ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้น เนืองจากตลาดหุ้นจีนกลับมาซื้อขายหลังจากปิดทำการเนื่องในวันหยุด 1 สัปดาห์ ขณะที่เหล่านักลงทุนกำลังให้ความสนใจไปยังข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯที่จะประกาศในคืนนี้ ซึ่งจะบ่งชี้สัญญาณใหม่เกี่ยวกับกรอบเวลาการทำ Tapering QE ของเฟด
ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่น +0.5% หลัง +2.1% เมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นระดับรายวันที่เพิ่มขึ้นมากสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.ที่ผ่านมา
ดัชนี Nikkei +1.8%
ดัชนีกลุ่ม Blue chips +0.56% เนื่องจากกลับมาเปิดการซื้อขายหลังจากหยุดในวันชาติ
ดัชนี Hang Seng ซึ่งเปิดทำการมาตลอดทั้งสัปดาห์ +1%
ดัชนี ASX200 +0.84% ได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ท่ามกลางราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวสูงขึ้น
จุดสนใจยังคงอยู่ที่ประเด็นตลาดอสังหาริมทรัพย์เนื่องจากนักลงทุนรอดูว่าหน่วยงานกำกับดูแลจะดำเนินการเพื่อควบคุมปัญหาหนี้สินของบริษัท China Evergrande Group หรือไม่
ดัชนีฟิวเจอร์สตลาดหุ้นสหรัฐฯ +0.16% หลังจากที่วุฒิสภาสหรัฐฯมีมติผ่านร่างกฎหมายเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลสหรัฐชั่วคราวไปจนถึงวันที่ 3 ธ.ค.นี้ ช่วยให้สหรัฐเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ที่จะถึงกำหนดในอีก 11 วันข้างหน้า
โดยร่างกฎหมายนี้จะเพิ่มเพดานหนี้อีก 480,000 ล้านเหรียญ จากเพดานหนี้เดิมที่อยู่ที่ 28.4 ล้านล้านเหรียญ
ขณะที่เหล่านักลงทุนยังจับตาดูข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯในเดือนก.ย.ที่จะประกาศในวันนี้
ทั้งนี้ การซื้อขายตลาดเอเชีย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้น 1.6 จุด ที่ระดับ 1.58887% โดยทำสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.ที่ระดับ 1.594%
· หุ้นของบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ยักษ์ใหญ่อย่าง Samsung เพิ่มขึ้นหลังจากที่บริษัทกล่าวว่ากำไรไตรมาส 3 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 28%
· หุ้นอินเดียปิดบวก รับธนาคารกลางอินเดียคงดอกเบี้ย-เสริมความมั่นใจสภาพคล่องในการสนับสนุนเศรษฐกิจ
ดัชนี NSE Nifty 50 ปิด +0.72% ที่ 17,918.90 จุด
ดัชนี S&P BSE Sensex ปิด +0.80% ที่ 60,126.87 จุด
· ตลาดหุ้นยุโรปเคลื่อนไหวค่อนข้างทรงตัว หลังจากการปรับตัวสูงขึ้นของตลาดหุ้นทั่วโลก ท่ามกลางเหล่านักลงทุนที่กำลังให้ความสนใจไปยังการประกาศข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯในคืนนี้
ทั้งนี้ ดัชนี Stoxx600 เปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ด้านหุ้นกลุ่มน้ำมันและก๊าซ +0.9% ขณะที่หุ้นกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม -0.3%
· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
- ตลาดหุ้นไทยปิดเช้าบวก 7.72 จุด ตามตลาดต่างประเทศตอบรับสหรัฐขยายเพดานหนี้-น้ำมัน
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,641.44 จุด เพิ่มขึ้น 7.72 จุด (+0.47%) มูลค่าการซื้อขายราว 55,712 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาค โดยทำระดับสูงสุด 1,644.16 จุด และระดับต่ำสุด 1,636.06 จุด
- นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน เปิดเผยในงานสัมมนาบางกอกโพสต์ ฟอรั่ม 2021 ว่ารัฐบาลได้พยายามหาทางบรรเทาผลกระทบให้กับประชาชนและผู้ประกอบการรายเล็กๆ ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 เต็มที่ และยังคงหาทางดูแลในระยะต่อไปด้วย ขณะที่มาตรการผ่อนคลายกิจกรรมทางเศรษฐกิจ รัฐบาลจะทยอยปลดล็อกออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยขอดูสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดให้แน่ใจก่อน ซึ่งถ้าเกิดมีการควบคุมที่ดีแล้ว การผ่อนคลายมาตรการจะช่วยนำไปสู่การใช้ชีวิตประจำวันอย่างปกติได้โดยเร็ว และมีผลให้การขับเคลื่อนเศรษฐกิจทำได้สะดวกขึ้นเช่นกัน
- ททท.ประเมินตัวเลขนักท่องเที่ยวปี 2564 ถือเป็นจุดต่ำสุดของการท่องเที่ยวไทย จากเป้า 3 ล้านคน ต่างชาติน่าจะเหลือแค่ 1 ล้านคน ส่วนคนไทยเที่ยวในประเทศจากเป้า 120 ล้านคน/ครั้ง เหลือ 60 ล้านคน/ครั้ง รายได้รวมอยู่ที่ 328,758 ล้านบาท เมื่อเทียบกับก่อนเกิดโควิด เคยมีรายได้แตะ 3 ล้านล้านบาท หวังฟื้นแบบ V Shape
- สำนักวิจัยธนาคารซีไอเอ็มบีไทย ระบุ ประเทศไทยกำลังเผชิญหน้าเข้าสู่ภาวะดอกเบี้ยต่ำ และจะเป็นแบบนี้ไปอีกระยะหนึ่ง ซึ่งสวนทางกับตลาดการเงินทั่วโลก เนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังคงมีความเสี่ยงที่จะโตช้ากว่าที่คาดไว้