• สรุปข่าวราคาทองคำ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 13 ตุลาคม 2564

    13 ตุลาคม 2564 | Gold News

·         Gold Price Forecast: ทองทรงตัวแถว $1760 ตลาดรอเงินเฟ้อ-รายงานประชุมเฟด

ราคาทองคำปรับขึ้นต่อเนื่อง 2 วันทำการในวันนี้ แม้จะไม่มีปัจจัยใหม่อะไร โดยภาพรวมทองคำก็ยังคงแกว่งตัวในกรอบ และปัจจุบันซื้อขายได้เหนือ 1,760 เหรียญ  ท่ามกลางดอลลาร์ที่อ่อนตัวลง จึงยิ่งหนุนให้เกิดการถือครองสินค้าโภคภัณฑ์เพิ่ม


ขณะที่นักลงทุนยังคง "วิตกกังวล" ต่อการปรับขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่จะเป็นตัวหนุนเงินเฟ้อสูงขึ้น และเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก


ตลาดดูเหมือนจะรับข่าวการเริ่มต้นทำ Tapering QE ของเฟดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าจะเกิดขึ้นช่วงราว พ.ย. และเริ่มมี "คาดการณ์เรื่องการขึ้นดอกเบี้ย" ที่อาจเกิดขึ้นภายในปี 2022 หากความเสี่ยงเงินเฟ้อกลายมาอยู่ในระดับสูงมากยิ่งขึ้น อันจะเห็นได้จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ระยะยาวที่อ่อนตัวลงจำกัดการแข็งค่าของดอลลาร์


นักลงทุนสนใจข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐฯ (CPI) คืนนี้ 19.30น.  ว่าจะเป็นตัวบ่งชี้ให้เฟดรีบปรับนโยบายการเงินสู่ภาวะปกติหรือไม่

รายงานประชุมเฟดคืนนี้เวลาประมาณ ตี 1 (ตามเวลาไทย)

หากข้อมูล CPI สหรัฐฯออกมาแข็งแกร่ง หรือ เฟดมีท่าทีคุมเข้มทางการเงินมากยิ่งขึ้น ก็อาจหนุนให้ดอลลาร์ยิ่งแข็งค่า และอาจบ่งชี้ถึงทิศทางที่ชัดเจนของทองคำได้มากขึ้นด้วย ขณะี่ความเชื่อมั่นสินทรัพย์เสี่ยงและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯที่สูงขึ้น อาจกระทบต่อตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ระยะสั้นๆ

 

 

ระดับสำคัญทางเทคนิค

นักวิเคราะห์ทางเทคนิคจาก FXStreet กล่าวว่า ทองคำ ณ ปัจจุบันดูจะแกว่งตัวด้านบนแถว 1,769 - 1,770 เหรียญ ที่กลายมาเป็นแนวต้านที่แข็งแกร่ง ซึ่างหากผ่านไปได้มีโอกาสเห็นทองคำขยับไปใกล้ 1,783-1,784 เหรียญ และอาจมีลุ้นกลับ 1,800 เหรียญ

 

ในทางกลับกัน หากทองคำหลุดต่ำกว่า 1,750 เหรียญ ที่ถือเป็น "แนวรับสำคัญ" ก็มีโอกาสเผชิญแรงเทขายกลับเข้ามากดดันทองคำมีโอกาสลงทดสอบต่ำสุดของเดือนก.ย. บริเวณ 1,722 หรือ 1,721 เหรียญได้ รวมทั้งอาจเห็นทองคำกลับทดสอบ 1,700 เหรียญ ถ้าหากหลุดต่ำกว่าระดับนี้ลงมาอาจเห็นต่ำสุดรายเดือนบริเวณ 1,687 เหรียญ

 

 ·         Credit Suisse ชี้ ทองคำอาจดิ่งลงทดสอบ $1565-1560 หาก Break หลุด $1691 หรือ $1677 ลงมา

นักกลยุทธ์จาก Credit Suisse ระบุว่า ทองคำยังเคลื่อนไหว "สะสมพลัง" ในกรอบระหว่างเดือนก.ค. - ส.ค. โดยมีจุดสูงสุดบริเวณ 1,832 - 1,834 เหรียญ และกรอบล่าง 1,691 - 1,677 เหรียญ

 

ดังนั้น หากทองคำฝ่า 1,834 หรือ 1,849 เหรียญไปได้ มีโอกาสเห็นทิศทงทองคำฟื้นตัวอย่างมาก

อย่างไรก็ดี หากทองคำหลุดต่ำกว่า 1,691 หรือ 1,677 เหรียญลงมา มีโอกาสเห็นทองทดสอบแนวรับแรก 1,620 หรือ 1,615 เหรียญ ก่อนจะกลับลงไปหา 1,565 และ 1,560 เหรียญได้


สรุปได้ว่า การที่ทองคำจะเป็นขาขึ้น จำเป็นต้องยืนเหนือ 1,834 หรือ 1,849 เหรียญให้ได้ เพื่อเปูทางให้ทองฟื้นตัวได้เพื่อไปถึง 1,917 เหรียญ



·         ดอลลาร์อ่อนค่าจากสูงสุดรอบ 1 ปีก่อทราบข้อมูลเงินเฟ้อและรายงานเฟด เพื่อหาสัญญาณว่าเฟดจะทำการ Tapering QE และมีสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยหรือไม่

ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลง -0.18% ที่ 94.358 จุด หลังไปทำสูงสุดใหม่รอบ 1 ปี และเป็นการแตะ 94.563 จุด เป็นครั้งแรกตั้งแต่ช่วงปลายก.ย. ปี 2020

ค่าเงินเยนแข็งค่า 0.13% แตะ 113.465 เยน/ดอลลาร์ หลังอ่อนค่าไปทำสูงสุดรอบ 3 ปีที่ระดับ 113.785 เยน/ดอลลาร์

ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้น 0.18% ที่ 1.1551 ดอลลาร์/ยูโร หลังเมื่อวานี้ทำต่ำสุดรอบเกือบ 15 เดือนบริเวณ 1.1522 ดอลลาร์/ยูโร

สมาชิกเฟดส่วนใหญ่ ยังมองถึงแรงกดดันเงินเฟ้อเวลานี้ ว่าจะเป็นการปรับขึ้นเพียงชั่วคราว

สำหรับคืนนี้ต้องติดตามถ้อยแถลงของ

นางลาเอล เบรนาร์ด ผู้ว่าการเฟด

นางมิเชล โบแมน ผู้ว่าการเฟด

รวมมถึง สมาชิกเฟดรายอื่นๆ ที่จะกล่าวถ้อยแถลงคืนนี้ ควบคู่กับรายงานประชุมเฟดเดือนก.ย. ช่วงเวลาตี 1 (ตามเวลาไทย)


·         หยวนแข็งค่ารับส่งออกจีนขยายตัวเกินคาดในเดือนก.ย.

ค่าเงินหยวนในตลาดแลกเปลี่ยนโลก เปิดที่ 6.4509 หยวน/ดอลลาร์ ก่อนที่จะแข็งค่าลงมาบริเวณ 6.4456 หยวน/ดอลลาร์

 

·         เกินดุลการค้าจีนกับสหรัฐฯเดือนก.ย. พุ่งขึ้นทำสูงสุดรายเดือนเป็นประวัติการณ์

รายงาน CNBC ระบุว่า ยอดนำเข้าจีนในรูปค่าเงินดอลลาร์ปรับขึ้น 17.6% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบกับปีก่อน คิดเป็นมูลค่า 2.4 แสนล้านเหรียญ แต่ก็น้อยกว่าที่ผลสำรวจ Reuters คาดไว้ 20%

ภาพรวมยอดส่งออกจีนก.ย. ขยายตัวได้ดีเกินคาด ขณะที่โดยรวมนั้นยอดนำเข้าชะลอตัวลง

ภาพรวมยอดเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯเพิ่มขึ้นทำสูงสุดรายเดือนครั้งประวัติการณ์ มูลค่า 4.2 หมื่นล้านเหรียญ  โดยที่ส่งออกสูงขึ้น 30% เมื่อเทียบปีก่อน และนำเข้าเพิ่มขึ้นแต่ยังต่ำกว่า 17%


·         ยอดนำเข้าทองแดงของจีนร่วงลงต่อเนื่องเดือนที่ 5 เหตุขนส่งเดินทางล่าช้า


·         ความกังวลเกี่ยวกับปัญหา Evergrande กระทบสเปรดหรือผลตอบแทนไปทั่วจีนมากสุดครั้งประวัติศาสตร์

Reuters รายงานว่า ผลกระทบดังกล่าวที่อาจเกิดขึ้นจากวิกฤตหนี้ของ China Evergrande ดูจะทำให้กระทบต่อค่าสเปรดที่ให้ผลตอบแทนสูงขึ้นของจีนทำสติสูงสุดครั้งประวัติศาสตร์ หลังบริษัทดังกล่าวพลาดกำหนดเส้นต่ายในการจ่ายชำระดอกเบี้ยพันธบัตรอีกครั้งเมื่อวานนี้


·         บรรดาผู้ถือหุ้นและพันธบัตรของ China Evergrande ได้รับผลกระทบอีกครั้งจากพลาดการชำระค่างวดพันธบัตรครั้งที่ 3 ท่ามกลางสัญญาณเตือนโอกาสการผิดนัดชำระหนี้ที่มีโอกาสสูงขึ้นอีก

 

·         จีน เรียก ยุทธวิธีการฝึกซ้อมกำลังทางทหารเป็นการเคลื่อนไหวที่มุ่งเป้าไปยังการส่งเสริมและป้องกันสันติภาพ รวมถึงเสถียรภาพ


·         จีดีพีอังกฤษโตได้ 0.4% เดือนส.ค. หลังปรับลงในเดือนก.ค. ท่ามกลางกระแสบีโออีเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย

 

·         อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเยอรมนี ปรับขึ้นใกล้สูงสุดรอบ 5 เดือนก่อนทราบข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐฯ  โดยพันธบัตรรัฐบาลเยอรมนี 10 ปี ทำสูงสุด -0.085% ซึ่งเป็นสูงสุดตั้งแต่ช่วงปลายพ.ค.


·         ออสเตรเลีย เผย แผนงบขาดดุลจะอยู่ที่ 2.3% ในปีหน้า

 

·         Expedia เผย แผนเดินทางสำหรับผู้ฉีดวัคซีนในประเทศสิงคโปร์ สนับสนุนยอดจองเที่ยวบินเพิ่มสูงขึ้น


·         ผลการศึกษาของสหรัฐฯ ชี้ ไวรัสระบาดกระทบแผนการเกษียณของชาวอเมริกากว่า 35%

 

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com