MTS Help Center

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10ปี เพิ่มขึ้น 0.25% ติดต่อกัน 5 วัน ทำการ ที่บริเวณ 1.5513% โดยแตะระดับสูงสุดตั้งแต่กลางเดือนมิ.ย.ของวันก่อนหน้า ขณะที่ดัชนีดอลลาร์อยู่ที่ 93.752 จุด

ท่ามกลางข้อสงสัยที่กำลังเกิดขึ้นอีกครั้ง เกี่ยวกับกรอบเวลาที่เฟดจะทำการ Tapering QE และความไม่แน่นอนจากฝ่ายบริหารของนายไบเดนเกี่ยวกับติดการเจรจาร่างกฎหมายจำกัดเพดานหนี้และระดมเม็ดเงินให้ภาครัฐบาล ท่ามกลางกำหนดเส้นตายในการเลี่ยง Shutdown และการผิดนัดชำระหนี้ที่ใกล้เข้ามา โดยร่างกฎหมายเพดานหนี้ฉบับปัจจุบันจะหมดอายุในวันที่ 30 ก.ย.นี้

ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่น -1.43%

ดัชนี AXJO ของออสเตรเลีย -1.5%

ดัชนี KS11 ของเกาหลีใต้ -2.06%

ดัชนี HSI ฮ่องกง -1.2%

ดัชนีกลุ่ม Blue chips (.CSI300) -1.1%

รวมทั้ง ดัชนี Nikkei ปิดร่วง 2.35% เนื่องจากพรรครัฐบาลของประเทศโหวตเลือกผู้นำคนใหม่ ซึ่งเกือบจะแน่นอนว่าจะกลายเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปก่อนการเลือกตั้งทั่วไปภายในไม่กี่สัปดาห์

 

·         Evergrande เตียมขายหุ้นของธนาคาร Shengjing Bank มูลค่ารวม 1.5 พันล้านเหรียญ เพื่อระดมทุน หลังบริษัทมีแนวโน้มผิดนัดชำระหนี้ที่จะครบกำหนดในเดือนนี้

สำหรับวันนี้ตลาดให้ความสนใจไปยัง

ถ้อยแถลงของนายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด

ถ้อยแถลงของนางคริสติน ลาการ์จ ประธานอีซีบี

ถ้อยแถลงของนายฮารุฮิโกะ คูโรดะ ประธานบีโอเจ

ถ้อยแถลงของนายแอนดรูว์ เบลีย์ ประธานบีโออี

·         ดัชนีฟิวเจอร์สตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้น หลังจากดัชนี Nasdaq ร่วงลงทำระดับรายวันแย่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่กดดันให้ตลาดหุ้นร่วงลง

ดัชนี Dow Jones Industrial เพิ่มขึ้น 108 จุด

ดัชนี S&P 500 และดัชนี Nasdaq 100 futures ต่างเคลื่อนไหวในแดนบวก

 

·         อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- ตลาดหุ้นไทยปิดเช้าลบ 0.30 จุด ดีกว่า ตปท. กังวลศก.สหรัฐเป็นหลัก-หุ้นเปิดเมืองหนุน

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,616.20 จุด ลดลง 0.30 จุด (-0.02%) มูลค่าการซื้อขายราว 51,774 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยทำระดับสูงสุด 1,618.99 จุด และระดับต่ำสุด 1,604.46 จุด

 

- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยความคืบหน้ามาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดย ณ สิ้นเดือน ก.ค. 64 มีลูกหนี้ได้รับความช่วยเหลือภายใต้มาตรการทั้งสิ้น 5.12 ล้านบัญชี คิดเป็นยอดหนี้ 3.35 ล้านล้านบาท แบ่งเป็น ลูกหนี้ของสถาบันการเงินและ non-banks 2 ล้านบัญชี ยอดหนี้ 2.1 ล้านล้านบาท และลูกหนี้ SFIs 3.12 ล้านบัญชี ยอดหนี้ 1.25 ล้านล้านบาท ทั้งนี้ เมื่อรวมลูกหนี้ของสถาบันการเงินและ non-banks ที่เข้ามาตรการเร่งด่วนพักชำระหนี้ คิดเป็นมากกว่า 3 ล้านบัญชี

 

·         อ้างอิงจากสำนักข่าวประชาติธุรกิจ

- กนง.มีมติคงอัตราดอกเบี้ย 0.5% ต่อปี เผยเศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ 0.7% และปี 65 อยู่ที่ 3.9% แต่มีความไม่แน่นอนสูง

นายทิตนันทิ์ มัลลิกะมาส ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และในฐานะเลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการฯ มีมติเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ 0.50% ต่อปี โดยประเมินเศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้เมื่อเดือนสิงหาคม โดยอยู่ที่ระดับ 0.7% ในปี 64 และขยายตัว 3.9% ในปี 65 แต่ยังคงมีความไม่แน่นอนสูง

อย่างไรก็ดี ปัจจัยบวกมาจากการเร่งตัวการฉีดวัคซีนที่ดีขึ้น และมาตรการควบคุมการระบาดโควิด-19 ที่ผ่อนคลายจากเดิม ประกอบการมาตรการภาครัฐควรเร่วฟื้นตัวเศรษฐกิจ และมาตรการทางการเงินมีความคืบหน้าไปอย่างมาก โดยยังคงต้องเร่งการกระจายสภาพคล่องและปรับโครงสร้างหนี้ต่อเนื่อง ซึ่งน่าจะได้ผลมากกว่าการลดดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ

·         อ้างอิงจากสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

- ททท. วางแผนออก`TAT Coin` กระตุ้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว หลังเปิดประเทศ

ททท. วางแผนออก ‘TAT Coin’ โทเคนเพื่อการท่องเที่ยว พร้อมร่วมมือกับ Bitkub เปิดแพลตฟอร์มใหม่ กระตุ้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในไทยหลังเปิดประเทศ เบื้องต้นกำลังหารือกับ ก.ล.ต. เพื่อดูความเป็นไปได้ของโครงการ