· หุ้นเอเชียเพิ่มสูงขึ้น จากความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงที่แข็งแกร่ง หลังราคาน้ำมันปรับตัวลง
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของตลาดหุ้นสหรัฐฯ หลังจากที่ส.ว.สหรัฐฯมีสัญญาณ ประนีประนอมเพดานหนี้ชั่วคราวร่วมกันได้ รวมทั้งการที่รัสเซียให้ความมั่นใจกับยุโรปเกี่ยวกับการจัดหาก๊าซธรรมชาติทำให้ตลาดผันผวนชะลอตัวลง
ราคาน้ำมันร่วงลงจากระดับสูงสุดในรอบหลายปีในวันก่อนหน้า โดยเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ตลาดหุ้นในสัปดาห์นี้เผชิญแรงเทขายออกมา ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯและสกุลเงินหลักทรงตัวท่ามกลางบรรยากาศที่สงบลง
ความกังวลเกี่ยวกับประเด็นสหรัฐฯจะผิดนัดชำระหนี้ ได้กดดันตฃาดหุ้นพร้อมกับราคาพลังงานที่สูงขึ้น
สำหรับปัจจัยสำคัญที่นักลงทุนทั่วโลกให้ความสนใจคือ ข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯในวันศุกร์ โดยนักลงทุนคาดการณ์ว่าตัวเลขที่ออกมาจะบ่งชี้ว่าเฟดจะเริ่มลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ในการประชุมเดือนพ.ย.ที่จะถึงนี้
ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่น +1.25%
ดัชนี Kospi +1.3%
ดัชนี ASX200 +0.64
ดัชนี Hang Seng +2%
ดัชนี Nikkei +0.89%
ดัชนี S&P 500 e-minis +0.42%
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นจีนยังคงเป็นทำการเนื่องในวันหยุด
· หุ้นของ Chinese Estates Holdings ซึ่งเป็นอดีตผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ China Evergrande พุ่งขึ้นถึง 31% ในวันนี้ หลังจากที่ได้ประกาศข้อเสนอที่จะให้เป็นบริษัทเอกชนในราคา 1.91 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง (245 ล้านเหรียญ)
· นักวิเคราะห์ของ Bank of America คาดว่า กลุ่มยานยนต์ของอินเดียจะเติบโตได้ดีในอีก 12 เดือนข้างหน้า และแนะนำหุ้น 2 ตัวที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นมากกว่า 10%
· รัฐสภาอินโดนีเซีย "ผ่าน" ร่างกฎหมายภาษียกเครื่อง จ่อขึ้นภาษี VAT ปีหน้า
· ตลาดหุ้นยุโรปรีบาวน์ ซึ่งเป็นสัปดาห์ที่แกว่งตัวอย่างรุนแรงจากความเชื่อมั่นและการซื้อขายในตลาดโลก
ตลาดยุโรปยังคงมีแนวโน้มการซื้อขายที่ค่อนข้างผันผวนในเดือนต.ค.
ขณะที่เมื่อวานนี้ลักษณะการซื้อขายในตลาดยุโรปเคลื่อนไหวแดนลบ เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ พุ่งขึ้นในช่วงสั้นๆ โดยความกังวลเรื่องเงินเฟ้อส่งผลกระทบต่อตลาดโลก
แต่ก็กลับมาเคลื่อนไหวในแดนบวกหลังจากผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปี ปรับร่วงลงจากระดับสูงสุดในรอบกว่า 3 เดือน และหุ้นสหรัฐฯฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดเนื่องจากนักลงทุนกลับเข้าซื้อหุ้นเทคโนโลยี
ข้อมูลทางเศรษฐกิจที่ต้องติดตามฝั่งยุโรป
- ผลประกอบการจากบริษัท Ladbrokes
- ตัวเลขการว่างงานของสวิสเดือนก.ย.
- ข้อมูลราคาบ้านในอังกฤษจาก Halifax
- ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค.ของเยอรมนี
- บัญชีเดินสะพัดและตัวเลขดุลการค้าเดือนส.ค.ของฝรั่งเศส
- ยอดค้าปลีกเดือนส.ค.ของอิตาลี
· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
- ดัชนีเชื่อมั่นหอการค้าฯ ก.ย.ลดลงทุกภาค โควิดกดกำลังซื้อซึมตัวต่อเนื่อง
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษา ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย ประจำเดือนก.ย.64 (TCC-CI) ซึ่งเป็นการสำรวจความคิดเห็นของภาคธุรกิจและหอการค้าทั่วประเทศ จำนวน 369 ตัวอย่าง ในระหว่างวันที่ 23-30 ก.ย.64 โดยดัชนีฯ อยู่ที่ระดับ 19.4 ลดลงจากระดับ 19.8 ในเดือนส.ค. 64 ต่ำสุดในรอบ 33 เดือน ซึ่งดัชนีฯ ปรับตัวลดลงในทุกภาค และลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7
สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย ของกรุงเทพฯ และปริมณฑล ดัชนีฯ อยู่ที่ 18.9 ลดลงจากเดือน ส.ค.ที่ 19.4, ภาคกลาง ดัชนีฯ อยู่ที่ 20.3 ลดลงจากเดือนส.ค.ที่ 20.8, ภาคตะวันออก ดัชนีฯ อยู่ที่ 23.2 ลดลงจากเดือนส.ค.ที่ 23.7, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ดัชนีฯ อยู่ที่ 19.5 ลดลงจากเดือนส.ค.ที่ 19.8, ภาคเหนือ ดัชนีฯ อยู่ที่ 18.9 ลดลงจากเดือนส.ค.ที่ 19.3 และภาคใต้ ดัชนีฯ อยู่ที่ 16.5 ลดลงจากเดือนส.ค.ที่ 16.9
- ตลาดหุ้นไทยปิดเช้าพุ่ง 14.74 จุด คลายกังวลปัญหาเพดานหนี้สหรัฐ-ยาใหม่รักษาโควิดหนุน
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,634.22 จุด เพิ่มขึ้น 14.74 จุด (+0.91%) มูลค่าการซื้อขายราว 59,044 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้น โดยทำระดับสูงสุด 1,637.54 จุด และระดับต่ำสุด 1,624.59 จุด
· อ้างอิงจากสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
- OR เร่งขยายลงทุนธุรกิจ Non-oil และดิจิทัล หลังเตรียมงบไว้ 5 ปี 7.5 หมื่นลบ. ลั่นลงทุนสตาร์ทอัพเฟสแรก 10-15 บริษัท ประเดิมใส่เงิน 1-2แห่ง ในสิ้นปีนี้ พร้อมคาด Q4/64 ยอดขายน้ำมันพุ่ง รับไฮซีซั่นท่องเที่ยว-คลายล็อกดาวน์