• สรุปข่าวราคาทองคำ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 13 ตุลาคม 2564

    13 ตุลาคม 2564 | Gold News

ทองขึ้นจากตลาดกังวลเงินเฟ้อ

ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น โดยได้รับอานิงส์จาก
ความวิตกกังวลเรื่องเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น
- วิกฤตพลังงานทั่วโลกจ่อคุกคามแนวโน้มเศรฐกิจ และหนุนเงินเฟ้อ
- ความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงลดน้อยลง
ความต้องการสินทรัพย์ Safe-Haven เพิ่มมากขึ้น

·         ราคาทองคำตลาดโลกปิด +0.3% ที่ 1,759.31 เหรียญ

·         สัญญาทองคำส่งมอบเดือนธ.ค. ปิด +0.2% ที่ 1,759.3 เหรียญ

 

·         ผู้อำนวยการฝ่ายการซื้อขายจาก High Ridge Futures กล่าวว่า แรงกดดันเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นดูจะเพียงพอให้ทองคำปรับตัวขึ้นได้จากสภาวะโดยรอบที่ไม่สดใส ท่ามกลางโอกาสเฟดที่จะค่อยๆถอนนโยบาย QE แต่ภาพรวมดอลลาร์ที่ยังอยู่ในทิศทางแข็งค่า ยังถือเป็นปัจจัยที่กดดันราคาทองคำ

 

·         นักวิเคราะห์บางรายมองว่า สภาวะ “Stagflation” ที่กำลังเป็นกระแสตลาดเวลานี้ดูจะมีมากขึ้น และอาจเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ราคาทองคำสิ้นปีไปถึง 1,900 เหรียญได้ โดยที่เฟดน่าจะยังคงดอกเบี้ยระดับต่ำต่อไป แม้จะเห็นการเริ่มทำ Tapering QE ก็ตาม

 

·         สำหรับวันนี้ ตลาดสนใจรายงานประชุมเฟดระหว่าง 21-22 ก.ย. ที่จะประกาศในคืนนี้ รวมไปถึงข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ

 

 

·         ซิลเวอร์ปิด -0.2% ที่ระดับ 22.52 เหรียญ

 

·         แพลทินัมปิด +0.1% ที่ระดับ 1,009.37 เหรียญ

 

·         พลาเดียมปิด -2.5% ที่ระดับ 2,058.71 เหรียญ

 

·         ดอลลาร์ทำสูงสุดรอบ 1 ปี ท่ามกลางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯขึ้น ตลาดรอข้อมูลเงินเฟ้อ จากความกังวลเรื่องการเพิ่มขึ้นของราคาพลังงานที่หนุนนักลงทุนถือดอลลาร์ในฐานะ Safe-Haven

ดัชนีดอลลาร์ทำสูงสุด 94.563 จุด ถือเป็นสูงสุดใหม่รอบ 1 ปี ทะลุระดับที่เคยทำช่วงปลายเดือนก.ย. 2020 ด้วย

นอกจากนี้ แรงกดดันเงินเฟ้อดูจะทำให้เฟดอาจต้องเร่งดำเนินการคุมเข้มทางการเงินเร็วกว่าที่คาด หนุนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯระยะสั้น 2 ปีทำสูงสุดรอบ 18 เดือน ขณะที่ตลาดยังรอเงินเฟ้อ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตร 2 ปี ปรับขึ้นไปที่ 0.36% ซึ่งเป็นสูงสุดตั้งแต่ 25 มี.ค. 2020 ก่อนจะปิดตลาดบริเวณ 0.350%

ดอยซ์แบงก์ (Deutsche Bank) เผยผลสำรวจความเชื่อมั่นตลาด ที่มองว่าจะยังเห็นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ยังอยู่ในระดับสูง

ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลง -0.23% ที่ 1.1525 ดอลลาร์/ยูโร ถือเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่ก.ค. ปี 2020 เหตุจากราคาพลังงานเพิ่ม ก่อให้เกิดความก้งวลเงินเฟ้อสร้างผลกระทบต่อแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจ

 

·         อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ 10 ปี ปรับตัวลงก่อนข้อมูลเงินเฟ้อ โดยปิดต่ำกว่า 1.6% ลงมาที่ 1.57%

ขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ 30 ปี ปรับขึ้น 2.085%

 

·         สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ผ่านร่างกฎหมายเพดานหนี้ชั่วคราว 4.80 แสนล้านเหรียญ ภายในธ.ค. นี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์หน้

 

·         แนนซี เพโลซี” โฆษกสภาล่าง ชี้ เดโมแครตอาจต้องทำการปรับลดแผนเศรษฐกิจไบเดนในการผลักดันการผ่านร่างในสภาคองเกรส

 

·         Bank of America ชี้ ตลาดต่างๆดูจะมีการใช้กลยุทธ์ “Wait-and-See” ก่อนทราบรายงานผลประกอบการบริษัทไตรมาส ประกอบกับนักลงทุนรอข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐฯ

บรรดานักเศรษฐศาสตร์ คาดว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคจะปรับตัวสูงขึ้นได้ที่ 0.3% ในเดือนก.ย. และเมื่อเทียบรายปี คาดจะโตได้ 5.3%

นอกจากนี้ จะมีการประกาศรายงานประชุมเฟดเดือนก.ย.  โดยบรรดานักลงทุนอาจมีการตอบรับกับความเป็นไปได้ที่เฟดจะตอกย้ำเรื่องการก้าวออกจากนโยบายการเงิน

 

·         สมาชิกเฟด 3 ราย หนุนโอกาสเฟดทำ Tapering QE เดือนพ.ย. นี้

“นายริชาร์ด แคลริดา” รองประธานเฟด เชื่อว่าจะเห็น “ความคืบหน้าอย่างยั่งยืน” ที่เป็นมาตรฐานสำหรับเงินเฟ้อและการจ้างงาน พร้อมย้ำโอกาสทำ Tapering QE ในเร็วๆนี้ว่าจะเกิดขึ้นแน่ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะจบการดำเนินการดังกล่าวในช่วง “กลางปีหน้า”

 

“นายราฟาเอล บอสติก” ประธานเฟดสาขาแอตแลนต้า หนุนการเริ่มต้นทำ Tapering QE เดือนพ.ย. นี้ โดยมองว่าจะเห็นความคืบหน้าที่เฟดคาดหวังในเร็วๆนี้ ซึ่งเป็นไปในสถานการณ์ที่ดีขึ้น

 

“นายเจมส์ บุลลาร์ด” ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ ชีเ การทำ Tapering QE ควรเริ่มอย่างรวดเร็ว หากเงินเฟ้อกลายเป็นปัญหาใหญ่ และการขึ้นดอกเบี้ยจำเป็นต้องเกิดขึ้น

ขณะที่ปัจจุบัน สมาชิกเฟด มีการคำนึงถึงโอกาส 50-50 เรื่องแรงกดดันเงินเฟ้อว่าเป็นเพียงชั่วคราวหรือไม่ และเฟดพร้อมที่จะดำเนินการเพื่อรับมือ

 

·         เฟดประกาศ แรนดัล ควอเลส” พ้นจากตำแหน่งรองประธานเฟดด้านกำกับดูแลกฎระเบียบภาคธนาคารตามวาระ แต่จะยังเป็นหนึ่งในฝ่ายบริหารของเฟด

 

·         กระทรวงแรงงานสหรัฐฯเผย ข้อมูลการลาออกจากตำแหน่งงานเดือนส.ค. สูงสุดเป็นประวัติการณ์ 4.3 ล้านตำแหน่ง นำโดยกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและค้าปลีก

จำนวนการลาออกในขณะที่ประชาชนสหรัฐฯกว่า 10 ล้านคนได้รับการฉีดวัคซีนครบ อาจยังตอกย้ำสภาวะเงินเฟ้อระดับสูง ท่ามกลางค่าแรงที่ยังเพิ่มขึ้นแต่ปราศจากแรงงาน


การเปิดรับสมัครตำแหน่งงานใหม่ในสหรัฐฯลดลง 659,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 10.4 ล้านตำแหน่งในเดือน ส.ค. ขณะที่ข้อมูลการเปิดรับสมัครเดือนก.ค. ปรับทบทวนเพิ่มมาที่  11.1 ล้านตำแหน่ง


·         รัฐมนตรีคลังฯอังกฤษ เรียกร้อง G7 ทำงานร่วมกันในการแก้ไขปัญหาห่วงโซ่อุปทา

 

·         สถานการณ์ Covid-19

 


ติดเชื้อสะสมทั่วโลกแตะ 239.44 ล้านราย เสียชีวิตสะสม 4.88 ล้านราย ท่ามกลางยอดรักษาหายที่เพิ่มสะสมรวม 216.78 ล้านราย

 



ยอดติดเชื้อในไทยวันนี้เพิ่มขึ้น 10,064 ราย และเสียชีวิตเพิ่ม 82 ราย  ขณะที่ยอดฉีดวัคซีนในไทยสูงถึง 60 ล้านโดสแล้ว โดยไทยรั้งอันดับ 2 ของอาเซียน

ภาพรวมทั่วโลกฉีดวัคซีนแล้ว 6,505 ล้านโดสในจำนวน 205 ประเทศและเขตปกครองต่างๆ







บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com