• ตลาดจับตา 5 ประเด็นสำคัญ กับประชุมเฟด

    22 กันยายน 2564 | Economic News


ตลาดจับตา 5 ประเด็นสำคัญ กับประชุมเฟด

กลุ่มนักลงทุนค่อนข้างให้ความสนใจไปยัง "ประชุมเฟด" สัปดาห์นี้ ว่าจะมีแนวทางการปรับนโยบายไตรมาสที่ 4 ส่งท้ายปีนี้อย่างเหมาะสมเช่นไร โดยที่ภาพรวมตลาดมีการคาดการณ์ที่จะเริ่มต้นเห็นการลดการเข้าซื้อสินทรัพย์ของเฟด ซึ่งจะถือเป็น "ก้าวแรก" ในการปรับนโยบายการเงินสู่สภาวะปกติ


แม้นักลงทุนจะมีกระแสคาดการณ์เกี่ยวกับเฟดจะเริ่มทำการ Tapering QE ปีนี้ แต่ตลาดก็ยังมีความไม่แน่นอนเป็นอย่างสูงว่าเฟดจะประกาศลำดับการลด QE อย่างไร

ขณะเดียวกันตลาดก็ดูจะสนใจ 5 เรื่องสำคัญในการประชุมคืนนี้ ดังต่อไปนี้

 

1) การลดการซื้อพันธบัตร - จะเกิดขึ้นเร็วแค่ไหนในตอนนี้

สมาชิกเฟดส่วนใหญ่ประสานเสียงหนุนการเริ่มลดวงเงินซื้อพันธบัตรปีนี้ ตราบเท่าที่ตลาดแรงงานยังฟื้นตัวได้ต่อ

มีความเป็นไปได้ที่จะเห็นเฟดประกาศลดวงเงินซื้อพันธบัตรรายเดือน ที่ปัจจุบันซื้อที่ 1.2 แสนล้านเหรียญ/เดือน

เฟดอาจ "ลด" วงเงินเร็วสุด พ.ย. นี้ หลังสัญญาณเศรษฐกิจล่าสุดลดโอกาสการดำเนินการในเดือนนี้

 

กลุ่มนักลงทุนรอ "สัญญาณใหม่" ว่าเมื่อไรเฟดจะเริ่มต้นลด QE ประกอบกับภาพรวมเฟดอาจต้องรอคอยการฟื้นตัวของข้อมูลจ้างงานสหรัฐฯด้วย ซึ่งเร็วสุดก่อนการประชุมพ.ย. เฟดจะได้เห็นข้อมูลจ้างงานเดือนต.ค. ที่จะประกาศช่วงต้นเดือนต.ค. ดังนั้น เฟดจึงอาจเริ่มตัดสินใจได้ก่อนธ.ค.นี้



2) โอกาสการขึ้นดอกเบี้ย

เฟดมีท่าทีระมัดระวังต่อการแยกกรอบการดำเนินการระหว่าง "ลดการซื้อพันธบัตร" ออกจาก "การขึ้นดอกเบี้ย" ครั้งแรกนับตั้งแต่ มี.ค. ปี 2020

หากการจ้างงานยังคงเดินหน้าฟื้นตัวต่อ และเงินเฟ้อยังสุงกว่าเป้าหมาย เงื่อนไขที่เฟดจะทำ Tapering QE ก็อาจเกิดขึ้นกับการขึ้นดอกเบี้ยได้

 

ในการประชุมเดือนมิ.ย. เฟดเคยเผยคาดการณ์ที่จะขึ้นดอกเบี้ย 2 ครั้งในปี 2023

 

Fed Dot Plot

เฟดอาจไม่เปลี่ยนแปลงคาดการณ์ในการประชุมวาระนี้

อาจเห็นเฟดกล่าวถึงคาดการณ์ดอกเบี้ยปี 2024

 

"กรณีที่เฟดมีท่าที Hawkish มากกว่าที่คาดการณ์ไว้"

อาจส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับขึ้นอย่างผันผวน แต่หากมีการกำหนดกรอบเวลาการขึ้นดอกเบี้ย ก็อาจเห็นอัตราผลตอบแทนพันบัตรมีการปรับตัวสูง



3) เงินเฟ้อจะถูกพิสูจน์ว่าปรับขึ้นชั่วคราวเมื่อไร?

เฟดน่าจะรอจนกว่าจะเห็นข้อมูลเศรษฐกิจฟื้นตัวก่อนทำการคุมเข้มทางการเงิน หรือจนกว่าจะเห็นแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่บังคับให้เฟดต้องดำเนินการเข้าควบคุม

การอ่อนตัวของเงินเฟ้อ อาจหนุนให้ถ้อยแถลงของเฟด บ่งชี้ถึง "หลักฐาน" พิสูจน์การขึ้นชั่วคราวของเงินเฟ้อ

 

อย่างไรก็ดี ยังมีความไม่ชัดเจนว่า ปัญหาห่วงโซ่อุปทานจะช่วยหนุนให้เงินเฟ้อโดยรวมอ่อนตัวลงได้หรือไม่ แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่มาตรการเข้มงวดสกัด Covid-19 ระลอกใหม่ และความเป็นไปได้ของการระบาดจะส่งผลเร่งต่อเงินเฟ้อ


"คาดการณ์เศรษฐกิจของเฟดคืนนี้"

มีแนวโน้มจะแสดงให้เห็นกรอบคาดการณ์เงินเฟ้อ ท่ามกลางสมาชิกเฟดที่อาจมีความเห็นแตกต่างกันในเรื่องความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อในการเพิ่มขึ้นหรือลดลง

 

4) คาดการณ์เศรษฐกิจของเฟด

คาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐฯ จากบรรดาสมาชิกเฟด จะรวมถึงข้อมูลการเติบโตและการจ้างงาน รวมไปถึง Dot Plot ที่มักเผยในรอบการประชุมเดือนมี.ค. มิ.ย. ก.ย. และ ธ.ค.

นักลงทุนบางราย กังวลว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจเผชิญกับ Stagflation  ซึ่งจะเห็นแรงกดดันเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น แต่เศรษฐกิจประสบภาวะชะลอตัว 



5) สัดส่วนของการปรับลดพันธบัตรและ MBS

นับตั้งแต่ที่เกิดการระบาดของไวรัส Covid-19 เฟดก็มีการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาล 8 หมื่นล้านเหรียญ/เดือน และซื้อตราสารหนี้ MBS 4 หมื่นล้านเหรียญ/เดือน รวมเป็น 1.2 แสนล้านเหรียญ/เดือน

 

นายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด ได้กล่าวไว้เมื่อเดือนก.ค. โดยคาดว่าเฟดจะทยอยลดการเข้าซื้อพันธบัตรและ MBS ไปพร้อมๆกัน

ณ ขณะนี้ นักลงทุนกำลังสนใจว่าจะมีสัญญาณใดๆ เกี่ยวกับการดำเนินนโยบายของเฟด หรือมีการปรับทบทวนการตัดสินใจอย่างไร



ที่มา: Reuters


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com