MTS Help Center

ราคาน้ำมันดิบปิดทรงตัว โดยราคาพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้นช่วยชดเชยความกังวลเรื่องอุปสงค์น้ำมันลดลง จากประเทศเศรษฐกิจหลักๆที่เริ่มมีสัญญาณชะลอตัว ประกอบกับปัญหาทางด้านห่วงโซ่อุปทาน

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิด -20 เซนต์ หรือ -0.25% ที่ 80.44 เหรียญ/บาร์เรล
หลังจากที่วันอังคารทำระดับปิดสูงสุดตั้งแต่ ต.ค. ปี 2014 และเป็นการปิดบวกต่อเนื่อง 3 วันทำการ

สัญญาน้ำมันดิบ Brent ปิด -24 เซนต์ หรือ -0.3% ที่ 83.18 เหรียญ/บาร์เรล

อย่างไรก็ดี จะเห็นได้ว่า ราคาน้ำมันดิบเผชิญแรงกดดันจาก “จีน” ที่เป็นประเทศที่มีนำเข้าน้ำมันมากที่สุดของโลกที่เผยข้อมูลนำเข้าเดือนก.ย. พบว่า มีการนำเข้าน้ำมันลดลง 15% เมื่อเทียบกับปีก่อน

ทั้งนี้ จีน, ยุโรป และอินเดีย กำลังเผชิญปัญหาการขาดแคลนถ่านหินและก๊าซธรรมชาติ รวมไปถึงราคาสินค้าพลังานที่กำลังเพิ่มสูงขึ้น ทำให้เริ่มเห็นการใช้น้ำมันกลับมาทดแทนพลังงานกลุ่มดังกล่าว

คณะกรรมาธิการยุโรป มีการเปิดเผยถึงมาตรการที่ทางยุโรปจะสามารถใช้เพื่อต่อสู้กับราคาพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้นได้ พร้อมระบุถึงการจะสำรวจการซื้อก๊าซธรรมชาติร่วมกับประเทศต่างๆ

สำหรับกลุ่ม OPEC+ มีการปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันดิบปีนี้ แต่ยังคงมุมมองในปี 2022 แต่ราคาก๊าซธรรมชาติที่เพิ่มสูงขึ้น ก็ดูจะเป็นปัจจัยที่มาสนับสนุนให้อุปสงค์ในกลุ่มสินค้าประเภทน้ำมันมีการกลับมาใช้มากขึ้น

 

 

“ปูติน” ชี้ ราคาน้ำมันมีโอกาสเป็นไปได้อย่างมากที่จะถึง 100 เหรียญ

นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย กล่าวถึงราคาน้ำมันที่กำลังปรับตัวสูงขึ้นในเวลานี้ว่า “ราคามีโอกาสไปถึง 100 เหรียญ/บาร์เรล” ท่ามกลางอุปสงค์สินค้าโภคภัณฑ์ในหมวดพลังงานที่เพิ่มมากขึ้น

ราคาพลังงานมีการปรับขึ้นเป็นวงกว้าง ในขณะที่เศรษฐกิจกลับมาเปิดทำการ หลังเผชิญ Lockdown และภาวะอุปทานตึงตัวเป็นเวลาหลายเดือน

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ซื้อขายเหนือ 80 เหรียญ/บาร์เรล ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่พ.ย. ปี 2014

ทั้งนี้ นายปูติน เชื่อว่า ราคาที่เห็นมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นไปได้อีก และมองว่ามีความเป็นไปได้อย่างมากที่จะไปได้ถึง 100 เหรียญ

นอกจากนี้ ยังระบุว่า รัสเซียและประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายอื่นๆ หรือ OPEC+ กำลังร่วมมือกันในทุกทางที่เป็นไปได้ เพื่อให้ตลาดกลับมามีเสถียรภาพได้มากที่สุด รวมถึงพยายามที่จะไม่ให้ราคาพุ่งสู่จุดพีคมากเกินไป เพราะไม่ถือว่าเรื่องนี้เป็นผลประโยชน์สำหรับพวกเรา

 

“ปูติน” เผย รัสเซียจะไม่ใช้ “ก๊าซ” มาเป็นอาวุธ - อ้าง “สหรัฐฯ” เป็นตัวเพิ่มวิกฤตพลังงาน

ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีรัสเซีย ระบุว่า รัสเซียจะไม่ใช่ “พลังงาน” มาเป็นอาวุธในการต่อต้านยุโรป และรัสเซียพร้อมที่จะให้การช่วยเหลือในระดับภูมิภาคที่กำลังเผชิญวิกฤตพลังงานอย่างต่อเนื่อง

จะเห็นได้ว่า แม้แต่ในช่วงที่ยากที่สุดของสงครามเย็น รัสเซียก็ยังปฏิบัติตามข้อผูกพันตามสัญญาและจัดหาก๊าซให้กับยุโรปอย่างสม่ำเสมอ