวังเพิ่มขึ้น จากการเจรจาครั้งใหม่กับสหรัฐฯ


· U.N. แสวงหาทุน 600 ล้านเหรียญ เพื่อหลีกเลี่ยงวิกฤตด้านมนุษยธรรมในอัฟกานิสถาน


· ตอลิบาน เผย สตรีชาวอัฟกานิสถานสามารถเรียนในมหาวิทยาลัยได้ แต่ต้องแยกชั้นเรียนกับผู้ชาย


· COVID-19 UPDATES:



ยอดติดเชื้อใหม่สะสมทั่วโลกล่าสุดอยู่ที่ 225.44 ล้านราย และเสียชีวิตรวมสะสมล่าสุดแตะ 4.64 ล้านราย


ขณะที่สถานการณ์ในไทย ช่วงวันหยุดที่ผ่านมาเริ่มทรงตัวไม่ถึง 16,000 ราย แต่ยอดติดเชื้อใหม่ยังคงเพิ่มสูงเป็นอันดับ 9 ของโลก

พบวันเสาร์ติดเชื้อ Covid-19 เพิ่ม 15,191 ราย เสียชีวิต 253 ราย
และเมื่อวานนี้ พบติดเชื้อเพิ่ม 14,029 ราย เสียชีวิต 180 ราย

สำหรับวันนี้ พบติดเชื้อใหม่เพิ่ม 16,304 ราย รวมสะสม 1.398 ล้านราย

เสียชีวิตใหม่เพิ่ม 132 ราย รวมสะสม 14,485 ราย

รายงานจากผู้จัดการออนไลน์ พบว่า ไทยอันดับ 2 อาเซียน ฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้ว 39 ล้านโดส อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 6.3 แสนโดสต่อวัน


· เงินบาทอ่อนรับดอลลาร์แข็งตลาดปิดรับความเสี่ยง

นักวิเคราะห์ประจำห้องค้าเงิน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 32.74 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าลงจากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ที่ระดับ 32.65 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากดอลลาร์แข็งค่า จากภาวะปิดรับความเสี่ยงของตลาด ท่ามกลางความกังวลแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจในช่วงหลังการระบาด COVID-19 จะชะลอตัวลงมากกว่าคาดการณ์

สำหรับสัปดาห์นี้ ตลาดจะรอลุ้นสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งมีโอกาสที่จะกระทบต่อการส่งสัญญาณปรับลดคิวอีของเฟดในการประชุมที่จะถึงนี้ในวันที่ 21-22 กันยายน นั้นเริ่มใกล้เข้ามา ซึ่งเป็นที่น่าสนใจว่า ในการประชุมครั้งนี้ เฟดจะมีมุมมองต่อแนวโน้มการฟื้นตัวเศรษฐกิจ รวมถึงแนวทางการปรับลดคิวอี

ทั้งนี้ คาดกรอบกรอบเงินบาทวันนี้จะอยู่ที่ระดับ 32.65-32.80 บาท/ดอลลาร์


· อ้างอิงจากประชาชาติธุรกิจ

- แบงก์ชี้ฟันด์โฟลว์เหวี่ยงแรง กดดันบาทผันผวน 32.85 บาทต่อดอลลาร์


· อ้างอิงจากกรุงเทพธุรกิจ

- นักกลยุทธ์ตลาดเงินและตลาดทุน “Krungthai Global Markets ธนาคารกรุงไทย” ได้ “จับทิศทางประชุม กนง. Cut or Hold” ข้อมูล ณ 9 ก.ย.2564 ดังนี้


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com