MTS Help Center

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงปรับตัวลดลง จากกลุ่มนักลงทุนที่มีท่าทีระมัดระวังต่อการลงทุนในเรื่องของ
- ยอดติดเชื้อ Covid-19 ที่เพิ่มสูงขึ้น
- ประชุมเฟดสัปดาห์นี้
- ประวัติศาสตร์การเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นสหรัฐฯเดือนก.ย. ที่ค่อนข้าง "ย่ำแย่"

ดัชนี Dow Jones ปิด -166.44 จุด หรือ -0.5% ที่ 34,584.88 จุด โดยระหว่างวันปรับตัวลดลงไปเกือบ -2.9%

ดัชนี S&P 500 ปิด -0.9% ที่ระดับ 4,432.99 จุด

ดัชนี Nasdaq Composite ปิด -0.9% ที่ระดับ 15,043.97 จุด

ประวัติศาสตร์การลงทุนในเดือนก.ย. สะท้อนว่าดัชนี S&P500 โดยเฉลี่ยมักปรับลงไป -0.4% และเป็นเดือนที่มีการคเลื่อนไหวย่ำแย่ที่สุด ข๘ณะที่วันศุกร์ตลาดเผชิญแรงเทขายจากกระแสดังกล่าว ทางด้านความผันผวนบางส่วนในตลาดระหว่งเดือนก.ย. นี้ บ่อยครั้งมักเกิดเหตุการณ์ที่เรียกว่า Quadruple Witching ซึ่งเป็นช่วงที่จะเกิดสินค้าในตลาดมีวันหมดอายุพร้อมกัน ได้แก่ stock index futures, stock index options, stock options และ single-stock futures.

สำหรับเดือน ก.ย. นี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯค่อนข้างเคลื่อนไหวในแดนลบ

- ดัชนี Dow Jones ปรับลงแล้ว -2.2%

- ดัชนี S&P 500 ปรับลงไปแล้วเกือบ -2% และอยู่ห่างจาก All-Time High -2.5%

- ดัชนี Nasdaq ปรับลง -1.4%

อย่างไรก็ดี เฟดจะมีกำหนดประชุมระหว่างวันที่ 21 - 22 ก.ย. และตลาดน่าจะรอสัญญาณจากเฟดในคืนวันพุธว่าจะมีสัญญาณบ่งชี้เรื่องการชะลอการซื้อพันธบัตรรายเดือนที่วงเงิน 1.2 แสนล้านเหรียญหรือไม่

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลดลงจากความกังวลที่มากขึ้นเกี่ยวกับความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจโลก ขณะทีหุ้นบริษัท Anglo American ทรุด -8%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลดลงในคืนวันศุกร์ จากนักลงทุนประเมินโอกาสเห็นเศรษฐกิจชะลอตัว

ดัชนี Stoxx 600 ปิดปรับลง -1% หลังจากช่วงต้นตลาดรีบาวน์ไป +0.7%
หุ้นกลุ่มการท่องเที่ยวและการเดินทางปรับขึ้น +1.1%
หุ้นกลุ่มทรัพยากรพื้นฐาน -4%

ภาพรวมดัชนี Stoxx 600 ปิดสัปดาห์ -0.1% ร่วงลงต่อ 3 สัปดาห์ติด

ทั้งนี้ นักลงทุนในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ค่อนข้างตอบรับกับข้อมูลเงินเฟ้อที่ดูจะอ่อนตัวลดลงเป็นการชั่วคราว และตลาดรอกรอบเวลาทำ Tapering QE ของเฟด ขณะที่ยอดค้าปลีกจีนอ่อนแอ บ่งชี้ถึงสภาวะเศรษฐกิจโลกมีสัญญาณชะลอตัว

ที่มา: CNBC