· ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นทำสูงสุดต่อ จากอุปสงค์กลุ่มผู้ผลิตพลังงานและการฟื้นตัวจากวิกฤต Covid
ราคาน้ำมันดิบยังคงปรับตัวขึ้นทำสูงสุดรอบหลายปี โดยได้รับอานิสงส์จาก
- อุปสงค์พลังงานที่เพิ่มขึ้นจากวิกฤต Covid-19
- กลุ่มผู้ผลิตโรงงานไฟฟ้าหันกลับมาใช้น้ำมันและดีเซลเพิ่มขึ้น หลังราคาก๊าซและถ่านหินอยู่ในระดับสูง
สัญญาน้ำมันดิบ Brent ปรับขึ้น 87 เซนต์ หรือ +1% ที่ 85.73 เหรียญ/บาร์เรล ทำสูงสุดตั้งแต่ต.ค. 2018
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับขึ้น 1.12 เหรียญ หรือ +1.4% ที่ 83.40 เหรียญ/บาร์เรล เป็นสูงสุดตั้งแต่ ต.ค. ปี 2014
การเปลี่ยนผ่านการใช้ผลิตพลังงานไฟฟ้า ดูจะช่วยเพิ่มให้อุปสงค์น้ำมันสูงมากถึง 450,000 บาร์เรล/วัน ในช่วงไตรมาสที่ 4/2021
อย่างไรก็ดี ภาวะอุปทานที่เิพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ จากกลุ่มบริษัทด้านพลังงานในสัปดาห์ที่แล้ว ก็ดูจะเป็นอีกปัจจัยที่หนุนให้ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น ในขณะที่จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันเพิ่มสูงขึ้นด้วย
จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซ ถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ขั้นแรกสำหรับ ผลผลิตในอนาคตที่จะปรับตัวขึ้น 10 ต่อ 543 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นการปรับตัวสูงขึ้นมากสุดตั้งแต่เม.ย. ปี 2020
นอกจากนี้ ตลาดยังสนใจเศรษฐกิจจีนที่มีแนวโน้มชะลอตัวมากที่สุดรอบ 1 ปี ช่วงไตรมาสที่ 3 นี้ ดูจะได้รับผลกระทบจากขาดแคลนพลังงานและปัญหาคอขวดด้านอุปทาน
· รัฐมนตรีกระทรวงน้ำมันอียิปต์ เผย การลงทุนจากต่างชาติลดลง 26% สู่ระดับ 5.4 พันล้านเหรียญ ช่วงปี 2020 - 2021
ขณะที่เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนจะอยู่ที่ระดับ 7.3 พันล้านเหรียญ ซึ่งทั้งหมดเป็นผลมาจากวิกฤต Covid-19 ที่ฉุดรั้งให้การลงทุนของบริษัทน้ำมันในต่างประเทศทั่วโลกปรับตัวลดลง
ที่มา: CNBC