ความหวังเกี่ยวกับมาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจจากนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่นช่วยหนุนให้ดัชนี Nikkei พุ่งขึ้น 4.3% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และดัชนี Topix ทำสถิติสูงสุดในรอบ 30 ปีในวันศุกร์ที่ผ่านมา ก่อนจะปรับตัวลงในวันนี้
ดัชนี Nikkei -0.26%
ดัชนี Topix -0.25%
ดัชนี Kospi ของเกาหลีใต้ -0.26%
ดัชนี S&P/ASX 200 ออสเตรเลีย +0.19%
หุ้นของผู้ผลิตรถยนต์ Toyota และ Honda ร่วงลง 2.43% และ 1.72% ตามลำดับ หลัง Reuters รายงานว่า ทั้งสองบริษัทวิจารณ์แผนภาษีรถยนต์ไฟฟ้าของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของดีทรอยต์
ขณะที่มีรายงานเผย ส.ส.เดโมแครตของสหรัฐฯ ถูกคาดว่าจะทำการเสนอการปรับขึ้นภาษีบริษัทสู่ระดับ 26.5% (เดิม 21%) และการเพิ่มภาษีกลุ่มคนร่ำรวย 3% ที่มีรายได้สูงกว่า 5 ล้านเหรียญ ถึงแม้จะไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ก็อาจก่อให้เกิดการระมัดระวังการลงทุนของเหล่านักลงทุนได้
สิ่งที่เพิ่มความกังวลเกี่ยวกับการปราบปรามด้านกฎระเบียบของจีนคือต้องการยกเลิก Alipay แอพชำระเงินยอดนิยมที่เป็นเจ้าของโดย Ant Group ของ Jack Ma และสร้างแอพแยกต่างหากสำหรับธุรกิจสินเชื่อที่ทำกำไรสูงของบริษัท
ขณะที่หุ้นที่จดทะเบียนในฮ่องกงของ Alibaba ร่วงลง 4.47%
สัปดาห์นี้จีนเปิดเผยข้อมูลทางเศรษฐกิจจำนวนมาก ได้แก่
- ยอดการขายปลีก
- ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม
- ข้อมูลการลงทุนในประเทศ
ซึ่งนักวิเคราะห์กังวลว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัวลงอีกเป็นลำดับที่สองของโลก
หุ้นเทคโนโลยีของจีนอื่นๆ ก็ลดลงเช่นกัน โดย Tencent ตกลง 3.67% ในขณะที่ Meituan ร่วง 6.32% ดัชนี Hang Seng Tech ลดลง 2.83%
หุ้น Tencent -3.67%
หุ้น Meituan -6.32%
ดัชนี Hang Seng -1.98%
ดัชนี Hang Seng Tech -2.83%
ด้านตลาดหุ้นจีนเคลื่อนไหวผสมผสานกัน
ดัชนี Shanghai composite ปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย
ดัชนี Shenzhen component -0.507%
ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตาดหุ้นญี่ปุ่นร่วงลง 1.2% และดัชนีกลุ่ม blue chips ของจีน -0.5% ท่ามกลางตลาดส่วนใหญ่ในภูมิภาคที่เคลื่อนไหวในแดนลบ
· หุ้นเทคโนโลยีจีนที่เกี่ยวข้องกับ EV ร่วงลงจากความกังวลต่อผุ้กำหนดนโยบายในจีน ที่มองว่ากลุ่มผู้ผลิตในจีน "มีมากเกินไป" - หุ้นกลุ่มนักพัฒนาอสังหาอย่าง Soho China ดิ่งลง 33% จากความล้มเหลวในการทำข้อตกลง กับ Blackstone Group ที่จะไม่ซื้อหุ้นของบริษัท Soho ต่อสำหรับราคาเสนอซื้อ 3 พันล้านเหรียญ
ทั้งนี้ ดัชนี Stoxx600 เพิ่มขึ้น 0.4% ด้านหุ้นกลุ่มน้ำมันและก๊าซพุ่งขึ้น 1.1% ขณะที่หุ้นกลุ่มทรัพยากรพื้นฐานลดลง 0.3%
· ดัชนีฟิวเจอร์สตลาดหุ้นสหรัฐฯเคลื่อนไหวในแดนบวก
ดัชนี Dow Jones Industrial เพิ่มขึ้น 153 จุด
ดัชนี S&P 500 futures และ Nasdaq 100 futures ต่างเคลื่อนไหวในแดนบวก
· อ้างอิงจากสำนักข่าวประชาติธุรกิจ
- หุ้นไทยวันนี้ (13 ก.ย.) ปิดตลาดภาคเช้า -4.17 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,631 จุด มีมูลค่าซื้อขายรวมทั้งสิ้น 47,621 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด ได้แก่ EA U และ PTT
การซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหุ้นไทยวันนี้ (13 ก.ย.) ดัชนี SET Index ปิดตลาดภาคเช้า อยู่ที่ระดับ 1,631.18 จุด ปรับลง -4.17 จุด หรือคิดเป็น -0.25% มีมูลค่าซื้อขายรวมทั้งสิ้น 47,621 ล้านบาท เคลื่อนไหวในกรอบ 1,627.29-1,642.63 จุด โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด ได้แก่ EA U และ PTT
ดัชนี SET50 ล่าสุดปรับลง -4.18 จุด คิดเป็น -0.42% อยู่ที่ 981.11 จุด มูลค่าซื้อขายรวม 19,982 ล้านบาท เทียบเป็นราว 41.96% ของ SET ทั้งหมด
- ไฟเซอร์ 2 ล้านโดส ถึงไทย 29 ก.ย. เด็ก 12 ปีขึ้นไป ฉีดกลุ่มแรก
รมว.สาธารณสุข เปิดเผยว่า วันที่ 29 กันยายน 2564 จะมีวัคซีนไฟเซอร์เข้ามาไทย จำนวน 2 ล้านโดส และจะทยอยส่งมอบจนครบ 30 ล้านโดส ดังนั้นช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคม จะมีวัคซีนเข้ามาจำนวนมากพอ ขณะที่จำนวนการฉีดวัคซีนสามารถฉีดได้มากกว่า 9 แสนโดสต่อวัน หากมีวัคซีนเข้ามาเพียงพอ
· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
- รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในช่วงที่เหลือของเดือนก.ย.64 กระทรวงการคลังมีแผนจะเร่งกู้เงินในส่วนของ พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท เพิ่มเติมอีก 72,313 ล้านบาท เพื่อให้มีวงเงินกู้ครบถ้วนตามกรอบโครงการที่ได้รับการเห็นชอบจาก ครม. วงเงิน 980,826 ล้านบาท หรือคิดเป็น 98% ของวงเงินกู้ 1 ล้านล้านบาท เนื่องจากในเดือน ก.ย.นี้ จะเป็นเดือนสุดท้ายที่คลังมีอำนาจกู้เงินได้ตามที่กฎหมายระบุไว้ ส่วนการกู้เงินตาม พ.ร.ก.กู้เงินฉบับใหม่ 5 แสนล้านบาท คลังได้เริ่มทยอยกู้ไปแล้ว 7.4 หมื่นล้านบาท
- ส.อ.ท.หนุนรัฐเร่งใช้เงิน 4 แสนล้าน กระตุ้น ศก. ปลายปีนี้ พร้อมแนะให้เตรียมวงเงินกู้เพิ่มเติมไว้อีก 1 ล้านล้าน อัดฉีดต่อเนื่องปี 65 เพื่อการฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว อย่าปล่อยให้เครื่องยนต์ดับๆ ติดๆ จะทำให้การฟื้นตัวล่าช้า หากปรับ ครม.ขอทีม ศก. มืออาชีพ