· ราคาทองคำปรับตัวขึ้นโดยได้รับแรงหนุนจาก
- การอ่อนค่าของดอลลาร์
- การปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ 10 ปี
- นักลงทุนรอฟังถ้อยแถลงสมาชิกเฟดสัปดาห์นี้
- ตลาดสนใจกรอบเวลาขึ้นดอกเบี้ย
· ราคาทองคำตลาดโลกปรับขึ้น +0.4% ที่ 1,757 เหรียญ
· สัญญาทองคำปรับขึ้น +0.4% ที่ 1,758.50 เหรียญ
· นักวิเคราะห์จาก IG Market กล่าวว่า ราคาทองคำมีแนวโน้มจะขยับขึ้นได้ต่อและมีโอกาสรีบาวน์กลับหลังไปแถว 1,750 เหรียญ ท่ามกลางนักลงทุนที่รอดูว่าสมาชิกเฟดจะกล่าวอะไรถึง "Dot Plot"
· ขณะที่สมาชิกเฟดส่วนใหญ่มีการกล่าวถ้อยแถลงสัปดาห์นี้ ประกอบด้วย "นายเจอโรม โพเวลล์" ประธานเฟด ที่กล่าวถ้อยแถลงสัปดาห์นี้เช่นกัน รวมถึงความเสี่ยงที่จะเพิ่มขึ้นทางด้านเงินฟ้อนั้นมีหรือไม่ กับโอกาสการขึ้นดอกเบี้ยช่วงครึ่งปีแรกของปี 2022
· อย่างไรก็ดี กลุ่มนักงทุนมีความสนใจต่อการชำระหนี้สินของบริษัท China Evergrande Group ต่อเนื่อง สัปดาห์นี้
· ซิลเวอร์ปรับขึ้น +0.9% ที่ 22.62 เหรียญ
· แพลทินัมปรับขึ้น +0.8% ที่ 990.04 เหรียญ
· พลาเดียมปรับขึ้น +0.6% ที่ 1,983.89 เหรียญ
· แรงซื้อตามการ Panic หนุนราคาพลังงานพุ่งกว่า 90% ในหลายเมืองใหญ่ของอังกฤษ
· ธนาคารกลางจีนมีการอัดฉีดเม็ดเงินเข้ามา 1 แสนล้านหยวน (1.547 หมื่นล้านเหรียญ) เข้าสู่ระบบการเงินในวันนี้ และมีการอัดฉีดเพิ่มไปในสัปดาห์ที่แล้ว 3.2 แสนล้านเหรียญ มากสุดตั้งแต่ม.ค.
· ตลาดแลกเปลี่ยน Cryptocurrency เร่งลดสัมพันธ์กับผู้ใช้งานจีน หลังมีการออกกฎปราบปรามรอบใหม่
· บรรดานักวิเคราะห์ ระบุว่า วิกฤตด้านพลังงานของจีนจะเริ่มต้นกดดันแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจ อันเป็นผลจากภาวะตึงตัวทางด้านอุปทานถ่านหินและมาตรการความเข้มงวดด้านการลดมลพิษ ที่จะส่งผลให้อุตสาหกรรมทั่วประเทศและหลายๆภูมิภาคหดตัวกระทบการเติบโตทางเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ จีนมีการประกาศจะทำการลดการใช้พลังงานมากถึง 3% ในปี 2021 ท่ามกลางการประชุมเพื่อบรรลุเป้าหมายด้านภูมิอากาศและหลายๆจังหวัดมีการยกระดับมาตรการเข้มงวดมากขึ้นในการจำกัดมลพิษเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา หรือเพิ่มขึ้น 10 จาก 30 แห่งในประเทศเพื่อบรรลุเป้าหมายด้านพลังงานครึ่งปีแรก
· นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าบีโอเจ ยังคงมุ่งเน้นต่อการรับมือกับ Covid-19 ที่ส่งผลให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นไม่แน่นอน ท่ามกลางเงินฟ้อที่อ่อนตัว
ทั้งนี้ อุปสงค์ภายในประเทศญี่ปุ่น เผชิญกับการชะลอตัว และบริษัทต่างๆ ได้รับผลกระทบจากราคาวัตถุดิบที่ปรับตัวขึ้น จึงส่งผลต่อค่าใช้จ่ายของกลุ่มผู้บริโภค ที่อาจทำให้เงินเฟ้อกลับมาปรับตัวสูงขึ้นได้อีกครั้ง
ขณะที่การส่งออกและผลผลิตต่างๆมีการขยายตัวในอัตราชะลอตัวลงในระยะสั้นๆ อันเป็นผลจากโรงงานต่างๆในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีการปิดทำการลง รวมทั้งการระบาดของไวรัสโคโรนากระทบต่อบรรดากลุ่มผู้ผลิตของญี่ปุ่น