น้ำมันดิบทำสูงสุดในรอบ 2 เดือน
ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นในเมื่อวานนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้นและสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯที่ปรับลง เนื่องจากการผลิตยังคงถูกจำกัดในอ่าวเม็กซิโกหลังจากเกิดพายุเฮอริเคน 2 ครั้ง
ราคาน้ำมันดิบ Brent พุ่งขึ้น 1.39% ปิดที่ 77.25 เหรียญ/บาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 1.48% ปิดที่ 73.3 เหรียญ/ต่อบาร์เรล
โดยทั้งสองชนิดพุ่งขึ้น 2.5% ในวันพุธที่ผ่านมา หลังจากข้อมูลจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ เปิดเผยว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ในสัปดาห์ที่ถึงวันที่ 17 ก.ย. ลดลง 3.5 ล้านบาร์เรลเป็น 414 ล้าน ซึ่งเป็นยอดรวมต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2018
สมาชิกโอเปกและพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ประสบปัญหาในความพยายามเพิ่มกำลังผลิต เนื่องจากไม่มีการลงทุนมานานหลายปีหรือการลงทุนล่าช้าสืบเนื่องจากงานซ่อมบำรุงระหว่างการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา
รัฐมนตรีพลังงานของอิรักเผยว่า โอเปกพลัสกำลังหาทางคงระดับราคาน้ำมันไว้ใกล้ๆบริเวณ 70 เหรียญ/บาร์เรล ท่ามกลางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และจะมีการประชุมหารือกันในวันที่ 4 ต.ค.นี้
ทั้งนี้ ตลาดน้ำมันยังได้รับแรงหนุนจากการกลับมาของความต้องการสินทรัพย์เสี่ยง เนื่องจากคลายความกังวลเกี่ยวกับการผิดนัดชำระของบริษัท China Evergrande