• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 6 ตุลาคม 2564

    6 ตุลาคม 2564 | SET News


·         น้ำมันทำสูงสุดในรอบหลายปี - หุ้นเอเชียร่วงลง

 

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลง หลังการรีบาวน์ของตลาดหุ้นสหรัฐฯและตลาดยุโรป เนื่องจากเหล่านักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับการผิดนัดชำระหนี้ของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่อาจเกิดขึ้น ขณะที่น้ำมันทรงไหวใกล้ระดับสูงสุดในรอบหลายปี

โดยการเพิ่มขึ้นของน้ำมันได้รับแรงหนุนจากความกังวลเกี่ยวกับการจัดหาพลังงาน และกลุ่ม OPEC+ คงแผนเพิ่มกำลังการผลิตตามแผนที่วางไว้แทนที่จะเพิ่มปริมาณขึ้นอีก

ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2014 แต่ปิดลดลง 0.09% ที่ระดับ 78.87 เหรียญ/บาร์เรล

ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับลดลง 0.08% มาอยู่ที่ 82.49 เหรียญ/บาร์เรล โดยแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปีเมื่อวานนี้

ราคาที่สูงขึ้นอาจคุกคามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกเพิ่มขึ้น ท่ามกลางการกลับมาเปิดเศรษฐกิจใหม่อีกครั้งจากอัตราการฉีดวัคซีนที่เพิ่มสูงขึ้น



ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่น -0.6%

ดัชนี Nikkei -0.78%

ดัชนี Hang Seng -1%

ดัชนี Kospi -0.9%

หุ้นออสเตรเลีย -0.45%

ดัชนี S&P 500 e-minis -0.44%

 

เหล่าเทรดเดอร์ กล่าวว่า ตลาดมีความกระวนกระวายใจเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีนและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นทั่วโลก

ขณะที่ตลาดจีนยังคงปิดทำการในวันหยุดนักขัตฤกษ์ และหุ้นของบริษัท China Evergrande ของจีน ถูกระงับการซื้อขายในวันจันทร์

ทั้งนี้ ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับชะตากรรมของบริษัท Evergrande ส่งผลกระทบต่อพันธบัตรของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในจีน รวมถึงหุ้นและพันธบัตรที่จดทะเบียนในฮ่องกงภายหลังการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือครั้งใหม่

 

·         หุ้นอินโดนีเซีย-ฟิลลิปปินส์ทำสูงสุดใหม่ ตามการรีบาวน์ของตลาดหุ้นสหรัฐฯ

 

·         ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯที่พุ่งขึ้น โดยความกังวลเรื่องเงินเฟ้อยังคงส่งผลกระทบต่อตลาดโลกอย่างต่อเนื่อง


ดัชนี Stoxx600-1.5% ด้านหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี -2.4% ท่ามกลางตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่ที่เคลื่อนไหวในแดนลบ

ทั้งนี้ เหล่านักลงทุนยังคงให้ความสนใจไปยังข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐฯในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณเพิ่มเติมเกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจของประเทศ รวมทั้ง รายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย.ในวันศุกร์นี้

 

·         อ้างอิงจากสำนักข่าวประชาติธุรกิจ

หุ้นไทยวันนี้ (06 ต.ค.) ปิดตลาดภาคช้า+7 จุด ซื้อขายกว่า 5.2 หมื่นล้าน

การซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหุ้นไทยวันนี้ (06 ต.ค.) ดัชนี SET Index ปิดตลาดภาคเช้า อยู่ที่ระดับ 1,631.80 จุด ปรับขึ้น +7.56 จุด หรือคิดเป็น +0.47% มีมูลค่าซื้อขายรวมทั้งสิ้น 52,176 ล้านบาท เคลื่อนไหวในกรอบ 1,620.06-1,631.81 จุด โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด ได้แก่ BANPU TRUE และ GUNKUL

ดัชนี SET50 ล่าสุดปรับขึ้น +3.47 จุด หรือคิดเป็น +0.35% อยู่ที่ 982.33 จุด มูลค่าซื้อ-ขายรวม อยู่ที่ 25,563 ล้านบาท คิดเป็นราว 48.99% ของมูลค่าซื้อ-ขายในตลาด SET

 

ธุรกิจหวั่นต้นทุนพุ่งท้ายปี บาทอ่อน-น้ำมัน” ทุบซ้ำเศรษฐกิจ

ธุรกิจกุมขมับ ปัญหาเงินบาทอ่อนค่า-น้ำมันแพง ทำต้นทุนพุ่ง นายกสมาคมค้าทองคำโอด ต้นเหตุทำราคาแพงยอดนำเข้าลดวูบ จับตาเหล็กทำกระป๋องราคาพุ่ง ส่วนค่ายรถยนต์นำเข้าครวญตอนนี้ขายแทบไม่มีกำไร โดน เด้งทั้งอัตราแลกเปลี่ยน-ภาษี ส่วนสินค้าไอที-ไอโฟน 13 แม้ต้นทุนจะเพิ่ม แต่โชคดีที่ดีมานด์มีมาก คนซื้ออยากซื้อ ขณะที่ ส.อ.ท.ชี้ปัจจัยค่าเงินหนุนส่งออกสดใส โกยรายได้ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ

 

·         อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

ศบค.ชุดเล็กเตรียมเสนอมาตรการผ่อนคลายเพิ่มเติมใน 2 สัปดาห์ข้างหน้า

พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษก ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) กล่าวว่า ที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศปก.ศบค.) เตรียมเสนอ ศบค.ชุดใหญ่พิจารณามาตรการผ่อนคลายเพิ่มเติมในอีก สัปดาห์ข้างหน้า หลังตัวเลขผู้ติดเชื้อในจังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) ตัวเลขเริ่มลดลงต่ำกว่า 100 ราย เช่น อ่างทอง สิงห์บุรี เป็นต้น ขณะที่จังหวัดท่องเที่ยวนั้นถือว่าทางระบบสาธารณสุขยังรับไหว


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com